ไอเดียการสร้างโฮมออฟฟิศในราคาประหยัด: เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

หลังจากเกิดการระบาดใหญ่ทั่วโลก การทำงานจากทางไกลและการทำงานแบบไฮบริดจะคงอยู่ไปอีกนาน ดังนั้น เราจึงจัดทำคู่มือนี้เพื่อช่วยเหลือผู้คนในการสร้างโฮมออฟฟิศที่ใช้ทั้งพื้นที่และเงินอย่างคุ้มค่าที่สุด รวมทั้งช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ของพนักงาน

การทำงานจากทางไกล | ใช้เวลาอ่าน 9 นาที
cheap home office ideas - Workplace from Meta

การมีพื้นที่สำหรับทำงานโดยเฉพาะได้กลายเป็นเรื่องสำคัญในยุคปัจจุบัน ผู้คนจำนวนมากจึงทำงานจากทางไกลหรือเริ่มจัดตารางการทำงานแบบไฮบริด แต่คุณจะทำอย่างไร หากคุณไม่ได้มีพื้นที่ว่างหรือเงินมากเพียงพอ เราจึงได้สอบถามนักออกแบบภายในและนักกายภาพบำบัดเกี่ยวกับไอเดียการจัดโฮมออฟฟิศที่ดีที่สุดในราคาประหยัดมาฝากคุณ หากคุณกำลังสงสัยว่าจะจัดโฮมออฟฟิศอย่างไรโดยไม่ต้องใช้ห้องเพิ่มเติม หรือต้องการจัดโฮมออฟฟิศในพื้นที่จำกัด เราขอแนะนำให้อ่านบทความนี้

นโยบายการทำงานจากทางไกลที่ผ่อนคลายจัดทำขึ้นเพื่อช่วยให้พนักงานและบริษัททำงานได้อย่างมีความสุข การค้นคว้าในปี 2017 จาก Stanford University เผยให้เห็นว่าพนักงานของ Ctrip ซึ่งเป็นบริษัทการท่องเที่ยวชั้นนำของจีนที่เลือกทำงานจากที่บ้าน สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานโดยรวมได้ถึง 13% ซึ่งความอิสระและความสะดวกสบายที่พนักงานได้รับจากการทำงานในพื้นที่ของตนทำให้ธุรกิจได้รับประโยชน์ไปด้วย ความสุขของพนักงานเหล่านี้เพิ่มขึ้นอย่างมากจนทำให้อัตราการทำงานต่อกับบริษัทเพิ่มขึ้น 50% ซึ่งช่วยให้บริษัทประหยัดงบประมาณในการสรรหาบุคลากร แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีความยุ่งยากที่ซ่อนอยู่ เพราะเมื่อต้องตอบโจทย์การทำงานจากที่บ้าน พนักงานจะต้องมี "ไวไฟคุณภาพดี" และมีโฮมออฟฟิศ หรือพื้นที่สำหรับการทำงานโดยเฉพาะ

แก้งานยุ่งได้ไม่ยากด้วย Workplace

ไม่ว่าคุณจะต้องการแจ้งให้ทุกคนทราบเกี่ยวกับการกลับสู่ที่ทำงาน หรือนำวิธีการทำงานแบบผสมผสานไปปรับใช้ Workplace ก็สามารถทำให้การทำงานเป็นเรื่องง่ายขึ้นได้

เวลา 3 ปีผ่านไปอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่โลกเข้าสู่ภาวะการระบาดใหญ่ทั่วโลก และตอนนี้ความต้องการในการทำงานจากที่บ้านของผู้คนส่วนใหญ่ได้กลายเป็นเรื่องที่น่ากังวลใจ นักเศรษฐศาสตร์จาก Stanford อย่าง Nicholas Bloom ซึ่งเป็นผู้นำในการจัดทำแบบสำรวจประจำปี 2017 คิดว่าสิ่งรบกวนจากสมาชิกในบ้านที่เพิ่มเข้ามาและพื้นที่การทำงาน "ที่ไม่เหมาะสม" จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมลดลง1 แต่การตื่นเช้าและการสวมชุด "ทำงาน" ของคุณ รวมถึงการจัดโฮมออฟฟิศหรือพื้นที่การทำงานที่เหมาะสมสามารถช่วยแก้ปัญหาในเรื่องประสิทธิภาพการทำงานที่ต่ำ ทำให้มีสมาธิจดจ่อเพิ่มขึ้น และคืนความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานที่แสนสำคัญได้

พวกเราหลายคนไม่ได้มีโฮมออฟฟิศให้ใช้งานได้ทันที และน้อยคนนักที่จะมีห้องสำหรับทำงานที่แยกจากกัน หากสามี/ภรรยาหรือเพื่อนร่วมบ้านของเราต้องใช้พื้นที่ในการทำงานเช่นกัน แต่โชคดีที่การสร้างพื้นที่ที่เหมาะกับชีวิตการทำงานประจำของคุณนั้นไม่ใช่เรื่องยากและไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณที่สูงเสมอไป Cathy Flanagan นักออกแบบภายในและ Colin Nash นักกายภาพบำบัดที่ได้รับใบอนุญาตร่วมกันแบ่งปันไอเดียดีๆ สำหรับจัดโฮมออฟฟิศในราคาประหยัด ไม่ว่าจะเป็นการจัดพื้นที่ การใช้แสงและชุดสี ไปจนถึงเรื่องของการยศาสตร์และสุขภาพกาย

สร้างพื้นที่ทำงานในบ้านที่เหมาะกับคุณ

สร้างพื้นที่ทำงานในบ้านที่เหมาะกับคุณ

คำนึงถึงความอเนกประสงค์
คำนึงถึงความอเนกประสงค์

ใช่ว่าพวกเราทุกคนจะมีห้องว่างที่พร้อมสำหรับการเปลี่ยนเป็นโฮมออฟฟิศเสมอไป หรือไม่ได้มีเวลาหรืองบประมาณมากเพียงพอที่จะปรับโฉมบ้านใหม่ แต่โชคดีที่คุณสามารถจัดพื้นที่สำหรับการทำงานให้มีประสิทธิภาพได้ง่ายๆ ในราคาประหยัดด้วยพื้นที่ที่คุณมี แม้ว่าจะเป็นพื้นที่ขนาดเล็กก็ตาม

Cathy Flanagan ผู้ก่อตั้ง Keep Interior Design สตูดิโอออกแบบในลอนดอนกล่าวว่า คุณสามารถใช้พื้นที่ที่มีอยู่ในบ้านเป็นโฮมออฟฟิศได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นห้องว่างที่ไม่ค่อยได้ใช้หรือมุมสว่างๆ ในห้องรับประทานอาหารก็ตาม ไม่ว่าการใช้งานของคุณจะเป็นอย่างไร ขอแนะนำว่าอย่าเลือกพื้นที่ที่แคบจนเกินไป ตามที่ Cathy ได้กล่าวว่า "ฉันเลือกที่จะปรับพื้นที่กว้างๆ ให้ใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์มากกว่าที่จะทำงานในพื้นที่ที่แคบๆ หรือน่าอึดอัด เช่น ที่ว่างใต้บันได"

นักกายภาพบำบัดอย่าง Colin Nash ก็เห็นด้วยเช่นกัน "หากเป็นไปได้ ให้เลือกพื้นที่ที่คุณสามารถปรับเปลี่ยนท่าทางได้ตลอดทั้งวัน เพราะการรักษาท่าทางให้ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ" เขากล่าว "นอกจากนี้ การมีพื้นที่ที่คุณสามารถเดินออกมาจากโต๊ะทำงานและยืดเส้นยืดสายเป็นครั้งคราวก็เป็นเรื่องสำคัญ"

วางแผนการจัดวางให้ดี
วางแผนการจัดวางให้ดี

ในสหราชอาณาจักร ผู้คนทำงานโดยเฉลี่ยถึง 42 ชั่วโมงต่อสัปดาห์2 ซึ่งคิดเป็นเวลาการทำงานมากกว่า 8 ชั่วโมงต่อวันที่จะทำให้คุณรู้สึกสบาย ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรู้สึกอยากทำงานในพื้นที่การทำงานในบ้านของคุณ ไม่ว่าคุณจะมีห้องสำหรับเปลี่ยนเป็นโฮมออฟฟิศอยู่แล้ว หรือต้องการจัดพื้นที่ทำงานในห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือห้องครัวก็ตาม การเลือกตำแหน่งการจัดวางเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งตามที่ Cathy กล่าวว่า "คุณจะต้องอยู่ในห้องนี้เป็นเวลานาน ดังนั้น การออกแบบและการวางแผนใช้สอยพื้นที่ให้ได้ประโยชน์มากที่สุดจึงเป็นเรื่องสำคัญ"

คุณสามารถทำได้ง่ายๆ Cathy แนะนำว่าให้หาแรงบันดาลใจเป็นอย่างแรก เช่น การดูรูปจาก Instagram, Pinterest หรือนิตยสารตกแต่งภายใน เพื่อดูไอเดียเกี่ยวกับการใช้สี พื้นผิว สไตล์ และการจัดวาง แต่อย่าลืมพิจารณาพื้นที่ที่คุณมีอยู่ด้วย เพราะคุณคงไม่อยากให้โต๊ะทำงานสวยๆ ที่คุณเห็นจากอินเทอร์เน็ตบังกรอบหน้าต่าง หรือชั้นวางหนังสือที่คุณซื้อมาเก็บแฟ้มเอกสารสูงเกินไปสำหรับกำแพงของคุณ

กั้นพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน
กั้นพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน

หากคุณเลือกใช้ห้องที่มีอยู่ เช่น ห้องนั่งเล่น เป็นพื้นที่ทำงานในบ้าน อย่าลืมกั้นพื้นที่โดยใช้ผ้าม่านหรือต้นไม้เพื่อแยกพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน Cathy กล่าวว่า "การตัดขาดจากการทำงานเมื่อเลิกงานแล้วถือเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำ เพื่อแบ่งขอบเขตให้ชัดเจนและทำให้คุณได้พักผ่อนจากการทำงาน" ซึ่งรวมไปถึงห้องนอนสำหรับแขกด้วยเช่นกัน "แขกของคุณคงไม่อยากรู้สึกว่าตัวเองนอนอยู่ในสำนักงานแน่นอน" เธอกล่าว

ใช้แอพมาช่วย
ใช้แอพมาช่วย

หากคุณต้องการวางแผนเป็นขั้นตอน คุณสามารถดาวน์โหลดแอพด้านการตกแต่งภายในที่เชื่อถือได้เพื่อช่วยให้คุณสามารถวางแผนการจัดพื้นที่ได้โดยเห็นภาพ หากคุณต้องการวางแผนออกแบบจากมุมสูงง่ายๆ ขอแนะนำให้ใช้แอพ Floorplanner แอพนี้ใช้งานง่าย ฟรี และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการจัดวางแปลนห้องแบบ 2 มิติ พร้อมช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณจะสามารถวางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นโปรดได้อย่างพอดีทุกชิ้น หากคุณต้องการซอฟต์แวร์ที่ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งช่วยให้คุณมองเห็นทุกมุมมองของการออกแบบ ลองใช้ SketchUp ซอฟต์แวร์ขวัญใจบรรดามืออาชีพเพราะสามารถสร้างแบบจำลอง 3 มิติ ดูตัวอย่างได้ในพื้นที่จริง และใช้งานง่าย "ราวกับว่าคุณกำลังออกแบบด้วยปากกาและกระดาษ"3

สุขภาพและสุขภาวะทางกาย

สุขภาพและสุขภาวะทางกาย

โดยทั่วไปแล้ว เมื่อพูดถึงคำว่า "การยศาสตร์" เรามักจะนึกถึงภาพของเก้าอี้ แป้นพิมพ์ และอุปกรณ์สำนักงานอื่นๆ ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงาน แต่คำว่าการยศาสตร์มีความหมายมากกว่านั้น หน่วยงาน Health and Safety Executive (HSE) ของสหราชอาณาจักรได้อธิบายความหมายของการยศาสตร์ไว้ว่าเป็น "ศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับ 'ความเหมาะสม' ระหว่างผู้คนและการทำงาน" ซึ่งได้แก่ งานที่ทำ ความสามารถทางร่างกายและจิตใจของผู้ทำงาน ตลอดจนสภาพแวดล้อมขององค์กรและสังคม4

เมื่อพูดถึงประโยชน์ของการยศาสตร์เพื่อสุขภาพและความปลอดภัย HSE ได้กล่าวไว้ว่า การนำหลักปฏิบัติเหล่านี้มาใช้ในที่ทำงาน "ช่วยลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุ ลดโอกาสในการบาดเจ็บและความเจ็บป่วยทางร่างกาย อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการทำงานอีกด้วย" ดังนั้น เมื่อเราทำงานจากทางไกล เราจึงจำเป็นต้องนำประโยชน์จากการยศาสตร์ของที่ทำงานมาปรับใช้กับพื้นที่การทำงานในบ้าน โดยที่ไม่ทำร้ายกระเป๋าสตางค์หรือหลังของเรา

ปัญหาเกี่ยวกับอาการปวดเมื่อย

ปัญหาเกี่ยวกับอาการปวดเมื่อย

ตั้งแต่เริ่มมีการล็อกดาวน์ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ปัญหาเกี่ยวกับโรคทางกระดูกและกล้ามเนื้อก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ผลจากแบบสำรวจสุขภาวะในการทำงานจากที่บ้านของ IES เผยให้เห็นว่าผู้ตอบแบบสำรวจมากกว่า 58% มีอาการปวดคอ, 56% รู้สึกปวดไหล่มากขึ้น และ 55% รายงานว่ามีอาการปวดหลังนับตั้งแต่เริ่มทำงานจากทางไกลแบบเต็มเวลา

อาการปวดเมื่อยและความเจ็บปวดนี้มาจากสาเหตุที่หลากหลาย ซึ่งความเหนื่อยล้าและการนอนหลับไม่สนิทก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่ง เพราะผู้คน 60% กล่าวว่าตนไม่สามารถนอนหลับได้อย่างเต็มอิ่ม นอกจากนี้ ความเครียดสะสมเกี่ยวกับความปลอดภัยของครอบครัวและความมั่นคงในอาชีพการงานก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุ แต่อย่างไรก็ตาม สาเหตุหลักนั้นมาจากร่างกาย ซึ่งได้แก่ การนั่งหลังค่อมหรือการนั่งไม่ถูกท่าเป็นเวลานาน การขาดการเคลื่อนไหว การจัดพื้นที่การทำงานที่ไม่เป็นระเบียบ และการใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ถูกต้อง หากคุณกำลังทรมานอยู่ ความเจ็บปวดนั้นอาจทุเลาลงเมื่อคุณได้พบกับคำแนะนำในการปรับเปลี่ยนท่าทางที่ทำได้ง่ายๆ และประหยัด (หรือฟรี) ที่จะช่วยให้อาการปวดเมื่อยของคุณหายได้ในเร็ววัน

พื้นที่การทำงานแบบคิดนอกกรอบ

พื้นที่การทำงานแบบคิดนอกกรอบ

ประชากรในสหราชอาณาจักรกว่า 90% ใช้คอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อปเพื่อทำงาน แต่เมื่อต้องทำงานจากที่บ้าน เราก็ไม่จำเป็นต้องนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานเหมือนอย่างที่เคยทำเสมอไป หรืออย่างน้อยก็ไม่ต้องนั่งอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น การย้ายพื้นที่ทำงานจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งและมีระดับความสูงที่แตกต่างกันเพื่อเปลี่ยนท่าทางจึงมีประโยชน์อย่างมาก ดังที่ Colin ผู้เขียนเรื่องนี้จากห้องครัวโดยใช้เก้าอี้เตี้ยรองแล็ปท็อปแล้ววางไว้บนโต๊ะกินข้าวกล่าวไว้

"ที่ตรงนี้เป็นโต๊ะยืนทำงานที่พอดีกับความสูงของผม" เขากล่าว "เมื่อต้องการความสะดวกสบายในการทำงานจากทางไกล ให้ลองคิดนอกกรอบดู คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินก้อนโตเพื่อซื้อโต๊ะทำงานแบบปรับระดับได้ ลองใช้เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ที่คุณมีอยู่แล้วที่บ้านแทน เช่น กล่องและหนังสือ เพื่อปรับระดับความสูงในการยืนทำงานที่ถนัด"

การวางตำแหน่งที่ดีที่สุด

การวางตำแหน่งที่ดีที่สุด

สำหรับการจัดท่าทางที่สมบูรณ์แบบและการวางตำแหน่งที่ดีที่สุดแล้ว Colin เตือนว่าอย่าทำร้ายกระเป๋าสตางค์ของคุณด้วยการซื้อเก้าอี้ปรับระดับได้ที่แพงหูฉี่ "เมื่อคุณต้องจัดโต๊ะทำงาน โปรดจำไว้ว่าไม่มีท่าทางใดที่สมบูรณ์แบบที่สุด ดังนั้นให้ลองใช้สิ่งที่คุณมีอยู่" เขากล่าวพร้อมกับแนะนำความสมดุลระหว่างเก้าอี้ในห้องครัวหรือเก้าอี้กินข้าวมาตรฐาน ลูกบอลน้ำหนักและการยืนตัวตรง

"หัวใจสำคัญคือคุณต้องเปลี่ยนท่าทางบ่อยๆ ทดลองเพื่อหาวิธีการที่เหมาะกับคุณ ซึ่งผมขอแนะนำให้เปลี่ยนท่าทางการนั่ง หรือนั่งสลับยืนทุกๆ 30-60 นาที แม้จะไม่มีท่าทางการทำงานใดที่เหมาะสมที่สุด แต่ผมอยากแนะนำให้คุณขยับแป้นพิมพ์เข้าใกล้ตัว และหากเป็นไปได้ คุณควรปรับหน้าจอให้อยู่ในระดับสายตา"

จิตใจชนะทุกอย่าง

จิตใจชนะทุกอย่าง

การดูแลสุขภาพให้แข็งแรงไม่ได้เป็นเพียงเรื่องเดียวที่คุณต้องให้ความสำคัญเมื่อต้องทำงานจากที่บ้าน มีเคล็ดลับง่ายๆ อยู่มากมายที่จะทำให้คุณสามารถจดจ่อและมีสมาธิอยู่กับงาน รวมถึงช่วยรักษาสมดุลระหว่างความสงบสุขและความมีประสิทธิภาพในการทำงาน

เรื่องของแสงและสี

เรื่องของแสงและสี

ว่ากันว่าสีมีผลอย่างมากต่อสภาวะจิตใจของเรา โดยแสงสีส้มและสีเหลืองมักเกี่ยวข้องกับความกระฉับกระเฉงและมีชีวิตชีวา สีเขียวให้ความรู้สึกสงบและมีเหตุผล และสีขาวแสดงถึงการเริ่มต้นใหม่และให้ความรู้สึกสดชื่น อย่างไรก็ตาม สีต่างๆ ก็มีผลกับผู้คนไม่เหมือนกัน ดังนั้นเมื่อถึงเวลาที่ต้องตกแต่งพื้นที่ทำงาน อย่ากลัวที่จะเขียนกฎขึ้นมาใหม่ในแบบของคุณเอง

นอกจากนี้ สถานที่ทำงานที่มีแสงสว่างเพียงพอก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้มีสุขภาพจิตที่ดีและมีสมาธิ Colin แนะนำว่า "เลือกจุดที่มีแสงสว่างจากธรรมชาติและเปิดหน้าต่างเพื่อให้อากาศถ่ายเท" และยังกล่าวว่า "การมีโอกาสได้รับวิตามินดีถือเป็นโบนัสชิ้นโตเลยทีเดียว"

Cathy เห็นด้วย เธอกล่าวว่า "คุณควรทำให้แสงจากธรรมชาติส่องเข้ามาในห้อง หากสามารถทำได้” แต่หากคุณไม่มีหน้าต่างในจุดที่ตั้งใจจะจัดให้เป็นพื้นที่ทำงานในบ้าน Cathy แนะนำว่า "ลองใช้ประตูกระจกแทนเพื่อให้แสงส่องเข้ามา"

จัดระเบียบอยู่เสมอ

จัดระเบียบอยู่เสมอ

การจัดพื้นที่ทำงานให้เป็นระเบียบเรียบร้อยไม่ได้ให้เพียงแค่ความสวยงามสบายตาเท่านั้น แม้ Cathy จะย้ำกับเราว่า "ในยุคที่ทุกคนใช้ Zoom ผู้คนจะมองดูเรา” ก็ตาม ความเป็นระเบียบยังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำงานให้มีประสิทธิภาพและมีสมาธิ ทำให้คุณรู้สึกว่าสามารถจัดการกับงานที่ทำอยู่ได้โดยมีสิ่งรบกวนน้อยลง

การจัดระเบียบให้มีประสิทธิภาพสูงสุดนั้นสามารถทำได้หลายวิธี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นที่การทำงานของคุณด้วย ตัวอย่างเช่น หากคุณทำงานในพื้นที่ขนาดเล็กหรือพื้นที่ที่ต้องใช้ร่วมกัน คุณไม่จำเป็นต้องมีตู้หรือที่เก็บของที่มากเกินความจำเป็นจนล้นพื้นที่

"ลองมองขึ้นไปข้างบนดูสิ" Cathy แนะนำ "ตัวอย่างเช่น ลองดูว่าคุณสามารถติดตั้งช่องเก็บของหรือชั้นวางบนกำแพงเพื่อเพิ่มพื้นที่ว่างบนพื้นได้ไหม" ผู้ที่มีพื้นที่ทำงานริมหน้าต่างสามารถทำอะไรได้มากขึ้น เธอแนะนำให้สร้างชั้นวางของไว้ด้านข้างเพื่อเก็บแฟ้ม เอกสาร และอุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ ให้เรียบร้อยเมื่อถึงเวลาเลิกงาน

เคล็ดลับเล็กน้อยที่ไม่ควรมองข้ามคือ อย่าให้คนอื่นใช้พื้นที่ทำงานของคุณเป็นที่เก็บของ ไม่ว่าจะเป็นจักรยานที่ไม่สามารถจอดไว้หน้าบ้านได้อีกต่อไป เตียงนอนเด็กที่เก็บไว้เพื่องานรวมญาติในครั้งหน้า หรือเครื่องเล่นเกมที่นานๆ ทีจะเอาออกมาเล่นก็ตาม คุณต้องเก็บของเหล่านี้ไว้ที่อื่น อย่าปล่อยให้สิ่งของที่ไม่จำเป็นสำหรับการทำงานมาเกะกะในพื้นที่สำหรับทำงานและใช้ความคิดของคุณ

เสริมสร้างบรรยากาศ

เสริมสร้างบรรยากาศ

ทุกคนต่างมีวิธีผ่อนคลาย หาแรงบันดาลใจ หรือสร้างความกระตือรือร้นในแบบฉบับของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการติดภาพศิลปะไว้เพื่อชื่นชม หรือการวางเสื่อโยคะและเทียนไขไว้สำหรับยืดเส้นยืดสายเป็นระยะ แล้วการปรับแต่งโฮมออฟฟิศแบบประหยัดในแบบฉบับของ Cathy คืออะไรล่ะ คำตอบของเธอก็คือ "ต้นไม้ใบหญ้า" นั่นเอง

สีเขียวของต้นไม้เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับการตกแต่งบ้าน รวมไปถึงโฮมออฟฟิศของคุณด้วย ต้นไม้ช่วยฟอกอากาศ ให้ความสวยงามสบายตา สามารถลดความเครียดและความเจ็บป่วย อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการเยียวยาจนมีการนำมาใช้ในโรงพยาบาลอีกด้วย

ส่วน Colin เลือกที่จะออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อรักษาร่างกายและจิตใจให้แข็งแรงในช่วงที่ทำงานจากที่บ้าน "ผมวางแผนการทำงานให้มีเวลาสำหรับออกกำลังกายด้วย" เขากล่าว "โดยเริ่มจากการทำเป็นสิ่งแรกในตอนเช้า หลังจากนอนพักผ่อนอยู่บนเตียงทั้งคืน การลุกขึ้นมาเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อสลัดอาการเฉื่อยชาในช่วงบ่ายก็เป็นกุญแจสำคัญในการดูแลสุขภาพและช่วยให้ทำงานออกมาได้ดีเช่นกัน"

ดังนั้นลองหาเสื่อโยคะและชุดอุปกรณ์ยกน้ำหนักในบ้านดู และอย่าลืมเก็บอุปกรณ์เหล่านี้ไว้ให้ดีก่อนถึงเวลาพักผ่อนของคุณในช่วงเลิกงาน

  • ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการออกกำลังกายในบ้านเพื่อเอาชนะความเฉื่อยชาที่นี่
  • หากต้องการรับแรงบันดาลใจในการตกแต่งบ้านให้เป็นโฮมออฟฟิศในราคาประหยัด หรือตกแต่งส่วนอื่นๆ ในบ้านของคุณ คุณสามารถไปที่ Keep Interior Design
  • อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการทำงานจากที่บ้าน

ไม่พลาดทุกการสื่อสาร

รับข่าวสารและข้อมูลเชิงลึกล่าสุดจากบุคลากรหน้างาน

เมื่อส่งแบบฟอร์มนี้ จะถือว่าคุณยินยอมที่จะรับการติดต่อสื่อสารผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เกี่ยวกับการตลาดจาก Facebook ซึ่งประกอบด้วยข่าวสาร กิจกรรม ข้อมูลอัพเดต และอีเมลส่งเสริมการขาย คุณสามารถถอนความยินยอมและเลิกรับอีเมลดังกล่าวได้ทุกเมื่อ นอกจากนี้ คุณยังรับทราบว่าได้อ่านและยอมรับข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัวบน Workplace แล้ว

สิ่งที่คุณอาจสนใจ

สิ่งที่คุณอาจสนใจ

บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่
ขอบคุณสำหรับความเห็นของคุณ

โพสต์ล่าสุด

การทำงานจากทางไกล | ใช้เวลาอ่าน 7 นาที

การทำงานจากทางไกล: ประโยชน์และความท้าทาย

พวกเราทำงานจากทางไกลและจะทำงานจากทางไกลกันมากขึ้นเรื่อยๆ ค้นพบข้อดีและข้อเสียของการทำงานจากทางไกลและวิธีใช้ประโยชน์สูงสุดจากการทำงานรูปแบบนี้

การทำงานจากทางไกล | ใช้เวลาอ่าน 10 นาที

9 เคล็ดลับในการทำให้พนักงานที่ทำงานจากทางไกลไม่รู้สึกแปลกแยก

การมีส่วนร่วมกับพนักงานที่ทำงานจากทางไกลอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ก็มีวิธีที่พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพที่จะทำเช่นนั้นอยู่ เคล็ดลับสำคัญ 9 ข้อเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถมีส่วนร่วมกับพนักงานที่ทำงานจากทางไกลของคุณได้

การทำงานจากทางไกล | ใช้เวลาอ่าน 6 นาที

ไว้วางใจทีมการทำงานจากทางไกล

ทำความเข้าใจว่าเหตุใดการสร้างวัฒนธรรมแห่งความไว้วางใจเมื่อต้องทำงานจากทางไกลจึงเป็นสิ่งสำคัญ และวิธีสร้างความเชื่อใจในทีมการทำงานจากทางไกลของคุณ