เสียงของพนักงาน: การรับฟังจะช่วยให้คุณสามารถสร้างวัฒนธรรมและคว้าตัวผู้มีความสามารถมาได้อย่างไร

องค์กรต่างๆ ล้วนกำลังมองหาวิธีที่จะดึงดูดและรักษาพนักงานที่เก่งที่สุดของตนเอาไว้เมื่อต้องเผชิญกับการลาออกครั้งใหญ่ นี่คือเหตุผลที่การรับฟังอาจเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จนั้น

การมีส่วนร่วมของพนักงาน | ใช้เวลาอ่าน 6 นาที

การระบาดใหญ่ทั่วโลกทำให้สิ่งที่พนักงานให้ความสำคัญเกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ในตอนนี้ การเลื่อนขั้น โอกาสในหน้าที่การงาน และความใกล้ชิดกับสำนักงานกลับกลายเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากกว่าเรื่องอย่างความปลอดภัย ความมั่นคง และความยืดหยุ่นของสถานที่ทำงาน ถึงเวลาแล้วที่องค์กรต่างๆ จะเปลี่ยนแปลงแนวทางในด้านการมีส่วนร่วมของพนักงาน สุขภาวะ และอัตราการทำงานต่อกับบริษัท ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเริ่มต้นที่เสียงของพนักงาน

ในวิดีโอนี้ Dan Schawbel ผู้เขียนหนังสือขายดีจาก New York Times และเป็นพาร์ทเนอร์ด้านการจัดการของ Workplace Intelligence จะมานำเสนอความเชี่ยวชาญของเขาในเรื่องความสำคัญของเสียงของพนักงาน และอภิปรายว่าผู้นำและผู้จัดการจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่มีความปลอดภัยและความเชื่อใจกันได้อย่างไร ลองดู

เสียงของพนักงานคืออะไร

เสียงของพนักงานคืออะไร

เสียงของพนักงานคือการให้พนักงานได้มีพื้นที่และโอกาสที่จะสื่อสารสิ่งที่พวกเขารู้สึกเกี่ยวกับสถานที่ทำงานและสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในที่ทำงาน การส่งเสริมเสียงของพนักงานเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการสร้างความสัมพันธ์แบบเปิดกว้างและไว้วางใจกันระหว่างพนักงาน ผู้นำ และผู้จัดการ ทั้งยังช่วยให้พนักงานรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า

แต่มันไม่ได้จบแค่นั้น นอกจากจะรับฟังพนักงานแล้ว องค์กรยังต้องให้คำมั่นที่จะดำเนินการแก้ไขสิ่งต่างๆ ที่พนักงานเป็นกังวลเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย หากปราศจากขั้นตอนการปฏิบัติจริงนี้ พนักงานก็จะยังคงรู้สึกไร้สิทธิ์ไร้เสียงและไร้คุณค่าเหมือนเดิม

"เราไม่เพียงแต่จะต้องรับฟังสิ่งที่พวกเขาพูดเท่านั้น แต่จะต้องลงมือทำจริงด้วย" Dan กล่าวในการเสวนากับ Abby GuthKelch หัวหน้าฝ่าย Global Executive Solutions ของ Workplace from Meta

"และหากมีเรื่องไหนที่คุณไม่สามารถทำได้ คุณก็จำเป็นจะต้องแสดงความโปร่งใสว่าทำไมคุณถึงทำไม่ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีผลอย่างมาก เพราะแน่นอนว่าคุณคงไม่สามารถทำได้ทุกอย่าง แต่ความโปร่งใสและการสื่อสารคือสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความเชื่อใจ"

เรียนรู้วิธีพลิกโฉมประสบการณ์ของพนักงาน

ดาวน์โหลดคู่มือของเราแล้วเริ่มต้นให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของพนักงานในขณะที่ธุรกิจเริ่มกลับมาดำเนินกิจการต่อกันได้เลย

เหตุใดเสียงของพนักงานจึงมีความสำคัญ

เหตุใดเสียงของพนักงานจึงมีความสำคัญ

เสียงของพนักงานคือปัจจัยหนึ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งซึ่งนำไปสู่ประสบการณ์ทำงานและสุขภาวะของพนักงาน การมีส่วนร่วม และแม้แต่อัตราการทำงานต่อกับบริษัทของพนักงาน เพราะเมื่อพนักงานรู้สึกว่าองค์กรรับฟังเสียงของตน พวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะอยู่ทำงานต่อกับองค์กรมากขึ้น

Dan กล่าวว่า "อย่างแรกคือเราต้องเริ่มปฏิบัติกับพนักงานในฐานะมนุษย์แทนที่จะมองว่าเป็นเพียงคนงาน เพราะนั่นคือวิธีที่เราจะสามารถผลักดันผู้มีความสามารถให้แสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ รักษาผู้มีความสามารถ และสร้างสภาพแวดล้อมในสถานที่ทำงานให้ดีขึ้นไปพร้อมกัน"

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างว่าการรับฟังและตอบสนองต่อเสียงของพนักงานจะส่งผลดีต่อพนักงานและองค์กรของคุณได้อย่างไรบ้าง

  • เพิ่มความพึงพอใจในงานที่ทำ

    พนักงานในสหราชอาณาจักรที่มีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรในระดับสูงมาก (96%) จะมีความรู้สึกว่าตนเองมีตัวตนมากกว่าพนักงานที่มีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรในระดับต่ำ (14%) อย่างมีนัยสำคัญ การช่วยให้พนักงานรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าในสถานที่ทำงานจะช่วยเพิ่มขวัญกำลังใจ สร้างเสริมปฏิสัมพันธ์เชิงบวกและเพิ่มความพึงพอใจในงานโดยรวม

  • สร้างวัฒนธรรมเชิงบวกที่ตั้งอยู่บนความไว้เนื้อเชื่อใจ

    ในโลกที่ไม่แน่นอนอย่างทุกวันนี้ สิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือการทำให้พนักงานของคุณรู้สึกว่าสามารถไว้วางใจองค์กร ผู้จัดการ และผู้นำของตนเองได้ การสื่อสารที่มีบทสนทนาแบบเปิดกว้างคือหัวใจสำคัญของการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ การสื่อสารที่โปร่งใสและสม่ำเสมอไม่เพียงช่วยให้พนักงานรู้สึกว่าตนเองมีตัวตน แต่ยังทำให้พวกเขารู้สึกอุ่นใจว่าองค์กรของคุณคำนึงถึงผลประโยชน์ของพวกเขาเป็นสำคัญ

  • ก่อให้เกิดนวัตกรรม

    นวัตกรรมคือสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของทุกองค์กร แต่นวัตกรรมจะประสบความสำเร็จได้อย่างแท้จริงนั้น จำเป็นต้องนำเอาเสียงและแนวคิดต่างๆ ของพนักงานซึ่งมีทิศทางเดียวกันกับค่านิยมร่วมมาใช้ประกอบการตัดสินใจต่างๆ ด้วย การทำได้เช่นนี้ย่อมทำให้พนักงานรู้สึกทุ่มเทกับหน้าที่ของตนเองมากขึ้น และเกิดความรู้สึกต้องการทำงานกับองค์กรของคุณต่อไปในระยะยาว

  • เพิ่มอัตราการทำงานต่อกับบริษัท

    พนักงานจะมีแนวโน้มลาออกจากบริษัทน้อยลงเมื่อรู้สึกว่าเสียงของตนมีคุณค่า TINYpulse พบว่าพนักงานที่รู้สึกไม่สะดวกใจในการแสดงความคิดเห็นต่อผู้บริหารระดับสูงจะมีแนวโน้มน้อยลง 16 % ที่จะทำงานต่อกับบริษัท1 การสนับสนุนให้พนักงานแบ่งปันความคิดและแนวคิดต่างๆ อย่างสม่ำเสมอจะแสดงให้เห็นว่าความคิดเห็นของพวกเขามีความหมาย ช่วยเพิ่มความรู้สึกว่าเป็นที่ยอมรับ และเพิ่มอัตราการทำงานต่อเนื่องกับบริษัท

เสียงของพนักงานและการมีส่วนร่วมของพนักงาน

เสียงของพนักงานและการมีส่วนร่วมของพนักงาน

เสียงของพนักงานเป็นตัวแปรสำคัญต่อการมีส่วนร่วมของพนักงาน งานวิจัยของ UKG และ Workplace Intelligence พบว่า พนักงานที่มีส่วนร่วมในระดับสูงมีแนวโน้มที่จะกล่าวว่าตัวเองมีตัวตนในที่ทำงานมากกว่าถึงสามเท่า (96%) เมื่อเทียบกับพนักงานที่มีส่วนร่วมน้อย (เพียง 30%) แต่อะไรคือความเชื่อมโยง และเหตุใดการมีส่วนร่วมของพนักงานจึงสำคัญยิ่ง

บุคลากรที่มีส่วนร่วมจะก่อให้เกิดประโยชน์หลายด้านต่อผู้ว่าจ้าง รวมถึงอัตราการทำงานต่อเนื่องของพนักงานและผลิตผลที่ดีขึ้นด้วย และนั่นคือสิ่งที่ดีทั้งต่อตัวบุคลากรและต่อผลประกอบการ จากการสำรวจหน่วยงานธุรกิจกว่า 23,000 แห่งของ Gallup พบว่าบุคลากรที่มีส่วนร่วมสูงซึ่งมีคะแนนอยู่ในควอร์ไทล์สูงสุดมีผลิตผลในการทำงานมากกว่าบุคลากรในควอร์ไทล์ต่ำสุดถึง 18%

เสียงของพนักงานยังช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่นให้กับการปรับตัวของบริษัทได้อีกด้วย พนักงานที่รู้สึกว่าตนมีช่องทางให้แจ้งปัญหาของตัวเอง มีแนวโน้มที่จะรับมือกับช่วงเวลาตึงเครียดหรือการเปลี่ยนภายในองค์กรได้ดีกว่าพนักงานที่ไม่รู้สึกว่าตัวเองสามารถแสดงความรู้สึกให้องค์กรรับรู้ได้

เสียงของพนักงานยังช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่นให้กับการปรับตัวของบริษัทได้อีกด้วย พนักงานที่รู้สึกว่าตนมีช่องทางให้แจ้งปัญหาของตัวเอง มีแนวโน้มที่จะรับมือกับช่วงเวลาตึงเครียดหรือการเปลี่ยนภายในองค์กรได้ดีกว่าพนักงานที่ไม่รู้สึกว่าตัวเองสามารถแสดงความรู้สึกให้องค์กรรับรู้ได้

alttext

คุณจะเก็บข้อมูลจากเสียงของพนักงานได้อย่างไร

วิธีเก็บข้อมูลจากเสียงของพนักงาน

วิธีเก็บข้อมูลจากเสียงของพนักงาน

การเก็บข้อมูลจากบทสนทนาของบุคคลและกลุ่มทั้งในเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณเป็นสิ่งจำเป็นในการเข้าใจความหมายที่ถูกต้องจากเสียงของพนักงานทั่วองค์กรของคุณ ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างวิธีการที่คุณอาจใช้เพื่อส่งเสริมและมีส่วนร่วมกับเสียงของพนักงานทั้งในระดับตัวต่อตัวและระดับทั่วทั้งบริษัท

แบบสำรวจความพึงพอใจ

แบบสำรวจความพึงพอใจคือแบบสำรวจสั้นๆ ที่มีชุดคำถามมาตรฐานซึ่งคุณสามารถส่งไปให้พนักงานได้เป็นระยะ แบบสำรวจดังกล่าวสามารถช่วยให้องค์กรเฝ้าสังเกตมุมมองของพนักงานเมื่อระยะเวลาผ่านไป ช่วยให้รับรู้ว่าส่วนใดพัฒนาขึ้นและส่วนใดที่อาจต้องปรับเปลี่ยนแนวทาง

เครื่องมือสำหรับทำงานร่วมกัน

เครื่องมือสำหรับการทำงานร่วมกันในทีมที่ช่วยให้คุณสามารถพบปะ ส่งข้อความ โทร และตรวจเทียบข้อมูลต่างๆ ได้ในแอพเดียวจะมอบพื้นที่ที่เหมาะสมเพื่อให้พนักงานได้สื่อสารกับผู้จัดการและผู้นำด้วยวิธีที่ให้ความรู้สึกปลอดภัย ทั้งยังช่วยให้การสนทนาที่สำคัญเกิดขึ้นได้ทุกที่ ช่วยให้พนักงานมั่นใจได้ว่าจะสามารถแสดงความเห็นได้ทุกเมื่อไม่ว่าจะอยู่สถานที่ใดหรือทำงานอยู่ที่ไหนก็ตาม

การสอบถามแบบตัวต่อตัว

บางคนอาจจะรู้สึกไม่สะดวกใจที่จะแสดงความคิดเห็นหรือพูดถึงปัญหาของตนกลางวงสนทนาขนาดใหญ่ การสอบถามแบบตัวต่อตัวระหว่างพนักงานและผู้จัดการจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าพนักงานทุกคนล้วนมีโอกาสและพื้นที่ในการถ่ายทอดความรู้สึกของตนเองได้ในแบบที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น จากนั้นผู้บังคับบัญชาจะสามารถนำข้อมูลที่ได้ไปดำเนินการหรือขยายผลไปเป็นการสนทนาในระดับที่กว้างขึ้นได้

การระดมความคิด

การระดมความคิดจะเป็นการสอบถามพนักงานเพื่อให้เสนอความคิดเห็น ข้อมูล หรืองานที่จะช่วยให้องค์มีความเข้าใจพนักงานมากขึ้นตั้งแต่ระดับล่างขึ้นมา ตัวอย่างการระดมความคิดที่มีประสิทธิภาพอาจจะเป็นการจัดตั้งกลุ่มอาสาสมัครเพื่อช่วยแก้ปัญหาบางอย่างที่พบจากการทำแบบสำรวจหรือการพูดคุยอื่นๆ มาแล้ว จากนั้นกลุ่มอาสาสมัครนี้ก็จะสามารถร่วมมือกันเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาให้แก่องค์กรโดยอิงจากเสียงของพนักงานได้

“อย่างแรกคือเราต้องเริ่มปฏิบัติกับพนักงานในฐานะมนุษย์แทนที่จะมองว่าเป็นเพียงคนงาน เพราะนั่นคือวิธีที่เราจะสามารถผลักดันผู้มีความสามารถให้แสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่”

6 วิธีในการนำเสียงของพนักงานมาใช้ประโยชน์ให้เต็มที่

6 วิธีในการนำเสียงของพนักงานมาใช้ประโยชน์ให้เต็มที่

การส่งเสริมเสียงของพนักงานเรียกได้ว่ามีความท้าทายมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงก่อนจะมีการระบาดใหญ่ ดังที่ Dan กล่าวว่า "เมื่อกระจายออกจากส่วนกลาง บุคลากรก็ถูกเพิกเฉยได้ง่ายขึ้น" ในยุคที่เราไม่สามารถเดินดุ่มๆ ไปหาสมาชิกในทีมถึงโต๊ะเพื่อถามไถ่สารทุกข์สุกดิบได้เหมือนเคย เราจึงจำเป็นต้องพึ่งพาเทคโนโลยีเทคโนโลยีมากขึ้นเพื่อช่วยเสริมสร้างและรักษาความสัมพันธ์ผ่านการสื่อสารในรูปแบบต่างๆ

กฏเหล็กของเราสำหรับผู้จัดการและผู้นำที่กำลังคิดหาทางนำเอาเสียงของพนักงานมาเป็นองค์ประกอบหลักของวัฒนธรรมในบริษัท ได้แก่

  1. สื่อสารกันให้เป็นนิสัย

    สนทนากับพนักงานเพื่อถามไถ่สารทุกข์สุกดิบอย่างสม่ำเสมอ ควรลองจัดประชุมกับผู้บังคับบัญชาทุกสัปดาห์หรือสองสัปดาห์และจัดตารางให้พนักงานทุกคนรับทราบ ทำเช่นนี้จะช่วยให้ทุกคนมีพื้นที่ในการพูดถึงปัญหาต่างๆ ได้ก่อนที่จะลุกลามเป็นปัญหาใหญ่

  2. มีความโปร่งใส

    คุณคงไม่สามารถตอบสนองทุกความต้องการได้ อย่างไรก็ตาม หากมีอะไรที่คุณไม่สามารถทำได้ สิ่งที่ต้องทำคือการอธิบายเหตุผล การแสดงความจริงใจและเคารพพนักงานของคุณในระดับนี้จะช่วยแสดงให้เห็นว่าคุณรับฟังและให้คุณค่ากับความคิดเห็นของพวกเขา แม้ว่าถึงที่สุดแล้วจะไม่สามารถตอบสนองความคิดเห็นเหล่านั้นได้ทันทีก็ตาม

  3. ตั้งกรอบเวลา

    เมื่อคุณตกลงที่ตอบสนองต่อปัญหาอะไรสักอย่าง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องบอกกล่าวให้พนักงานทราบว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงเมื่อใด การนำความเห็นมาจัดเป็นแผนงานจะช่วยป้องกันไม่ให้บุคลากรรู้สึกว่าคุณเพิกเฉยต่อปัญหาของพวกเขา ทั้งยังช่วยให้พวกเขามั่นใจมากขึ้นที่จะบอกเล่าปัญหาอื่นๆ ในอนาคต

  4. เปิดการสนทนา

    หากมีพนักงานเอ่ยถึงปัญหาที่น่าจะส่งผลกับคนอื่นๆ ในองค์กรด้วย ให้เปิดการสนทนากับพนักงานที่เหลือ การหาวิธีแก้ไขที่เหมาะสมจะทำได้ง่ายขึ้นมากหากคุณได้รับฟังเสียงและความคิดเห็นจากทุกคน

  5. สร้างพื้นที่เฮฮาสำหรับพนักงานในระดับเดียวกัน

    การศึกษาของ UKG และ Workplace Intelligence พบว่าพนักงานแต่ละกลุ่มก็จะมีความรู้สึกแตกต่างกันในด้านความรู้สึกว่าตัวเองมีตัวตน พนักงานที่ยังอายุน้อยมักจะคิดว่าองค์กรสนใจพวกเขาน้อยกว่าพนักงานอาวุโส เป็นต้น

    ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างพื้นที่เฮฮาสำหรับพนักงานเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าร่วมบทสนทนาได้ "ทุกคนควรได้แบ่งปันแนวคิดของตน โดยไม่เกี่ยงว่าจะอายุเท่าไหร่" Dan กล่าว "คนที่อายุ 23 ปีอาจจะมีแนวคิดที่ดีกว่าคนที่มีอายุ 62 ปีก็ได้ ทั้งคู่ควรมีโอกาสได้แบ่งปันมุมมองและความคิดเห็นของตนเอง"

  6. อย่าเหนียมอายต่อปัญหาต่างๆ

    ไม่มีองค์กรไหนที่สมบูรณ์แบบ นายจ้างจำเป็นต้องรับรู้เรื่องร้ายเช่นเดียวกับเรื่องดี นั่นหมายถึงการได้รู้ว่าคุณจะสามารถพัฒนาตรงจุดใดได้บ้างและสามารถเปิดการสนทนาในวงกว้างขึ้นกับพนักงานของคุณได้ เมื่อหยิบยกประเด็นปัญหาขึ้นมา องค์กรก็จะทำให้พนักงานได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาโดยตรง ทั้งช่วยสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจและความเคารพไปด้วย

อ่านต่อ

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

การมีส่วนร่วมของพนักงานคืออะไร และเหตุใดจึงมีความสำคัญต่อบุคลากรและธุรกิจของคุณ

เรียนรู้เพิ่มเติม

ไม่พลาดทุกการสื่อสาร

รับข่าวสารและข้อมูลเชิงลึกล่าสุดจากบุคลากรหน้างาน

เมื่อส่งแบบฟอร์มนี้ จะถือว่าคุณยินยอมที่จะรับการติดต่อสื่อสารผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เกี่ยวกับการตลาดจาก Facebook ซึ่งประกอบด้วยข่าวสาร กิจกรรม ข้อมูลอัพเดต และอีเมลส่งเสริมการขาย คุณสามารถถอนความยินยอมและเลิกรับอีเมลดังกล่าวได้ทุกเมื่อ นอกจากนี้ คุณยังรับทราบว่าได้อ่านและยอมรับข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัวบน Workplace แล้ว

1 "17 Surprising Statistics about Employee Retention", TINYpulse 2020
บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่
ขอบคุณสำหรับความเห็นของคุณ

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

การมีส่วนร่วมของพนักงานคืออะไร และเหตุใดจึงมีความสำคัญต่อบุคลากรและธุรกิจของคุณ

เรียนรู้เพิ่มเติม

โพสต์ล่าสุด

การมีส่วนร่วมของพนักงาน | ใช้เวลาอ่าน 8 นาที

การมีส่วนร่วมของพนักงานคืออะไร และเหตุใดจึงมีความสำคัญต่อองค์กรของคุณ

เรียนรู้เกี่ยวกับตัวขับเคลื่อนสำคัญที่ส่งผลต่อการมีส่วนร่วมของพนักงาน และวิธีสังเกตเมื่อพนักงานรู้สึกไม่มีส่วนร่วมกับการทำงาน

การมีส่วนร่วมของพนักงาน | ใช้เวลาอ่าน 8 นาที

คำถามสำหรับแบบสำรวจความพึงพอใจของพนักงาน: ควรถามอะไรและทำไม

คุณจะสร้างประสบการณ์ของพนักงานให้ออกมาดีเลิศได้อย่างไรหากคุณไม่สามารถวัดผลสิ่งเหล่านี้ได้ เรียนรู้วิธีใช้แบบสำรวจความพึงพอใจของพนักงานเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับองค์กรของคุณ

การสื่อสารทางธุรกิจ | ใช้เวลาอ่าน 7 นาที

กลยุทธ์การสื่อสารทางธุรกิจ และเหตุผลที่องค์กรจำเป็นต้องมีสิ่งเหล่านี้

องค์กรต่างๆ จำเป็นต้องทบทวนกลยุทธ์การสื่อสารของตนเองใหม่เมื่อบุคลากรเริ่มทำงานทางไกลในช่วงล็อกดาวน์ แต่ในปัจจุบัน เมื่อบุคลากรบางส่วนเริ่มกลับไปสู่ที่ทำงานแล้ว ธุรกิจจึงต้องกลับมาคิดกลยุทธ์ใหม่อีกครั้ง เรียนรู้วิธีจัดทำกลยุทธ์นี้กัน