สิ่งที่ผู้คนแต่ละรุ่นสามารถสอนกันและกันในที่ทำงาน

คนยุคเบบี้บูมเมอร์ Gen X และมิลเลนเนียลต่างก็มีความรู้เฉพาะด้านเป็นของตัวเอง นี่คือสิ่งที่เราสามารถเรียนรู้ได้จากกันและกันในที่ทำงาน

การสื่อสารทางธุรกิจ | ใช้เวลาอ่าน 10 นาที
what can older generations learn from generation z - Workplace from Meta

องค์กรในปัจจุบันมักจะมีพนักงานจากหลากหลายช่วงอายุ ทั้งนี้ก็เนื่องจากผู้คนเกษียณอายุกันช้ากว่าเดิม ทั้งคนยุคเบบี้บูมเมอร์ Gen X และมิลเลนเนียลก็ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของที่ทำงานสมัยใหม่ และคน Gen Z (คนที่เกิดตั้งแต่ปี 1995 ขึ้นไป) ซึ่งเป็นกลุ่มล่าสุดก็เริ่มเข้าสู่ตลาดการจ้างงานกันแล้ว

การมีบุคลากรจากหลากหลายช่วงอายุนับเป็นโอกาสอันดีที่บริษัทจะได้รับผลประโยชน์จากคนแต่ละวัย

การมีบุคลากรจากหลากหลายช่วงอายุนับเป็นโอกาสอันดีที่บริษัทจะได้รับผลประโยชน์จากคนแต่ละวัย

การที่บุคลากรมาจากหลากหลายช่วงอายุนับเป็นโอกาสอันดีที่บริษัทจะได้รับประโยชน์ในแง่ของวัฒนธรรมในที่ทำงานจากคนแต่ละวัย มุมมอง ประสบการณ์ชีวิต ตลอดจนรูปแบบการทำงานและสไตล์การสื่อสารใหม่ๆ ที่แต่ละคนมีต่างกันนั้นล้วนสามารถก่อให้เกิดการผสมผสานที่ช่วยสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้

เรามาดูกันว่าคนแต่ละรุ่นเรียนรู้อะไรจากกันและกันได้บ้าง

การสื่อสารสไตล์ใหม่

การสื่อสารสไตล์ใหม่

คนรุ่นก่อนๆ โดยเฉพาะคนยุคเบเบี้บูมเมอร์ที่ค่อนข้างจะอายุมากแล้ว อาจไม่คุ้นเคยกับวิธีการสื่อสารที่เป็นเหมือนทักษะที่ติดตัวมาแต่กำเนิดของคนกลุ่มที่โตมาในโลกยุคดิจิทัล

คนยุคมิลเลนเนียลในที่ทำงานจะให้ความสำคัญกับการเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด

คนกลุ่มนี้จะรู้สึกพึงพอใจเมื่อมีเครื่องมือและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ช่วยให้พวกเขาเชื่อมต่อกับทีมได้ดียิ่งขึ้น เช่น วิดีโอถ่ายทอดสดที่ช่วยทำให้การรับและให้ความเห็นเป็นไปแบบเรียลไทม์

หรือการใช้กลุ่มบน Workplace เพื่อแชร์และแก้ไขเอกสารของโปรเจ็กต์ ตลอดจนช่วยให้การทำงานร่วมกับทีมที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันและทีมจากทั่วโลกมีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ในทางกลับกัน พนักงานที่มีวัยวุฒิสูงกว่านั้นมีประสบการณ์กับการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพในการประชุมแบบพบเจอกันต่อหน้ามากกว่า

Workplace ทำให้คนทั้งสองยุคสามารถส่งต่อความรู้ที่ตนมี ให้ความเห็นในเชิงสร้างสรรค์แก่กันทั้งทางออนไลน์และในชีวิตจริง เพื่อช่วยให้อีกฝ่ายรู้สึกสบายใจไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด

ประสบการณ์การทำงาน

ประสบการณ์การทำงาน

ข้อดีของคนยุคเบบี้บูมเมอร์และ Gen X คือคนยุคนี้เป็นผู้ที่สั่งสมประสบการณ์ในที่ทำงานมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ พวกเขาจึงเข้าใจการเมืองในที่ทำงานและลำดับชั้นขององค์กร รวมถึงมีประสบการณ์ที่คนอายุน้อยยังไม่เคยได้ประสบพบเจอ

พนักงานกลุ่มนี้มีแนวโน้มที่จะมีความชำนาญในบทบาทและผสานตนเองเข้ากับวัฒนธรรมองค์กรได้เป็นอย่างดี

พนักงานกลุ่มนี้มีแนวโน้มที่จะมีความชำนาญในบทบาทและผสานตนเองเข้ากับวัฒนธรรมองค์กรได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ พนักงานกลุ่มนี้มีแนวโน้มที่จะมีความชำนาญในบทบาทและผสานตนเองเข้ากับวัฒนธรรมองค์กรได้เป็นอย่างดี รวมถึงสามารถแบ่งปันความรู้นี้ได้ในรูปแบบที่ไม่เป็นทางการ หรือแบ่งปันผ่านแผนการฝึกสอนพนักงานที่ดำเนินการได้ง่ายๆ โดยใช้การผสานการทำงานของ Workplace อย่าง Cortado

อย่างไรก็ตาม พนักงานอายุน้อยก็สามารถมอบหลายสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้ได้เช่นกัน ประสบการณ์ในด้านการศึกษาที่พนักงานรุ่นนี้เพิ่งผ่านมาสดๆ ร้อนๆ และความรู้เกี่ยวกับมาตรฐานทางวัฒนธรรมที่แตกต่างกันอาจถูกใจลูกค้า ทั้งยังสามารถช่วยในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ดีขึ้นได้

ความคาดหวังในการทำงานที่เปลี่ยนไป

ความคาดหวังในการทำงานที่เปลี่ยนไป

พนักงานอายุน้อยมีความคาดหวังด้านการทำงานค่อนข้างจะสูง 76% ของคน Gen Z มองว่าตนเป็นผู้กำหนดอนาคตในด้านอาชีพการงานของตนเอง ในขณะที่คนยุคมิลเลนเนียลในที่ทำงานให้ความสำคัญกับจำนวนการสื่อสารที่มาจากผู้จัดการและมองหาความก้าวหน้าในอาชีพแบบก้าวกระโดด

76% ของคน Gen Z มองว่าตนเป็นผู้กำหนดอนาคตด้านอาชีพการงานของตนเอง

76% ของคน Gen Z มองว่าตนเป็นผู้กำหนดอนาคตด้านอาชีพการงานของตนเอง

ทัศนคตินี้จะเป็นตัวกระตุ้นให้พนักงานอายุมากหันกลับมาพิจารณาถึงสิ่งที่พวกเขาต้องการจากการทำงานกันใหม่ ซึ่งจะกระตุ้นความทะเยอทะยานของพนักงานเหล่านี้ให้ฟื้นกลับมาอีกครั้ง ในขณะเดียวกัน ความภักดีและความอุตสาหะของพวกเขาก็เป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่เพื่อนร่วมงานที่อายุน้อยด้วยเช่นกัน

การทำงานร่วมกันที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

การทำงานร่วมกันที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

หากคุณเคยบริหารจัดการคนยุคมิลเลนเนียลในที่ทำงาน คุณจะรู้ว่าคนกลุ่มนี้มักจะตอบสนองต่อรูปแบบการจัดการจากบนลงล่างแบบดั้งเดิมได้ไม่ดีนัก และชื่นชอบแนวทางการทำงานที่เน้นร่วมมือกันมากกว่า

คนยุคมิลเลนเนียลมักจะตอบสนองต่อรูปแบบการจัดการจากบนลงล่างแบบดั้งเดิมได้ไม่ดีนัก

คนยุคมิลเลนเนียลมักจะตอบสนองต่อรูปแบบการจัดการจากบนลงล่างแบบดั้งเดิมได้ไม่ดีนัก

พฤติกรรมนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทั้งองค์กรของคุณ เพราะแนวทางในการทำงานร่วมกันที่เปิดกว้างมากขึ้นจะช่วยให้เกิดการนำเสนอไอเดียใหม่ๆ และความคิดเชิงนวัตกรรมที่คุณอาจมองข้ามไป

การได้เห็นเพื่อนร่วมงานอายุน้อยแชร์ไอเดียและมีส่วนร่วมโดยใช้เครื่องมือการทำงานร่วมกันอย่าง Workplace จะช่วยกระตุ้นให้เพื่อนร่วมงานที่อายุมากเข้ามามีส่วนร่วมด้วย ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้จะทำให้พนักงานทุกวัยและองค์กรของคุณได้รับประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย

เชื่อมต่อถึงกันอยู่เสมอ

รับข่าวสารและข้อมูลเชิงลึกล่าสุดจากบุคลากรหน้างาน

เมื่อส่งแบบฟอร์มนี้ จะถือว่าคุณยินยอมที่จะรับการติดต่อสื่อสารผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เกี่ยวกับการตลาดจาก Facebook ซึ่งประกอบด้วยข่าวสาร กิจกรรม ข้อมูลอัพเดต และอีเมลส่งเสริมการขาย โดยคุณสามารถถอนความยินยอมและเลิกรับอีเมลดังกล่าวได้ทุกเมื่อ นอกจากนี้ คุณยังรับทราบว่าได้อ่านและยอมรับข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัวบน Workplace แล้ว

อ่านต่อ

อ่านต่อ

บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่
ขอบคุณสำหรับความเห็นของคุณ

โพสต์ล่าสุด

การสื่อสารทางธุรกิจ | ใช้เวลาอ่าน 10 นาที

วัฒนธรรมในที่ทำงาน: วิธีสร้างวัฒนธรรมในเชิงบวกและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

วัฒนธรรมในที่ทำงานมีความสำคัญยิ่งขึ้นในโลกของการทำงานแบบผสมผสานและการทำงานทางไกล ร่วมหาคำตอบว่าวัฒนธรรมในที่ทำงานคืออะไรและคุณจะสามารถปรับปรุงวัฒนธรรมนี้ได้อย่างไร

การสื่อสารทางธุรกิจ | ใช้เวลาอ่าน 10 นาที

ค่านิยมขององค์กรคืออะไรและเหตุใดจึงมีความสำคัญ

ค่านิยมขององค์กรสามารถชี้นำทิศทางแก่พนักงานและให้เหตุผลที่จะเชื่อมั่นแก่ลูกค้า ดูวิธีพัฒนาและสื่อสารค่านิยมขององค์กร

การสื่อสารทางธุรกิจ | ใช้เวลาอ่าน 10 นาที

เหตุใดความหลากหลายและการไม่แบ่งแยกจึงมีความสำคัญยิ่งกว่าที่เคย

ความหลากหลายและการไม่แบ่งแยกคืออะไร และเหตุใดจึงมีความสำคัญในการทำงาน เราจะมาสำรวจสาเหตุที่บริษัทต่างๆ สนใจประเด็นปัญหาที่สำคัญเหล่านี้