เหตุใดการเชื่อมต่อกับผู้จัดการหน้างานจึงดีต่อธุรกิจ

การศึกษาชิ้นใหม่ชี้ให้เห็นว่าองค์กรต่างๆ เพิกเฉยต่อผู้จัดการหน้างานที่มีความสำคัญอย่างไรบ้าง เราจะพาคุณไปเจาะลึกข้อมูลดังกล่าวและสำรวจ 5 วิธีในการขจัดอุปสรรคด้านการสื่อสารและเริ่มต้นเชื่อมต่อกับพวกเขาเหล่านี้กัน

การสื่อสารทางธุรกิจ | ใช้เวลาอ่าน 8 นาที
frontline managers - Workplace from Meta

บุคลากรหน้างาน หรือที่ผู้คนมักเข้าใจว่าเป็นบุคลากรที่ทำงานนอกสถานที่หรือกระจายตัวตามสถานที่ต่างๆ นั้นประกอบไปด้วยผู้คนจากหลากหลายบทบาทหน้าที่ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้ช่วยดูแลร้านค้า พนักงานครัว พนักงานขับรถบรรทุก พยาบาล นักบิน ทีมฝ่ายขาย ไปจนถึงพนักงานโรงงาน

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ แวดวงธุรกิจต่างให้ความสำคัญกับประเด็นที่ว่า เทคโนโลยีจะสามารถเชื่อมต่อและสนับสนุนบุคลากรหน้างานเหล่านี้ได้อย่างไร และเครื่องมือการสื่อสารทางธุรกิจที่เหมาะสมนั้นจะช่วยให้บุคลากรหน้างานได้มีสิทธิ์มีเสียงและเป็นส่วนหนึ่งของการสนทนาภายในบริษัทได้อย่างไรมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ดี บทบาทหนึ่งที่มักจะถูกมองข้ามอยู่เรื่อยไปก็คือ ผู้จัดการหน้างาน

ขจัดปัญหาในที่ทำงานด้วย Workplace

ไม่ว่าคุณจะต้องการแจ้งให้ทุกคนทราบเกี่ยวกับการกลับสู่ที่ทำงาน หรือนำวิธีการทำงานแบบผสมผสานไปปรับใช้ Workplace ก็สามารถทำให้การทำงานเป็นเรื่องง่ายขึ้นได้

ทำไมคุณถึงควรเชื่อมต่อกับผู้จัดการหน้างาน

ผู้จัดการหน้างานเป็นตำแหน่งระดับล่างสุดในโครงสร้างผู้นำขององค์กรส่วนใหญ่ ซึ่งนั่นหมายความว่า ผู้จัดการเหล่านี้มักได้รับเวลาและความสนใจจากคณะผู้บริหารเพียงน้อยนิด ทว่าเมื่อคุณหันไปดูที่ข้อมูล คุณจะเห็นได้ว่านี่เป็นความผิดพลาดอย่างเห็นได้ชัด

ผู้จัดการหน้างานคิดเป็นสัดส่วนราว 60% ของตำแหน่งสายการบริหารจัดการของบริษัท และทำหน้าที่ดูแลพนักงานของทั้งบริษัทมากสุดถึง 80% ด้วยกัน นั่นหมายความว่า ผู้จัดการเหล่านี้มีอิทธิพลต่อคนอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม การศึกษาชิ้นใหม่จาก Coleman Parkes ซึ่งดำเนินการในนามของ Workplace กลับพบว่า 59% ของผู้จัดการหน้างานนั้นไม่ได้รู้สึกว่าทางสำนักงานใหญ่ให้ความสำคัญกับหน้าที่การงานของตนเลย ในขณะที่มีผู้จัดการหน้างานเพียง 43% เท่านั้นที่ระบุว่า ผู้นำมักจะมาปรึกษาพวกเขาเป็นประจำเกี่ยวกับการตัดสินใจทางธุรกิจที่ส่งผลต่อลูกค้า แม้ว่าทีมงานของพวกเขาจะทำงานกับลูกค้าเหล่านั้นโดยตรงในทุกๆ วันก็ตาม

Host view of the Workplace Q&A video experience

ลดความซับซ้อนในการเชื่อมต่อและให้การสนับสนุนแก่พนักงานของคุณด้วยขั้นตอนง่ายๆ ทั้ง 7 ขั้นตอนนี้

สำนักงานใหญ่และบุคลากรหน้างานในหลายๆ องค์กรแทบจะไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลยด้วยซ้ำ บางองค์กรยังคงใช้กระดานแจ้งเตือนข่าวสารเป็นวิธีการหลักในการสื่อสารทางธุรกิจ และในบางครั้ง ผู้นำระดับอาวุโสก็จะลงมาเยี่ยมหน้าร้านหรือโรงงานเดือนละหนึ่งครั้ง แต่คำถามคือ ผู้นำเหล่านี้ได้อะไรกลับไปบ้างนอกจากสร้างเรื่องน่าปวดหัวให้กับพนักงานที่ทำงานที่นั่น

แม้ว่าการศึกษาจะชี้ให้เห็นว่ากลยุทธ์การสื่อสารทางธุรกิจได้มีการปรับปรุงให้ดีขึ้นเพื่อรับมือกับโควิด-19 (ผู้จัดการหน้างานที่คิดว่าองค์กรของตนมีช่องว่างทางการสื่อสารมีสัดส่วนลดลงจาก 60% เหลือ 25% ตั้งแต่เกิดการระบาดใหญ่ทั่วโลก) แต่โดยพื้นฐานแล้ว บุคลากรหน้างานและพนักงานที่สำนักงานใหญ่ก็คงยังห่างเหินซึ่งกันและกันอยู่

ปัญหาดังกล่าวได้แสดงออกมาใน 2 แนวทางที่สำคัญ อันดับแรก พวกเขาใช้เครื่องมือคนละประเภทในการสื่อสารระหว่างกัน ในขณะที่ผู้จัดการในสำนักงานใหญ่กว่า 90% มักใช้อีเมลในการติดต่อสื่อสารในช่วงล็อคดาวน์ แต่มีเพียงราว 1 ใน 4 ของผู้จัดการหน้างานเท่านั้นที่ใช้งานอีเมล โดยผู้จัดการหน้างานมากกว่าครึ่งกลับเลือกใช้แอพการส่งข้อความบนอุปกรณ์ส่วนตัวของตนแทน

แต่ในบางครั้ง สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือการเข้าใจว่าทั้งผู้จัดการหน้างานและผู้จัดการที่สำนักงานนั้นอยู่ในวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ มีผู้จัดการในสำนักงานใหญ่เพียง 25% เท่านั้นที่กล่าวว่า ตนเห็นใจเพื่อนร่วมงานที่ทำงานหน้างานมากขึ้นตลอดช่วงการระบาดใหญ่ทั่วโลก ซึ่งสิ่งนี้เองได้สร้างความประหลาดใจให้กับ 59% ของผู้จัดการหน้างานทั้งหมดที่คิดว่า ปัจจุบันเพื่อนร่วมงานของตนในสำนักงานใหญ่นั้นเข้าใจปัญหาที่ตนกำลังเผชิญอยู่มากขึ้น

ผู้จัดการหน้างานคงจะไม่รู้สึกว่าตัวเองถูกตัดขาดมากเช่นนี้หากพวกเขาสามารถให้ความสำคัญกับหน้าที่ความรับผิดชอบหลักของตนเอง เช่น การบริหารพนักงานในทีม การแก้ไขปัญหาต่างๆ และการดูแลลูกค้าโดยไม่มีสิ่งใดรบกวน แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากการศึกษาของ McKinsey พบว่า ผู้จัดการหน้างานใช้เวลาสูงสุดถึง 60% ของเวลาทั้งหมดไปกับงานด้านธุรการและมีเวลาในการจัดการงานจริงๆ เพียงแค่ 10% เท่านั้น

ปัญหาดังกล่าวไม่เพียงแต่จะส่งผลเสียต่อขวัญกำลังใจของแต่ละบุคคลเท่านั้น เพราะเมื่อคุณต้องดูแล 80% ของพนักงานในองค์กร ความคับข้องใจส่วนตัวนี้อาจลุกลามกลายเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อทั้งบริษัทได้

คุณจะช่วยให้ผู้จัดการหน้างานปลดล็อกศักยภาพของตนเองได้อย่างไร

คุณจะช่วยให้ผู้จัดการหน้างานปลดล็อกศักยภาพของตนเองได้อย่างไร

เหตุใดผู้จัดการหน้างานจึงถูกละเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาต้องทำงานอย่างใกล้ชิดกับกระบวนการทางธุรกิจที่สำคัญของบริษัท เราต้องไม่ลืมว่า ผู้จัดการหน้างานคือตำแหน่งที่มักเป็นหน้าเป็นตาให้กับองค์กรเวลาต้องพบปะกับลูกค้า ซึ่งหากคุณต้องการให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดจากธุรกิจของคุณ คุณก็ต้องทำให้ผู้จัดการเหล่านี้มีความสุขเสียก่อน

ความล่าช้าในการเชื่อมต่อกับผู้จัดการหน้างานนั้นส่วนหนึ่งเกิดจากทัศนคติแบบเก่าๆ ต่อบทบาทผู้จัดการหน้างาน แต่เดิม ผู้คนมักมองผู้จัดการหน้างานว่าเป็นตำแหน่งเล็กๆ ที่เชื่อมประสานระหว่างฟากการจัดการกับฟากพนักงาน และมีหน้าที่เพียงแค่ส่งต่อข้อมูลจากเบื้องบนหรือบังคับใช้นโยบายของบริษัทเท่านั้น

ทัศนคติดังกล่าวมองข้ามความสามารถของผู้จัดการหน้างานที่จะมีบทบาทสำคัญมากยิ่งขึ้นในธุรกิจไป ดังที่เราได้กล่าวไปแล้วว่า ผู้จัดการหน้างานมีหน้าที่ดูแลทีมงานที่ต้องติดต่อกับลูกค้าเป็นประจำ ซึ่งช่วยให้บุคคลเหล่านี้ได้รับข้อมูลเชิงลึกและความเห็นต่างๆ จากลูกค้าโดยตรง ตลอดจนรู้ว่าสิ่งใดที่ทำแล้วได้ผลและไม่ได้ผล (และอาจจะรู้สาเหตุด้วยว่าเพราะอะไร) อยู่นานแล้วก่อนที่ข้อมูลเหล่านี้จะไปถึงสำนักงานใหญ่ของบริษัทเสียอีก

องค์กรควรมีเป้าหมายในการดึงศักยภาพของผู้จัดการหน้างานมาใช้และให้อำนาจในการตัดสินใจหรือดำเนินการต่างๆ ที่มีแต่พวกเขาเท่านั้นที่จะมองเห็นโอกาสเหล่านั้น ด้วยเหตุนี้ จำนวนผู้จัดการหน้างานที่รู้สึกว่าตนมีอำนาจในการตัดสินใจมีสัดส่วนลดจาก 64% เหลือ 50% ในช่วงการระบาดใหญ่ทั่วโลกจึงเป็นเรื่องที่น่าท้อใจ ในทางกลับกัน สัดส่วนของผู้นำในสำนักงานใหญ่ที่กล่าวว่า ตนรู้สึกมีอำนาจในการตัดสินใจมากขึ้นนั้นเพิ่มขึ้นจาก 71% เป็น 78% แทนที่องค์กรจะส่งเสริมให้ผู้จัดการหน้างานได้มีอิสระในการตัดสินใจ องค์กรต่างๆ กลับยิ่งรวมศูนย์มากขึ้นไปอีก

ต้องการเคล็ดลับในการเชื่อมต่อและสนับสนุนผู้จัดการหน้างานใช่ไหม ดาวน์โหลดคู่มือฉบับนี้แล้วสำรวจกลยุทธ์ที่สำคัญ 7 ประการตอนนี้เลย

แล้วเราจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างไร

ธุรกิจต่างๆ จำเป็นต้องมีกลยุทธ์ในการส่งเสริม เอาใจใส่ และรับฟังเสียงจากผู้จัดการหน้างานอยู่เสมอ ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวเริ่มต้นด้วยการเชื่อมต่อพวกเขาเหล่านั้นกับทางสำนักงานใหญ่ (รวมไปถึงคณะผู้บริหาร) พนักงาน ตลอดจนเพื่อนร่วมงานของพวกเขา การเชื่อมต่อกับผู้จัดการหน้างานเป็นโอกาสเดียวเท่านั้นที่บริษัทจะได้ให้ข้อมูล เครื่องมือ และการฝึกอบรมที่จำเป็นแก่ผู้จัดการหน้างานเพื่อให้พวกเขาทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

การดำเนินการดังกล่าวจะเปลี่ยนองค์กรของคุณ จากองค์กรที่สร้างผลกระทบแบบบนลงล่างซึ่งการตัดสินใจมาจากผู้บริหารแล้วบังคับใช้ผ่านโครงสร้างแบบลำดับชั้นที่เข้มงวด ให้กลายเป็นองค์กรที่สร้างผลลัพธ์ที่ทำให้เกิดแรงกระเพื่อม ซึ่งหมายถึง ข้อมูลเชิงลึกและองค์ความรู้จากพนักงานส่งผลให้เกิดการตัดสินใจอย่างรอบคอบยิ่งขึ้นในภาคส่วนของผู้นำ

  1. รับทราบข้อมูลข่าวสารอย่างรวดเร็วจากผู้นำระดับอาวุโสโดยตรง
  2. ถามคำถามและให้ความเห็น
  3. ทำความเข้าใจต่อสิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญ
  4. สื่อสารกับเพื่อนร่วมงาน
  5. สื่อสารกับสมาชิกในทีม

วิธีเหล่านี้จะช่วยให้ผู้จัดการหน้างานได้รับประโยชน์ในแง่ตัวบุคคล และช่วยให้ตัวบริษัทเองได้รับประโยชน์ในวงกว้าง

ประโยชน์ 5 ข้อของการเชื่อมต่อกับผู้จัดการหน้างาน

ประโยชน์ 5 ข้อของการเชื่อมต่อกับผู้จัดการหน้างาน

#1: ผู้จัดการที่กระตือรือร้นช่วยให้ลูกค้ามีความสุขมากขึ้น

#1: ผู้จัดการที่กระตือรือร้นช่วยให้ลูกค้ามีความสุขมากขึ้น

เมื่อผู้จัดการหน้างานได้เชื่อมต่อกับทางสำนักงานใหญ่ พวกเขาก็จะสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับเป้าหมายและกลยุทธ์ทางธุรกิจมากขึ้น ทำให้พวกเขาเข้าใจว่าทีมของตนมีส่วนร่วมอย่างไรต่อเป้าหมายเหล่านั้น ตลอดจนมองเห็นบทบาทของทีมในกลยุทธ์โดยรวมได้ง่ายขึ้น การได้รับข้อมูลดังกล่าวมากขึ้นจะช่วยให้ผู้จัดการมีแรงจูงใจในการทำงานเพิ่มขึ้น

หากมองในมุมของบริษัท ผู้จัดการหน้างานถือได้ว่ามีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อขวัญกำลังใจและการมีส่วนร่วมของพนักงาน (อย่าลืมว่าพวกเขาต้องดูแลพนักงานมากถึง 80% ของทั้งองค์กร) ยิ่งผู้จัดการมีความกระตือรือร้น ก็จะยิ่งทำให้ทีมต่างๆ มีส่วนร่วมมากขึ้นเท่านั้น ส่งผลให้ความรู้สึกโดยรวมของพนักงานนั้นดีขึ้นและช่วยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน

#2: ผู้จัดการที่มีอิสระในการทำงานส่งผลให้บริษัทมีความคล่องตัวมากขึ้น

#2: ผู้จัดการที่มีอิสระในการตัดสินใจส่งผลให้บริษัทมีความคล่องตัวมากขึ้น

ผู้จัดการที่เป็นส่วนหนึ่งกับบริษัทจะไม่ทำเพียงแค่ส่งต่อข้อมูลให้เท่านั้น การที่พวกเขาเข้าใจบทบาทของตนเองในกลยุทธ์ของบริษัทจะทำให้พวกเขามีอำนาจในการตัดสินใจและแก้ไขปัญหาด้วยตนเองมากขึ้น แทนที่จะทำแค่รายงานสิ่งต่างๆ ให้ผู้คนในตำแหน่งสูงกว่าทราบ หรือถ้าแย่กว่านั้นก็ละเลยสิ่งเหล่านั้นไปเลย

การที่ผู้จัดการหน้างานมีอิสระมากขึ้นจะส่งผลดีต่อธุรกิจ เพราะทำให้ทั้งบริษัทมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ปัญหาจะถูกระบุได้ตั้งแต่เนิ่นๆ และแก้ไขได้อย่างรวดเร็วก่อนที่จะลุกลามและขยายวงกว้างไปยังส่วนอื่นๆ ของธุรกิจ วิธีนี้จะช่วยให้บริษัทที่พนักงานทุกคนเชื่อมต่อถึงกันมีผลิตภาพสูงขึ้นในระยะยาว

#3: ผู้จัดการที่มีอิทธิพลต่อผู้คนส่งผลให้เกิดการตัดสินใจที่รัดกุมยิ่งขึ้น

#3: ผู้จัดการที่มีอิทธิพลต่อผู้คนส่งผลให้เกิดการตัดสินใจที่รัดกุมยิ่งขึ้น

ผู้จัดการหน้างานส่วนใหญ่ไม่เคยได้มีโอกาสติดต่อกับผู้นำระดับอาวุโสของบริษัทมาก่อน ดังนั้นเมื่อทั้งสองฝ่ายเชื่อมต่อถึงกัน ผู้จัดการก็จะสามารถให้ความเห็นที่ไม่เหมือนใครเฉพาะตัวและตรงไปตรงมา ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจที่จะทำให้ทั้งบริษัทดียิ่งขึ้นได้

สิ่งนี้เองที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับบริษัท ลองนึกภาพกลุ่มผู้บริหารในห้องประชุมกำลังพิจารณาแผนภูมิที่ชี้ให้เห็นว่าโรงงานของตนมีผลิตภาพลดลง ผู้บริหารเหล่านี้สามารถคิดทฤษฏีอะไรก็ได้มาอธิบายตัวเลขเหล่านี้ แต่การรับฟังความคิดเห็นจากผู้ควบคุมสายการผลิตโดยตรงจะช่วยให้ผู้บริหารได้เห็นมุมมองจากฐานรากที่พวกเขาเองไม่เคยได้รับรู้มาก่อน ส่งผลให้การตัดสินใจต่างๆ เป็นไปอย่างรวดเร็วและรัดกุมยิ่งขึ้น

#4: ผู้จัดการที่มีส่วนร่วมกับองค์กรจะทำหน้าที่เป็นผู้ถ่ายทอดวัฒนธรรม

#4: ผู้จัดการที่มีส่วนร่วมกับองค์กรจะทำหน้าที่เป็นผู้ถ่ายทอดวัฒนธรรม

ซีอีโอและหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล (Chief Human Resource Officer หรือ CHRO) ใช้เวลาอย่างมากในการวางกลยุทธ์ที่จะปรับปรุงวัฒนธรรมองค์กร ทว่ากลยุทธ์เหล่านั้นถูกบังคับใช้ในที่ทำงานจริง โดยที่มีผู้จัดการหน้างานเป็นผู้ชมที่คอยวิพากษ์วิจารณ์ ดังนั้น การเชื่อมต่อทั้งสองฝ่ายเข้าด้วยกันจะช่วยให้ผู้จัดการหน้างานมีแนวโน้มเป็นผู้ถ่ายทอดวัฒนธรรมขององค์กรไปสู่สมาชิกในทีมได้มากยิ่งขึ้น

แล้วทำไมบริษัทจึงให้ความสำคัญในประเด็นนี้ ก็เพราะว่า ธุรกิจต่างๆ มีความเข้าใจมากขึ้นว่าสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจในระยะยาวนั้นไม่ได้มีแค่เรื่องกำไรเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงผู้คนด้วย อย่างไรก็ตาม CHRO ก็ไม่สามารถดูแลจัดการได้ทุกซอกทุกมุม ด้วยเหตุนี้ การทำให้ผู้จัดการหน้างานเป็นผู้ถ่ายทอดวัฒนธรรมที่มีความมุ่งมั่นจึงเป็นวิธีที่จะช่วยให้ CHRO สามารถขยายขอบเขตในการเผยแพร่วัฒนธรรมและทำให้โปรแกรมด้านบุคลากรของตนประสบความสำเร็จได้มากยิ่งขึ้น

#5: ผู้จัดการที่ผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดีกว่าจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานในระยะยาว

#5: ผู้จัดการที่ผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดีกว่าจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานในระยะยาว

โดยปกติแล้วบริษัทมักจะลงทุนด้านการฝึกอบรมผู้จัดการหน้างานน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ทว่าเมื่อผู้จัดการเหล่านี้ได้เชื่อมต่อกับเพื่อนร่วมงาน พวกเขาก็จะมีโอกาสได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ ผ่านการแบ่งปันหลักปฏิบัติที่ดีที่สุดและการถามคำถามมากยิ่งขึ้น แทนที่จะต้องรอการฝึกอบรมในชั้นเรียนที่นานๆ ครั้งถึงจะจัดขึ้น (หรือไม่จัดเลย)

เราสามารถเห็นผลลัพธ์ของพนักงานที่ได้รับการฝึกอบรมที่มีประสิทธิภาพมากกว่าได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผลิตภาพที่เพิ่มขึ้น การบริการลูกค้าที่ดีขึ้น หรือแม้แต่อัตราการลาออกที่น้อยลง ซึ่งการลงทุนด้านการฝึกอบรมทั้งในรูปแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการนี้จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานความคิดเรื่องบทบาทและความคาดหวังของผู้จัดการหน้างานในฐานะศูนย์กลางของพนักงานในยุคสมัยใหม่มากยิ่งขึ้นในระยะยาว

สรุป

สรุป

ผู้จัดการหน้างานอาจเป็นพนักงานที่มีบทบาทสำคัญที่สุดแต่ก็ถูกมองข้ามมากที่สุดในองค์กรด้วยเช่นกัน ซึ่งแต่เดิม ผู้จัดการหน้างานมีหน้าที่บังคับใช้นโยบายต่างๆ และส่งต่อข้อมูลจากผู้บริหารไปยังพนักงาน แต่การใช้เทคโนโลยีเพื่อเชื่อมต่อผู้จัดการหน้างานกับคณะผู้บริหาร สมาชิกในทีม และเพื่อนร่วมงานได้ทำให้บริษัทสามารถเปิดโอกาสให้ผู้จัดการหน้างานได้ตัดสินใจ แก้ไขปัญหา และสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบจากส่วนล่างของโครงสร้างองค์กรไปยังส่วนบนสุดได้

เมื่อผู้จัดการหน้างานได้เชื่อมต่อกับองค์กร พวกเขาก็จะกระตือรือร้นยิ่งขึ้น มีอิสระมากขึ้น สร้างความเปลี่ยนแปลงได้มากขึ้น ได้รับการฝึกอบรมที่ดีขึ้น ตลอดจนสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมได้ ซึ่งประโยชน์ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลต่อธุรกิจโดยตรง

เชื่อมต่อถึงกันอยู่เสมอ

รับข่าวสารและข้อมูลเชิงลึกล่าสุดจากบุคลากรหน้างาน

เมื่อส่งแบบฟอร์มนี้ จะถือว่าคุณยินยอมที่จะรับการติดต่อสื่อสารผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เกี่ยวกับการตลาดจาก Facebook ซึ่งประกอบด้วยข่าวสาร กิจกรรม ข้อมูลอัพเดต และอีเมลส่งเสริมการขาย คุณสามารถถอนความยินยอมและเลิกรับอีเมลดังกล่าวได้ทุกเมื่อ นอกจากนี้ คุณยังรับทราบว่าได้อ่านและยอมรับข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัวบน Workplace แล้ว

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

ดาวน์โหลดคู่มือฟรีเพื่อค้นพบกลยุทธ์หลังโควิดจากผู้นำด้านการสื่อสารระดับโลก

ดาวน์โหลดเลย
บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่
ขอบคุณสำหรับความเห็นของคุณ

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

ดาวน์โหลดคู่มือฟรีเพื่อค้นพบกลยุทธ์หลังโควิดจากผู้นำด้านการสื่อสารระดับโลก

ดาวน์โหลดเลย

โพสต์ล่าสุด

การสื่อสารทางธุรกิจ | ใช้เวลาอ่าน 10 นาที

วิธีสร้างความร่วมมือในทีมอย่างมีประสิทธิภาพในที่ทำงาน

ค้นพบเคล็ดลับที่จำเป็นในการเพิ่มประสิทธิภาพความร่วมมือในทีมในที่ทำงาน รวมถึงค้นพบประโยชน์ของการทำงานร่วมกันและวิธีเพิ่มประสิทธิภาพความร่วมมือในทีม

การสื่อสารทางธุรกิจ | ใช้เวลาอ่าน 9 นาที

วิธีแก้ไขปัญหาการสื่อสารทางธุรกิจของคุณ

เราจะมาอธิบายเรื่องการสื่อสารทางธุรกิจให้คุณได้ฟังกัน! ค้นพบว่าการสื่อสารทางธุรกิจคืออะไรและคุณจะปรับปรุงให้ดีขึ้นได้อย่างไร มาดูคำแนะนำที่นำไปปฏิบัติได้ง่ายๆ เหล่านี้กันเลย

การทำงานจากทางไกล | ใช้เวลาอ่าน 7 นาที

การทำงานจากทางไกล: ประโยชน์และความท้าทาย

พวกเราทำงานจากทางไกลและจะทำงานจากทางไกลกันมากขึ้นเรื่อยๆ ค้นพบข้อดีและข้อเสียของการทำงานจากทางไกลและวิธีใช้ประโยชน์สูงสุดจากการทำงานรูปแบบนี้