การทำงานของมนุษย์ในเมตาเวิร์ส

ในอนาคต เราทุกคนอาจเข้ามาทำงานในเมตาเวิร์ส แต่การทำงานรูปแบบนี้มีความหมายต่อมนุษยชาติเราอย่างไร นักเขียนรับเชิญของเราอย่าง Duena Blomstrum จะพาคุณไปสำรวจในแง่มุมนี้กัน

อนาคตของการทำงาน | ใช้เวลาอ่าน 8 นาที
Human work in the megtaverse
Duena Blomstrum
ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ PeopleNotTech

ในปัจจุบันนี้ คงไม่มีใครในที่ทำงานที่ไม่ได้รู้สึกแอบตื่นเต้นอยู่เงียบๆ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เมตาเวิร์สสัญญาว่าจะทำให้เกิดขึ้นในอนาคตของการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการประยุกต์ใช้เมตาเวิร์สกับความรู้และอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

รายงานและการคาดการณ์ในช่วงแรกๆ นั้นดูเหมือนจะบ่งชี้ว่าการทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึง VR และ AR ได้จะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานทั่วๆ ไปของเราอย่างมาก สามารถเพิ่มการมีส่วนร่วมได้อย่างแน่นอน และช่วยสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์จากตัวพนักงานได้ แต่นอกเหนือจากคำกล่าวที่เราวาดฝันกันไว้แล้วนั้น สิ่งพื้นฐานอะไรบ้างที่จะเปลี่ยนแปลงไปซึ่งเรายังไม่สามารถทำได้ด้วยการเข้าประชุมทางไกล

ในบางกรณี คำถามนั้นก็ไม่มีคำตอบ หากวงจรเสมือน (Virtual Circuit หรือ VC) ทำงานได้ดีเทียบเท่าหรือเกือบเทียบเท่าเรา เราก็คงจะใช้สิ่งเดิมๆ ที่เรารู้ว่าใช้ได้ผลแน่ๆ ต่อไป ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่เมตาเวิร์สไม่ควรจะเป็นเลยก็คือ เป็นพื้นที่ที่มีกฎเกณฑ์เข้มงวดและมีเวลาดำเนินการที่ไม่ยืดหยุ่น

ดังนั้นเราลองมาดูแง่มุมบางอย่างที่ฉันมองว่าเป็นไปได้ในทันทีและเป็นการปฏิวัติการทำงานอย่างที่เรารู้ๆ กัน ซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นในเมตาเวิร์ส

มาพูดคุยเกี่ยวกับอนาคตแห่งการทำงานกัน

เรากำลังพยายามค้นหาคำตอบของคำถามที่สำคัญที่สุดที่เราทุกคนต่างสงสัยเกี่ยวกับการทำงานในเมตาเวิร์ส มาดูกัน

สองวิธีที่เมตาเวิร์สสามารถทำให้การทำงานมีความเป็นมนุษย์มากขึ้นได้

สองวิธีที่เมตาเวิร์สสามารถทำให้การทำงานมีความเป็นมนุษย์มากขึ้นได้

โปรดจำไว้ว่าข้อได้เปรียบหลักของเมตาเวิร์สคือความสมจริงที่ให้เราทุกคนสัมผัสได้อย่างเต็มที่ เมตาเวิร์สในวันนี้อาจจะยังดูไม่สมบูรณ์เท่าไร แต่มันจะค่อยๆ พัฒนาให้สมบูรณ์ขึ้นไปเรื่อยๆ และความสามารถนี้จะสร้างการเปลี่ยนแปลงต่อสิ่งที่มนุษย์เลือกใช้อย่างชาญฉลาด แล้วความสมจริงอย่างเต็มรูปแบบเช่นนี้เป็นสิ่งที่เหมาะจะใช้ในกิจกรรมอื่นๆ นอกจากการเล่นเกมหรือไม่ เราจะนำไปใช้กับการพบปะกับเพื่อนๆ การเข้าชั้นเรียน การท่องเที่ยว หรือแม้แต่การทำงานได้หรือเปล่า

แน่นอนว่าเมตาเวิร์สสามารถใช้กับกิจกรรมข้างต้นได้ทั้งหมด แต่จะใช้ในรูปแบบที่แตกต่างกัน

มีกิจกรรมสองอย่างที่เรามีความหวังว่าศักยภาพด้านความสมจริงและความสามารถในการพัฒนาของเราจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งกิจกรรมนั้นก็คือการเรียนรู้และการทำงานร่วมกัน

VR และ AR จะปฏิวัติการเรียนรู้ได้อย่างไม่ต้องสงสัย อย่างที่เราทุกคนได้เห็นกันอยู่แล้วว่าการนำรูปภาพมาใช้ในการให้บริบทเมื่อเรามีส่วนร่วมในการเรียนรู้นั้นเป็นประโยชน์มาก อันที่จริง การปฏิวัตินั้นได้เริ่มต้นขึ้นมาสักระยะหนึ่งแล้ว ตัวอย่างเช่น สารคดีของ David Attenborough บน Oculus ที่เป็นมากกว่าแค่ความบันเทิงและทำให้การเรียนรู้มีความแตกต่างออกไปในเชิงคุณภาพ ในรูปแบบที่ด็อกเตอร์เก่งๆ ก็ยังทำไม่ได้ ลองนึกภาพดูสิว่าจะรู้สึกอย่างไรเมื่อเมตาเวิร์สได้เชื่อมโยงกับประสาทสัมผัสทั้งหมดของเราและทำให้รู้สึกเหมือนกับว่าเราได้เข้าไปอยู่ใต้มหาสมุทรจริงๆ

ในส่วนของการทำงานร่วมกัน คำถามคือเมตาเวิร์สจะสร้างความแตกต่างอย่างมากให้กับพนักงานในสำนักงานหรือไม่ ไม่ว่าพนักงานจะพยายามใช้เมตาเวิร์สควบคู่ไปกับการโทร WhatsApp และแพลตฟอร์มไวท์บอร์ดอย่าง Miro หรือจะทำในเมตาเวิร์สเลย แน่นอนว่าในเมตาเวิร์สจะมีไวท์บอร์ดและทิวทัศน์ที่สวยงามอยู่นอกหน้าต่างดิจิทัลของห้องประชุมให้คุณอยู่แล้ว และหลายๆ คนก็ชื่นชอบประสบการณ์ใน Horizon Workrooms มากเป็นพิเศษ แต่เมตาเวิร์สจะดีกว่าทางเลือกออนไลน์อื่นๆ มากเพียงใด และเพียงพอต่อความต้องการแล้วหรือไม่

ความเป็นมนุษย์ในเมตาเวิร์ส

ความเป็นมนุษย์ในเมตาเวิร์ส

เราจะทำให้เครื่องมือเหล่านี้มีความเป็นมนุษย์มากขึ้นได้หรือไม่ แล้วเครื่องมือนี้จะช่วยให้ผู้คนเรียนรู้วิธีเพิ่มความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ใน VR ได้ไหม รวมถึงจะสร้างความรู้สึกว่าผู้คนได้อยู่ด้วยกันแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในห้องเดียวกันได้จริงหรือเปล่า

เราขอยกตัวอย่างเรื่องการแสดงออกทางสีหน้า อย่างที่ทราบกันดีว่าเรายังสร้างอวาตาร์ที่เหมือนจริงมากๆ และเลียนแบบการแสดงออกทางสีหน้าหรือท่าทางร่างกายแบบเป๊ะๆ ของเราไม่ได้เสียทีเดียว (แม้ว่าจะทำได้ใกล้เคียงมากขึ้นแล้ว) และอวัจนภาษาเหล่านี้นี่เองที่เป็นหัวใจหลักของประสบการณ์การสื่อสารของมนุษย์ แต่เราเชื่อว่าต้องมีวิธีอื่นๆ ที่สามารถนำโลกอันไร้ขอบเขตของเมตาเวิร์สมาใช้เพื่อทำให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นได้

อย่างไรก็ตาม ปัญหาในการสื่อและแสดงอารมณ์ไม่ได้เป็นเพียงปัญหาเดียวในเมตาเวิร์ส และอีกอย่างคุณก็ไม่ได้เห็นหน้าของบุคคลอื่นเมื่อคุยโทรศัพท์ หรือแม้แต่การที่จะสังเกตวัจนภาษาในวิดีโอคอลก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป ดังนั้น หากเรามองข้ามขอบเขตทางกายภาพและคิดว่าเมตาเวิร์สคือโลกเสมือน เราก็อาจจำเป็นต้องมองว่าการจำลองท่าทางหรือการแสดงอารมณ์ของเรานั้นทำผ่านทางอวาตาร์

“หากเราสามารถมองในมุมนั้นได้และตั้งใจสร้างมันขึ้นมา เมตาเวิร์สก็อาจเป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการทำงานร่วมกันเป็นทีมอย่างมาก”

แล้วอะไรคือโอกาสที่แท้จริงล่ะ เราต้องยึดการมองข้ามความต้องการทางกายภาพไว้เป็นหลักการชี้นำ รวมถึงต้องมีความเข้าใจว่าพื้นที่เสมือนที่เป็นประโยชน์และใช้งานได้จริงนั้นมีพลังในการเชื่อมต่อผู้คนเข้าด้วยกันไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหนและทำอะไรอยู่ แม้แต่คนที่เชื่อว่าการอยู่ในพื้นที่ทางกายภาพเป็นส่วนสำคัญของประสบการณ์ของมนุษย์ เมื่อทำถูกต้อง metaverse สามารถสร้างความมั่นใจให้กับคนที่ลังเลว่าไม่ควรอยู่ในห้องจริงร่วมกัน และพวกเขายังคงสามารถทำงานได้ดีที่สุด

ส่วนโอกาสที่ยิ่งใหญ่อีกอย่างหนึ่งคือ โอกาสในการเปลี่ยนความคิดและประเมินความจำเป็นในการมีลำดับชั้นกันอีกครั้ง เนื่องจากเราต้องเปลี่ยนไปทำงานในสภาพแวดล้อมที่ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ดังนั้น นี่อาจเป็นเวลาที่เหมาะสมแล้วหรือไม่ที่เราจะปรับเปลี่ยนโครงสร้างเก่าๆ เช่น การออกคำสั่งและการเข้ามาควบคุม ที่จำกัดเราให้ไม่สามารถจินตนาการถึงอนาคตของการทำงานรูปแบบใหม่ๆ ได้ หากเรามาประชุมกันอีกครั้งโดยใช้อวาตาร์ เรายังจำเป็นต้องรักษาความเคารพ สำนวนการพูด กิริยาท่าทาง หรือแม้แต่ความกลัวที่เราเคยมีในตอนที่อำนาจอยู่ในมือของผู้อื่นหรือไม่ ในเมตาเวิร์สนั้น คนในทีมจะอยู่ในสถานะเท่าๆ กัน (ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากกว่าการมีลำดับชั้นมาก)

แม้หลายสิ่งหลายอย่างอาจเปลี่ยนไปหากเมตาเวิร์สจะกลายมาเป็นสำนักงานแห่งอนาคต แต่ก็มีบางสิ่งที่จะยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

ลดการเพิ่มภาระที่ไม่จำเป็นให้กับมนุษย์ในเมตาเวิร์ส

ลดการเพิ่มภาระที่ไม่จำเป็นให้กับมนุษย์ในเมตาเวิร์ส

คุณสามารถดูตัวอย่างเกี่ยวกับความจำเป็นในการลดการเพิ่มภาระที่ไม่จำเป็นให้กับมนุษย์ (HumanDebt™) ของเรา หรือจะอธิบายง่ายๆ ก็คือ โปรแกรม ความตั้งใจ ความคิดริเริ่ม และการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ที่องค์กรได้นำมาใช้เพื่อยกระดับชีวิตของพนักงาน แต่สิ่งเหล่านั้นไม่ประสบความสำเร็จหรือถูกยกเลิกไปกลางคัน และอาจส่งผลให้ชีวิตของพนักงานแย่ลงได้

การให้ความสำคัญกับการมีพลวัตของทีมควบคู่ไปกับการมีความปลอดภัยทางด้านจิตใจก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะคงอยู่ต่อไป ดังนั้นในเมตาเวิร์ส เรายิ่งต้องแสดงความอ่อนแอ ความซื่อสัตย์ และความไว้วางใจซึ่งกันและกันออกมาอย่างเต็มที่มากขึ้น เนื่องจากวิธีการทำงานรูปแบบใหม่ของเราต้องใช้การพูดคุยที่ลึกซึ้งและละเอียดยิ่งขึ้น

โอกาสที่น่าตื่นเต้นที่สุดที่ฉันนึกออกเมื่อนึกถึงเมตาเวิร์สคือ เมตาเวิร์ส ที่ได้รับการดูแลจัดการอย่างเพียงพอและมีการออกแบบที่ชาญฉลาด จะเป็นพื้นที่ที่เหมาะจะให้ทีมที่อยู่กันคนละที่ทำงานของมนุษย์ได้อย่างไร

กิจกรรมหรือการดำเนินการของทีม การเวิร์กช็อป การเรียนรู้ การแบ่งปันสิ่งต่างๆ ความสนุกสนานเฮฮา และการพูดคุยแบบลึกซึ้ง ทั้งหมดนี้จะช่วยกระชับความสัมพันธ์และเสริมความแข็งแกร่งให้ทุกคนมีพื้นที่ทำงานที่ดีขึ้นได้ ทุกคนเพียงแค่สวมชุดหูฟังเช่นเดียวกับการประชุมอื่นๆ ในเมตาเวิร์ส และอาจพบว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางการดำเนินการของทีมและพื้นที่ที่ให้ความรู้สึกว่าเอื้อต่อการทำงานร่วมกันมากกว่าการใช้วิดีโอคอล

“หากเราโชคดี เมตาเวิร์สก็อาจเป็นอนาคตของการทำงานที่เปิดกว้าง ซื่อสัตย์ และมีความเป็นมนุษย์อย่างที่เราต้องการก็ได้”

งานของมนุษย์นี้สามารถเปลี่ยนจากการพูดคุยไปสู่การลงมือทำได้ โดยมีแนวโน้มที่เมตาเวิร์สจะรวมทั้งสองอย่างนั้นเข้าด้วยกัน และใช้องค์ประกอบในเชิงปฏิบัติ (การไขปริศนา การสร้างบางสิ่งร่วมกัน หรือการมีส่วนร่วมในงานที่จะทำให้ทีมมีพลวัตมากขึ้น) ควบคู่ไปกับทฤษฎี การทำเช่นนี้จะช่วยกำหนดพฤติกรรมการทำงานที่ทีมต้องปฏิบัติตามหากต้องการที่จะคงประสิทธิภาพที่สูงเอาไว้ได้ง่ายขึ้น

หากเราดำเนินการตามนี้และเราตั้งใจสร้างมันขึ้นมา เมตาเวิร์สก็อาจกลายเป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับ "การสร้างทีม" กล่าวคือ ความสามารถในการสร้างทีมเฉพาะกิจที่ให้ความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งมากพอที่ช่วยให้ผู้คนสามารถเชื่อมต่อและทำงานที่ซับซ้อนได้

ทีมใหม่สามารถรวมตัวกันได้จากทางไกลในระหว่างที่เกิดอุบัติเหตุทางท้องถนนเพื่อมอบการดูแลเป็นพิเศษโดยตรงหรือผ่านการให้คำแนะนำ ทีมนักวางกลยุทธ์สามารถจัดการประชุมเฉพาะกิจและให้ความช่วยเหลือด้านการตัดสินใจได้ ส่วนทีมด้านเทคนิคจากแผนกหรือบริษัทต่างๆ สามารถนำโอเพนซอร์สและแฮกกาธอนเข้ามาใช้ในยุคใหม่นี้ได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร ความเป็นไปได้สำหรับการทำงานร่วมกันในเมตาเวิร์สนั้นไร้ขอบเขตอย่างแน่นอน

อีกทั้งเอ็ฟเฟ็กต์ต่างๆ ก็ทำให้เราสามารถสัมผัสสถานการณ์บางอย่างได้ทันทีในเมตาเวิร์ส โดยเราอาจจะสัมผัสสถานการณ์นั้นได้ก่อนที่เราจะรู้จักสถานการณ์ในนิยายวิทยาศาสตร์จริงๆ เสียอีก ความสามารถในการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นแบบเดียวกันนี้จะเป็นแรงขับเคลื่อนที่อยู่เบื้องหลังการทดลองอีกมากมายและทำให้การปฏิบัติแบบรวมกลุ่มมีความเป็นไปได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเขียนโปรแกรมเป็นคู่, ห้องสำหรับฝึกศิลปะการต่อสู้ (DOJO), การร่วมกันพัฒนาสิ่งใหม่ๆ (แฮ็กกาธอน), การประชุมที่เน้นการหยุด คิด พิจารณา (Retrospective) และการยืนพูดคุยกันสั้นๆ ล้วนแต่ใช้คุณลักษณะที่เน้นการปฏิบัติและโต้ตอบได้มากขึ้นทั้งนั้น

ฉันเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะฉันเห็นมันมาแล้ว เมตาเวิร์สเกิดขึ้นแล้ว แถมมีอนาคตที่สดใสและมีความหวัง หากเราโชคดี เมตาเวิร์สก็อาจกลายมาเป็นอนาคตของการทำงานที่เปิดกว้าง ซื่อสัตย์ และมีความเป็นมนุษย์อย่างที่เราต้องการก็ได้ ท้ายที่สุดแล้วเมตาเวิร์สอาจเป็นที่ที่เราสามารถลดการเพิ่มภาระที่ไม่จำเป็นส่วนใหญ่ให้กับมนุษย์ก็ได้

อ่านต่อ:

เชื่อมต่อถึงกันอยู่เสมอ

รับข่าวสารและข้อมูลเชิงลึกล่าสุดจากบุคลากรหน้างาน

เมื่อส่งแบบฟอร์มนี้ จะถือว่าคุณยินยอมที่จะรับการติดต่อสื่อสารผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เกี่ยวกับการตลาดจาก Facebook ซึ่งประกอบด้วยข่าวสาร กิจกรรม ข้อมูลอัพเดต และอีเมลส่งเสริมการขาย โดยคุณสามารถถอนความยินยอมและเลิกรับอีเมลดังกล่าวได้ทุกเมื่อ นอกจากนี้ คุณยังรับทราบว่าได้อ่านและยอมรับข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัวบน Workplace แล้ว

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

เรียนรู้เกี่ยวกับออฟฟิศไร้พรมแดนไปพร้อมกัน

บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่
ขอบคุณสำหรับความเห็นของคุณ

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

เรียนรู้เกี่ยวกับออฟฟิศไร้พรมแดนไปพร้อมกัน


โพสต์ล่าสุด

อนาคตแห่งการทำงาน | ใช้เวลาอ่าน 11 นาที

อนาคตของการทำงาน

การทำงานในเมตาเวิร์สเป็นอย่างไร การทำงานแบบไฮบริดจะยังคงอยู่ต่อไปหรือไม่ แม้คุณจะไม่สามารถคาดเดาอนาคตที่รออยู่ข้างหน้าได้ 100% แต่อย่างน้อยคุณก็สามารถเตรียมองค์กรของคุณให้พร้อมสำหรับอนาคตได้

อนาคตแห่งการทำงาน | ใช้เวลาอ่าน 12 นาที

การทำงานแบบไฮบริด: ยินดีต้อนรับสู่วิธีการทำงานรูปแบบใหม่

คุณต้องการให้พนักงานกลับมาทำงานที่ออฟฟิศหรือทำงานจากที่บ้านต่อไป แล้วถ้าเอาทั้งสองรูปแบบมารวมกันล่ะ การทำงานแบบไฮบริดอาจเป็นวิธีที่เหมาะกับองค์กรของคุณที่สุดก็เป็นได้

อนาคตแห่งการทำงาน | ใช้เวลาอ่าน 6 นาที

เราจะทำงานอย่างไรในเมตาเวิร์ส

ตั้งแต่การทำงานร่วมกันในทีมไปจนถึงวัฒนธรรมของบริษัท นี่คือ 5 วิธีที่เมตาเวิร์สและ Virtual Reality จะเปลี่ยนอนาคตในการทำงานและการทำธุรกิจ