ความสำคัญต่อธุรกิจของความเป็นผู้นำหน้างาน

ผู้นำหน้างานเป็นสะพานเชื่อมระหว่างองค์กร บุคลากรหน้างาน และลูกค้า แล้วอะไรคือพื้นฐานความเป็นผู้นำสำหรับผู้จัดการหน้างาน

บุคลากรหน้างาน | ใช้เวลาอ่าน 6 นาที
Leadership in the future of work - Workplace from Meta

บุคลากรหน้างานที่สำคัญในสายงานการดูแลสุขภาพไปจนถึงการบริการกำลังออกจากงานเป็นจำนวนมาก เมื่อนำตัวแปรอย่างค่าตอบแทนและเหตุผลที่เกี่ยวข้องกับโควิดออกจากสมการ การสำรวจของ Boston Consulting Group ได้ชี้ให้เห็นว่า สาเหตุหลักประการหนึ่งของการลาออกจากงานอาจมาจากการบริหาร ถ้าอย่างนั้น มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เราจะมาสำรวจความท้าทายที่ผู้จัดการหน้างานต้องเผชิญ รวมถึงหาคำตอบว่าเหตุใดการยอมรับศักยภาพในการเป็นผู้นำจึงเป็นสิ่งสำคัญหากต้องการพลิกแนวโน้มในเชิงลบให้กลับมาเป็นบวก

ผู้นำหน้างานคืออะไร

ผู้นำหน้างานคืออะไร

การทำงานหน้างาน คือการทำงานที่ต้องอยู่ห่างจากสำนักงานหลัก โดยอยู่ในสถานที่อย่าง ร้านค้า โรงงาน โรงพยาบาล และคลังสินค้า ในฐานะส่วนหนึ่งของโครงสร้างองค์กร ผู้จัดการหน้างานมีสัดส่วนคิดเป็น 60% ของทีมบริหารทั้งหมดในบริษัทโดยประมาณ และมีหน้าที่ดูแลพนักงานมากถึง 80%

คุณจะพบว่าบุคลากรในระดับนี้มีทั้งหัวหน้างาน หัวหน้าแผนก ผู้จัดการร้านค้า ผู้จัดการในสถานที่ ผู้จัดการสำนักงาน และผู้จัดการในพื้นที่ ซึ่งอาจเป็นการสวมบทบาทการจัดการเป็นครั้งแรกของใครหลายๆ คน บุคลากรเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการประสานงานให้การนำส่งสินค้าและการบริการเป็นไปอย่างสอดคล้องกัน ควบคุมทุกแง่มุมของกิจกรรมการทำงานและผลิตภาพ รวมไปถึงตรวจตราการดำเนินงานประจำวัน ศาสตราจารย์ Linda A. Hill จาก Harvard Business School1 กล่าวว่า บุคลากรเหล่านี้ "มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาคุณภาพ บริการ นวัตกรรม และผลการดำเนินงานทางการเงินที่ยั่งยืน"

อย่างไรก็ตาม โควิดก็ได้สร้างผลกระทบอันเจ็บปวดให้กับบุคลากรหน้างาน แม้วิกฤตครั้งนี้จะแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีคุณค่าต่อธุรกิจและสังคมในวงกว้างมากเพียงใดก็ตาม พนักงานนอกสถานที่ที่ยังคงทำงานในระหว่างการแพร่ระบาดของโควิด-19 และต้องใกล้ชิดกับสาธารณชนพบว่าความมั่นคงในงานหายไป นอกจากนี้ พวกเขายังต้องเผชิญกับความทุกข์ในด้านต่างๆ ทั้งทางสุขภาพกายและสุขภาพจิตมากกว่าบุคลากรในภาคส่วนอื่นๆ อีกทั้งยังมีความเสี่ยงที่จะสูญเสียรายได้มากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ตัวเลขยังแสดงให้เห็นว่าพนักงานกลุ่มนี้มีโอกาสที่จะติดเชื้อไวรัสมากกว่าพนักงานกลุ่มอื่นๆ

เหตุผลทั้งหมดนี้ทำให้ผู้จัดการหน้างานจำเป็นต้องก้าวขึ้นมาและแสดงศักยภาพของตนในฐานะผู้นำ ซึ่งไม่ได้หมายถึงการบริหารจัดการทีมเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องสร้างแรงบันดาลใจ สนับสนุน จูงใจ และส่งเสริมการเติบโต แม้ว่าผลกระทบจากการแพร่ระบาดใหญ่ยังคงทิ้งร่องรอยให้เห็นอยู่

เรียนรู้วิธีพลิกโฉมประสบการณ์ของพนักงาน

ดาวน์โหลดคู่มือของเราแล้วเริ่มต้นให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของพนักงานในขณะที่ธุรกิจเริ่มกลับมาดำเนินกิจการต่อกันได้เลย

เหตุใดความเป็นผู้นำหน้างานจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

เหตุใดความเป็นผู้นำหน้างานจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

แม้ว่าผลิตภาพจะเป็นจุดมุ่งหมายหลัก แต่ขอบเขตความรับผิดชอบของผู้นำหน้างานกลับขยายไปไกลเกินกว่าหน้าที่ ผู้นำหน้างานเป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างบุคลากรหน้างานและคนทั้งองค์กรเข้าด้วยกัน พวกเขาเห็นภาพที่กว้างกว่าของบริษัท และต้องสามารถแชร์วิสัยทัศน์นั้นในแนวทางที่สัมพันธ์กับทีมที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ซึ่งอาจรู้สึกถูกตัดขาดจากสำนักงานใหญ่ทั้งในแง่ของภูมิศาสตร์และอารมณ์

นอกจากนี้ผู้นำหน้างานต้องสามารถปล่อยวางจากรายละเอียดยิบย่อยในการผลิตผลงานประจำวัน และระบุได้ว่าต้องพัฒนากระบวนการและขั้นตอนการทำงานเมื่อใด จากนั้นจึงนำทีมของตนเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงที่จำเป็น แรงผลักดันในการดำเนินการอาจมาจากภายนอกในรูปแบบของแนวคิดริเริ่มที่ส่งผลต่อทั้งบริษัท เช่น การเปิดตัวผลิตภัณฑ์หรือการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ ผู้นำหน้างานต้องแน่ใจว่าผู้อยู่ใต้บังคับบัญชามีทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ดังนั้น การจัดทำโปรแกรมการเรียนรู้และการพัฒนาจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเริ่มต้นตั้งแต่วันแรกด้วยกระบวนการเตรียมความพร้อมสู่การทำงาน

นอกจากหน้าที่ความรับผิดชอบภายในแล้ว ผู้นำยังต้องให้ความสำคัญกับประเด็นภายนอกเช่นกัน ผู้นำหน้างานยืนอยู่ในจุดที่เชื่อมต่อธุรกิจของคุณกับโลกภายนอก ซึ่งมักจะได้ติดต่อกับลูกค้า ซัพพลายเออร์ พาร์ทเนอร์ และว่าที่ลูกค้าของธุรกิจโดยตรง ทำให้ผู้นำหน้างานต้องทำหน้าที่เป็นหน้าตาของแบรนด์ และบริการที่พวกเขามอบให้นั้นมีอิทธิพลอย่างมากต่อภาพลักษณ์ขององค์กรจากมุมมองของสาธารณะ

ในปัจจุบัน ทีมแนวหน้าเหล่านี้ได้กลายเป็นทั้งอินฟลูเอ็นเซอร์ นักวางกลยุทธ์ ผู้สอน และนักแก้ปัญหาเชิงรุกและเชิงสร้างสรรค์ ตลอดจนเป็นผู้สร้างความสัมพันธ์

ความท้าทาย 5 ประการที่ผู้นำหน้างานกำลังเผชิญอยู่

ความท้าทาย 5 ประการที่ผู้นำหน้างานกำลังเผชิญอยู่

1. การขาดการอบรมด้านความเป็นผู้นำ

จากข้อมูลของ Harvard Business Review ระบุว่า มีผู้นำระดับอาวุโสเพียง 12% เท่านั้นที่เชื่อว่าบริษัทของตนลงทุนด้านเวลา เงิน และทรัพยากรมากเพียงพอเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับผู้จัดการหน้างาน การเลื่อนตำแหน่งให้เป็นผู้นำหน้างานมักจะพิจารณาจากความสามารถทางด้านเทคนิคเพียงอย่างเดียว ทำให้ยังคงขาดทักษะด้านอื่นๆ เช่น การบริหารจัดการคน การโน้มน้าว หรือการเจรจาอยู่ การฝึกอบรมและการพัฒนาวิชาชีพจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนผู้จัดการมือใหม่เหล่านี้ในการทำหน้าที่ของตน

อย่างไรก็ตาม เอเจนซี่ด้านโซลูชั่นการเรียนรู้อย่าง CoreAxis2 กล่าวว่า หากมีการจัดการฝึกอบรมขึ้น "การฝึกอบรมนั้นมักจะเป็นกิจกรรมเฉพาะกิจ จัดขึ้นเป็นระยะ หรือมีระยะเวลาสั้นเกินไป" และให้คุณค่าอย่างจำกัด

Harvard Business Review แนะนำให้ก้าวออกจากการพัฒนาวิชาชีพในห้องเรียนรูปแบบเดิมๆ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น "ทฤษฎีและนามธรรม" แล้วหันมาใช้โมเดลสู่ความเป็นเลิศโดยมีการสอนแบบเพื่อนสู่เพื่อนและการให้คำปรึกษาจากทีมผู้จัดการยอดฝีมือของคุณ และแน่นอนว่า พนักงานนอกสถานที่ก็ต้องสามารถเข้าถึงการฝึกอบรมได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงอาจต้องนำเสนอการเรียนรู้ที่เหมาะกับสมาร์ทโฟนสำหรับผู้นำหน้างานที่ไม่มีคอมพิวเตอร์

2. ทีมที่หมดไฟ

ตามข้อมูลของ Fortune พบว่าบุคลากรหน้างาน 70% ประสบกับภาวะหมดไฟหรือมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะหมดไฟ เนื่องจากสถานการณ์ย่ำแย่ลงจากการล็อกดาวน์เพราะโควิด ซึ่งส่วนหนึ่งนำไปสู่การลาออกครั้งใหญ่ ในเดือนมีนาคม 2022 มีตำแหน่งงานว่างเกิดขึ้น 11 ล้านตำแหน่งในสหรัฐฯ โดยตำแหน่งงานว่างจำนวนมากมาจากการลาออกของบุคลากรหน้างานที่ต้องการเงินเดือนที่สูงขึ้นหรือความสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัว พนักงานที่ยังคงอยู่จึงสร้างแรงกดดันเพื่อหวังให้ผู้จัดการช่วยเหลือตนมากขึ้น ในขณะเดียวกัน ผู้นำหน้างาน 84% กล่าวโทษตัวเองที่ทำให้พนักงานเกิดภาวะหมดไฟสูง ซึ่งความกดดันในการทำงานที่เพิ่มขึ้นนี้ทำให้พวกเขาต้องทำงานเป็นเวลานานขึ้น

3. ความรู้สึกด้อยค่า

ผู้นำหน้างานมักมีความรู้มากมายเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนพฤติกรรมและความชอบของลูกค้าที่พร้อมจะแบ่งปัน แต่ก็ยังมีผู้นำหน้างานจำนวนมากที่รู้สึกว่าตนไม่ได้รับรู้ข่าวสารจากสำนักงานส่วนกลางของบริษัท มีบุคลากรไม่เกินครึ่ง (43%) ยอมรับว่าตนได้รับคำปรึกษาเกี่ยวกับการตัดสินใจทางธุรกิจที่ส่งผลต่อลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าตนและทีมจะเป็นฝ่ายที่ต้องลงสนาม นอกจากนี้ยังมีผู้จัดการหน้างานเพียง 20% เท่านั้นที่กล่าวว่า ตนมักจะได้รับการชื่นชมและรู้สึกมีคุณค่า ซึ่งผลลัพธ์ที่อาจตามมาคือการหมดความผูกพันและหมดแรงจูงใจในการทำงาน ซึ่งอาจส่งต่อไปสู่ผู้ใต้บังคับบัญชาของตนได้

ค้นหาแนวทางในการบรรเทาสถานการณ์เช่นนี้ได้ในบทความ "เหตุใดการเชื่อมต่อกับบุคลากรหน้างานจึงเป็นเรื่องดีต่อธุรกิจ" ของเรา

4. การจัดการพนักงานหน้างานที่หลากหลาย

บุคลากรหน้างานอาจมีความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ และอาจมีแนวโน้มที่จะประกอบด้วยผู้คนจากหลายช่วงอายุ และอยู่ในขั้นอาชีพที่แตกต่างกัน สาเหตุเหล่านี้ทำให้ผู้จัดการต้องเผชิญกับความท้าทายในการจัดการกับผู้ที่มีประสบการณ์ ทัศนคติ และมุมมองที่หลากหลายแตกต่างกัน และนำทางทุกคนให้เดินไปในทิศทางเดียวกัน

เนื่องจากมีพนักงานที่อยู่ภายใต้การดูแลเป็นจำนวนมาก ผู้นำหน้างานจึงต้องสามารถทำความเข้าใจและสนับสนุนความหลากหลายได้ในทุกรูปแบบ ซึ่งได้แก่ ความสามารถทางร่างกาย ความแตกต่างในทักษะด้านภาษา การอ่านเขียน และการรับรู้ และข้อควรพิจารณาอีกมากมายที่มีผลกับพนักงานที่อาจถูกตัดสินจากเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม เพศ และอัตลักษณ์ทางเพศที่แตกต่างกัน เมื่อผู้จัดการสามารถรับฟังสิ่งที่ทีมต้องการเพื่อใช้ในการเติบโต การมีส่วนร่วมของพนักงานที่เพิ่มขึ้นก็อาจเป็นผลพลอยได้ด้วยเช่นกัน แม้ว่าการไม่แบ่งแยกและความยุติธรรมจะต้องเป็นวัตถุประสงค์หลักก็ตาม

5. การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี

การระบาดใหญ่ทั่วโลกผลัดดันให้เทคโนโลยีก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ซึ่งรวมถึงระบบอัตโนมัตินี้ด้วย แม้ว่า AI จะไม่ได้เข้ามาแทนที่บุคลากรหน้างานด้วยหุ่นยนต์โดยสิ้นเชิง แต่ก็ทำให้บทบาทของบุคลากรหน้างานที่ใช้เครื่องจักรหรือผู้ที่ต้องทำงานซ้ำๆ หรืองานที่ต้องใช้แรงงานมากเปลี่ยนแปลงไป

การนำทีมให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอนทางเทคโนโลยีเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้นำหน้างาน ทั้งนี้ ธุรกิจจำเป็นต้องมีการฝึกอบรมทั้งสองฝ่ายเพื่อช่วยให้สามารถผสานการทำงานกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้อย่างสมบูรณ์ มีการสร้างกระบวนการทางธุรกิจที่จำเป็นต่อการสนับสนุนการทำงาน และส่งเสริม 'ทักษะด้านบุคคล' สำหรับการแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์และความฉลาดทางอารมณ์ นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสอันล้ำค่าสำหรับผู้จัดการในการสนับสนุนบุคลากรหน้างานให้ยึดมั่นกับการพัฒนาวิชาชีพของตน

5 ทักษะสำคัญสำหรับการเป็นผู้นำหน้างาน

5 ทักษะสำคัญสำหรับการเป็นผู้นำหน้างาน

ผู้นำจำเป็นต้องมีทักษะที่สำคัญในการวางแผนเส้นทางสู่ความสำเร็จพร้อมแบกรับหน้าที่หน้างานที่แฝงไปด้วยอุปสรรค

1. การสื่อสาร

การสนทนาเป็นรากฐานที่สำคัญของการจัดการที่ประสบความสำเร็จ และยังเป็นปัจจัยหลักในการสร้างความไว้วางใจ ซึ่งหมายถึงความสามารถในการพูดอย่างชัดเจน กระชับ และจริงใจโดยที่ยังคงรับฟังอย่างตั้งใจ ส่งเสริมให้แสดงความเห็น และเสนอการตอบกลับที่ผ่านการไตร่ตรอง แทนที่จะโต้ตอบไปตามน้ำเมื่อมีอุปสรรคเกิดขึ้น

การสื่อสารที่ดีต้องอาศัยความเข้าใจด้วย สำหรับผู้นำหน้างานแล้ว นั่นหมายถึงการรู้ว่าทีมของตนเหมาะสมกับกลยุทธ์ทางธุรกิจที่กว้างขึ้นมากน้อยเพียงใด พร้อมกับให้ความสำคัญกับความต้องการและมุมมองของคนในทีมอยู่เสมอ

ความสามารถด้านเทคโนโลยีเป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญในการสื่อสารสำหรับพนักงานนอกสถานที่ ผู้จัดการหน้างานต้องสามารถเข้าถึงผู้คนที่อยู่ในสถานที่ต่างๆ หรืออยู่ระหว่างการเดินทางได้ ดังนั้น เครื่องมือการทำงานร่วมกันทางออนไลน์ การประชุมผ่านวิดีโอ แพลตฟอร์มการส่งข้อความ และแอพบนมือถือจึงมีค่าอย่างยิ่งในการเชื่อมต่อผู้คนเข้าด้วยกัน

2. การโน้มน้าว

ผู้นำหน้างานต้องอยู่ตรงกลางระหว่างความต้องการของผู้บังคับบัญชาและผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา พวกเขาจึงเปรียบเหมือน "เส้นทางสำคัญระหว่างฝ่ายบริหารระดับสูงและพนักงานหน้างาน" ดังนั้น ทักษะการโน้มน้าวใจจึงเป็นสิ่งสำคัญ ผู้จัดการหน้างานต้องสามารถจูงใจและส่งผลเชิงบวกต่อการตัดสินใจของผู้อื่น โดยการอธิบายและเกลี้ยกล่อมเมื่อเกิดการโต้แย้ง มีความสามารถในการเจรจาและพยายามหาข้อสรุปที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน

3. กรอบความคิดแบบเติบโต

การเรียนรู้สิ่งใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ไปจนถึงความเปิดกว้างที่มากขึ้น เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้นำหน้างานทุกคนที่ต้องการคงความยืดหยุ่น การตอบสนอง และการปรับตัวได้ดี ด้วยความรู้ที่ว่าตนมีศักยภาพในการพัฒนา ผู้นำจะมีแนวโน้มที่จะมองความล้มเหลวด้วยความเป็นจริง โดยถือว่าความล้มเหลวนั้นเป็นจุดเริ่มต้นสู่ความสำเร็จมากกว่าความพ่ายแพ้ นอกจากนี้ การพัฒนากรอบความคิดแบบเติบโตยังเกี่ยวข้องกับการรับรู้ได้เมื่อคุณมีกรอบความคิดแบบยึดติดและการท้าทายข้อจำกัดเหล่านั้นอีกด้วย

4. ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ)

ความสามารถของผู้นำหน้างานในการรับรู้และเข้าใจความรู้สึกและอารมณ์ของตนรวมถึงคนอื่นๆ นั้นเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีอัตราการหมดไฟในทีมหน้างานในระดับสูง สิ่งนี้เป็นทักษะที่ครอบคลุมถึงการตระหนักรู้ในตัวเอง การกำกับตนเอง (การควบคุมตนเองในด้านดี) การสร้างแรงจูงใจให้ตนเอง ความเข้าอกเข้าใจ และความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์ที่เกิดจากความไว้วางใจและความเคารพซึ่งกันและกัน

5. ความสร้างสรรค์

ความสามารถในการคิดนอกกรอบไม่ได้จำกัดไว้เพื่อใช้ในวงการสร้างสรรค์เท่านั้น ตั้งแต่การแก้ปัญหาไปจนถึงการวางกลยุทธ์ ความคิดสร้างสรรค์ได้เปิดช่องทางสู่นวัตกรรม เพิ่มศักยภาพในการแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยให้ผู้นำหน้างานสามารถมองเห็นโลกผ่านมุมมองของผู้อื่นได้

การออกกำลังกาย การจดบันทึกการทำงาน การหยุดพักจากการทำงาน และการละสายตาจากเทคโนโลยี สามารถส่งเสริมให้เกิดความคิดสร้างสรรค์และช่วยให้คุณคิดได้กว้างไกลและดียิ่งขึ้น

หัวข้อที่คุณอาจสนใจ

ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

เป็นผู้นำร่วมกับบุคลากรหน้างานของคุณ

เรียนรู้เพิ่มเติม
1, 2 "Importance of Front Line Managers & Why They Cannot Be Forgotten in Leadership Development", Coreaxis, 2019.
บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่
ขอบคุณสำหรับความเห็นของคุณ

โพสต์ล่าสุด

อนาคตของการทำงาน | ใช้เวลาอ่าน 11 นาที

อนาคตของการทำงาน

อนาคตของการทำงานจะเป็นอย่างไร นับตั้งแต่การทำงานเป็นทีมแบบไฮบริดไปจนถึงการฝึกอบรมแบบ VR ในเมตาเวิร์ส ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เราต้องเผชิญในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้

การมีส่วนร่วมของพนักงาน | ใช้เวลาอ่าน 8 นาที

การมีส่วนร่วมของพนักงานคืออะไรและเหตุใดจึงมีความสำคัญต่อองค์กรของคุณ

การมีส่วนร่วมของพนักงานส่งผลต่อทุกสิ่ง นับตั้งแต่ผลิตภาพไปจนถึงความสุขในการทำงาน เรียนรู้เกี่ยวกับปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญที่ส่งผลต่อการมีส่วนร่วมของพนักงาน และวิธีสังเกตเมื่อพนักงานรู้สึกไม่มีส่วนร่วมกับการทำงาน

ความร่วมมือในทีม | ใช้เวลาอ่าน 10 นาที

วิธีสร้างความร่วมมือในทีม

ค้นพบเคล็ดลับที่จำเป็นในการเพิ่มประสิทธิภาพความร่วมมือในทีมในที่ทำงาน รวมถึงค้นพบประโยชน์ของการทำงานร่วมกันและวิธีเพิ่มประสิทธิภาพความร่วมมือในทีม