อนาคตของ VR - เทรนด์ยอดนิยมสำหรับปี 2023

เนื่องจากชุดอุปกรณ์ VR และแว่น VR ที่ล้ำสมัยเข้าถึงได้ง่ายกว่าที่เคย อุปกรณ์เหล่านี้จึงมีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้นในอนาคตของการทำงาน และนี่ก็คือการคาดการณ์ของเราสำหรับปี 2023

อนาคตของการทำงาน | ใช้เวลาอ่าน 6 นาที
Future of VR

เทคโนโลยีที่สมจริงอย่าง Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR) มีศักยภาพมหาศาลในการเปลี่ยนแปลงวิธีที่เราทำงานและสนุกกับการใช้ชีวิต โดยช่วยให้เราสามารถโต้ตอบกับผู้คนและวัตถุต่างๆ ในสภาพแวดล้อมดิจิทัลอันสมจริง เราคาดการณ์ว่าเทคโนโลยีนี้จะเปลี่ยนแปลงการทำงานในปี 2023 ไว้ดังนี้

Virtual Reality และที่ทำงาน

Virtual Reality และที่ทำงาน

Virtual Reality ไม่ได้มีไว้เพื่อเกมเมอร์เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป เพราะอันที่จริงแล้ว เทคโนโลยีเกิดใหม่นี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลายด้าน และเราอาจเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดแห่งปีนี้ได้ในที่ทำงานนั่นเอง

ให้ตัวเลขเหล่านี้เป็นข้อพิสูจน์ ข้อมูลจาก Deloitte เผยการคาดการณ์ว่าตลาด VR จะโตได้ถึง 50% ในปี 2023 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยสร้างรายได้ทั่วโลกถึงเกือบ 7 พันล้านดอลลาร์

การใช้ VR อย่างแพร่หลายอาจจะยังเป็นเรื่องไกลตัว แต่ธุรกิจจำนวนไม่น้อย รวมถึงธุรกิจในแวดวงสาธารณสุข การศึกษา และการค้าปลีก ต่างก็เริ่มคิดหาวิธีดึงศักยภาพที่มีอยู่อย่างมหาศาลของ VR มาใช้ประโยชน์กันแล้ว หนึ่งในสาขาที่เติบโตที่สุดก็คือด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี คาดกันว่าตลาดด้านการดูแลสุขภาพที่ใช้ VR และ AR ทั่วโลกจะมีมูลค่าถึง 4.9 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 เพิ่มขึ้นจาก 504 ล้านดอลลาร์เมื่อปี 2016 โดยมีการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้กับทุกด้านในสาขา ตั้งแต่การผ่าตัดจำลอง การผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ ไปจนถึงการรักษาโรคกลัวและการวินิจฉัยผู้ป่วย

การศึกษาและฝึกอบรมก็เป็นตลาด VR ที่ทำกำไรเช่นกัน โดยมีการเติบโตทั่วโลกเกือบ 38% ในปี 2022 ประโยชน์นั้นเห็นได้ชัดเจน เพราะ VR นำเสนอวิธีที่ปลอดภัยในการสอนทักษะสำหรับงานที่มีความเสี่ยงสูง เช่น การฝึกทหารและนักบิน แต่ก็เป็นวิธีที่น่าสนใจสำหรับการใช้ฝึกสอนทุกคนด้วยเช่นกัน

ด้วยศักยภาพที่มีอยู่มากมายนี้เอง จึงไม่แปลกเลยที่ผู้คนจะตื่นเต้นกับอนาคตของ VR ในที่ทำงานกันมากขึ้นเรื่อยๆ

มาพูดคุยเกี่ยวกับอนาคตแห่งการทำงานกัน

เรากำลังพยายามค้นหาคำตอบของคำถามที่สำคัญที่สุดที่เราทุกคนต่างสงสัยเกี่ยวกับการทำงานในเมตาเวิร์ส มาดูกัน

VR กับการทำงานร่วมกัน

VR กับการทำงานร่วมกัน

การใช้วิดีโอคอลและการแชร์หน้าจอเพื่อเชื่อมต่อจากทางไกลได้กลายเป็นสิ่งจำเป็นในช่วงการระบาดใหญ่ทั่วโลก และเทรนด์นี้ก็คงอยู่เพราะผู้คนยังคงทำงานจากที่บ้านต่อไป ถึงแม้จะให้ประโยชน์เพียงใด แต่การทำงานทางไกลก็มักมีข้อจำกัดในด้านของการทำงานเป็นทีม ปฏิสัมพันธ์ทางสังคม และสถานการณ์อื่นๆ ที่ต้องอาศัยความเกี่ยวพันทางอารมณ์และการมีส่วนร่วมในระดับที่สูงกว่า

หนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับเทคโนโลยี VR และ AR ก็คือความสามารถในการช่วยให้เรารู้สึกราวกับมีตัวตนอยู่จริง แม้ในขณะที่เราไม่ได้อยู่ในพื้นที่ทำงานเดียวกันโดยพร้อมหน้า VR สามารถจำลองฉากออฟฟิศแบบดั้งเดิมได้อย่างใกล้เคียง ช่วยให้คุณอยู่ในพื้นที่ร่วมกับผู้อื่นได้โดยใช้ตัวแทนเสมือนของคุณเองในรูปแบบอวาตาร์ คุณสามารถสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานได้โดยใช้ภาษากาย ท่าทาง และการเคลื่อนไหวบนใบหน้าได้เหมือนกับในพื้นที่จริง นอกจากนี้ VR สามารถทำให้ที่ทำงานมีประสิทธิผลมากขึ้นและโดดเดี่ยวน้อยลงได้ ตั้งแต่ช่วยให้ทีมทรัพยากรบุคคลสามารถจัดเซสชั่นต้อนรับพนักงานใหม่ให้น่าสนใจขึ้น ไปจนถึงช่วยให้ทีมครีเอทีฟร่วมกันวางคอนเซ็ปต์การออกแบบจากคนละสถานที่ได้

ยามที่องค์กรต่างค้นหาวิธีใหม่ๆ ในการทำงานจากทางไกลโดยรักษาลักษณะสภาพแวดล้อมจริงที่ส่งเสริมการทำงานร่วมกัน VR ก็ทำหน้าที่ตรงนี้ได้อย่างเต็มที่ เหล่าพนักงานเริ่มปรารถนาที่จะใช้เทคโนโลยีนี้กันแล้ว โดย 60% ของพนักงานกล่าวว่าตนต้องการเห็นทีมงานของตนเริ่มใช้แว่น VR ภายในปี 2024 และ 62% ของพนักงานยังต้องการสัมผัสประสบการณ์พื้นที่ VR โดยใช้อวาตาร์ดิจิทัลเพื่อทำงานร่วมกันอีกด้วย

การที่ธุรกิจต่างๆ เริ่มก้าวเข้าสู่เมตาเวิร์สเพื่อให้ทุกคนเข้าถึงการทำงานได้ง่ายและทั่วถึงยิ่งขึ้นนั้นเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ และเป็นไปได้ว่าอุปกรณ์สำนักงานแบบเดิม เช่น คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปและแล็ปท็อปจะถูกแทนที่ด้วยชุดอุปกรณ์และแว่น VR ซึ่งมอบความรู้สึกของการอยู่ร่วมกันที่เราโหยหา

alttext

การทำงานร่วมกันใน VR

เทรนด์ VR และ AR ยอดนิยมที่น่าจับตามอง

เทรนด์ VR และ AR ยอดนิยมที่น่าจับตามอง

VR และ AR เริ่มเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น จึงมีเทรนด์มากมายที่เราคาดว่าจะได้เห็นกันในปี 2023 นี้ ต่อไปนี้เป็นการคาดการณ์ถึงอนาคตของ Virtual Reality ที่ต้องจับตาเพื่อให้องค์กรของคุณก้าวหน้ากว่าใครอื่น

การเติบโตของแอพ VR

หนึ่งในอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดของการเติบโตของ VR ก็คือการพึ่งพาแว่น VR และฮาร์ดแวร์อื่นๆ เพื่อให้เข้าถึงเทคโนโลยีนี้ได้ง่ายขึ้น ทีมผู้พัฒนาพยายามผสานความสามารถของ VR เข้ากับแอพมือถือโดยการใช้ประโยชน์จากฮาร์ดแวร์อันซับซ้อนของอุปกรณ์อัจฉริยะ แม้ว่าจะต้องใช้เวลาสักระยะกว่าแอพมือถือจะมอบประสบการณ์ได้อย่างเต็มอรรถรส เหล่านักออกแบบก็จะพัฒนาประสบการณ์ Mixed Reality ที่ล้ำสมัยต่อไปเพื่อทำให้ VR มีความน่าสนใจต่อกลุ่มเป้าหมายในวงกว้างมากยิ่งขึ้น

แอพ AR ต่างๆ ซึ่งรวมเนื้อหาดิจิทัลเข้ากับโลกความจริงจะยังมีอิทธิพลต่อไป โดยมีแนวโน้มที่จะครองสัดส่วนมากกว่า 80% ของตลาดแอพมือถือในปี 2023

VR ขององค์กรในเมตาเวิร์ส

กระแสเกี่ยวกับออฟฟิศเมตาเวิร์สจะแพร่หลายมากขึ้นในปีนี้ เนื่องด้วยความสนใจที่เพิ่มขึ้นในเทคโนโลยี VR ใหม่ๆ รวมถึงแว่น Meta Quest Pro เครื่องมือเสมือนที่ช่วยให้พนักงานทำงานร่วมกัน ทำงานหลายอย่างพร้อมกัน แชร์ไอเดีย และพบปะกับลูกค้าโดยไร้ข้อจำกัดด้านระยะทางจริงจะกลายเป็นดาวดวงใหม่ในแวดวงธุรกิจ

ในปัจจุบัน มีเพียง 19% ของพนักงานที่กล่าวว่าการประชุมทางวิดีโอทำให้ตนรู้สึกมีส่วนร่วมในการประชุมมากกว่า และมีเพียง 15% เท่านั้นที่เชื่อว่าการประชุมทางวิดีโอนำไปสู่ความร่วมมือกับเพื่อนร่วมงานที่เพิ่มมากขึ้น เราจะเห็นเทรนด์ที่สภาพแวดล้อมและประสบการณ์ VR แบบปรับแต่งเองสะท้อนชีวิตจริงได้มากขึ้น (แต่ดีกว่า) เช่น คุณอาจจำลองออฟฟิศของคุณเพื่อเพิ่มความคุ้นเคยเมื่อพนักงานไม่สามารถอยู่ในสถานที่จริงได้ และอาจเพิ่มทิวทัศน์อันสวยงามหรืองานศิลปะที่สร้างแรงบันดาลใจเข้าไปด้วย

การเรียนรู้และการพัฒนาแบบเต็มประสบการณ์

VR สามารถจำลองสถานการณ์การทำงานที่อันตรายและคาดเดายากที่สุดได้ในสภาพแวดล้อมภายใต้การควบคุม ไม่ว่าจะเป็นศัลยแพทย์ที่ผ่าตัดเพื่อช่วยชีวิตโดยไม่เกิดอันตรายกับผู้ป่วยจริง หรือพนักงานโรงงานที่รับมือกับเครื่องจักรหนักก็ตาม VR ก็เป็นวิธีการเรียนรู้ที่คุ้มค่าและปลอดภัย

ไม่เพียงเท่านั้น VR ยังสามารถนำไปใช้ฝึกทักษะทางด้านอารมณ์ในเรื่องต่างๆ ได้ เช่น การจัดการกับอคติและความเครียด โดยจำลองสถานการณ์ในชีวิตจริงขึ้น การศึกษาวิจัยจาก PwC เผยว่าผู้คนสามารถเรียนรู้เนื้อหาได้ใน 30 นาทีเมื่อใช้แว่น VR ซึ่งโดยปกติแล้วจะใช้เวลา 2 ชั่วโมงหากอยู่ในห้องเรียน นอกจากนี้ ผู้คนยังรู้สึกมีอารมณ์ร่วมมากกว่าเช่นกัน โดย 3 ใน 4 ของผู้เรียนกล่าวว่าขณะที่เรียนรู้หลักสูตรบน VR เรื่องความหลากหลาย ผู้เรียนก็พบว่าตนไม่ได้เปิดกว้างมากเท่าที่คิด

การออกแบบและสร้างต้นแบบที่เร็วขึ้น

ด้วยการแข่งขันอันดุเดือด บริษัทต่างๆ จึงต้องแบกรับความกดดันมากขึ้นในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ใหม่ให้รวดเร็วขึ้นและราคาถูกลง ซึ่ง VR เปลี่ยนแปลงกระบวนการสร้างสรรค์นี้ได้ โดยช่วยนำเสนอไอเดียให้เป็นที่ประจักษ์ได้เร็วขึ้น นักออกแบบสามารถใช้แว่น VR และเครื่องพิมพ์ 3 มิติในการออกแบบให้เสร็จสิ้นที่บ้าน และสามารถตัดขั้นตอนการสร้างชิ้นงานต้นแบบและนำไปทดสอบในสภาวะจริง ซึ่งเป็นขั้นตอนที่กินเวลาที่สุดในการนำสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด

ตัวอย่างเช่น BMW ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่สัญชาติเยอรมัน วิศวกรของแบรนด์แสดงภาพคอนเซ็ปต์ของรถยนต์ต้นแบบในรูปแบบโมเดลโฮโลกราฟฟิก 3 มิติขนาดเท่าจริง ซึ่งทำให้สามารถข้ามขั้นตอนการลงทุนกับการผลิตต้นแบบขึ้นจริงสำหรับการวิจัยและพัฒนาได้

การบริการลูกค้าแบบปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล

บริษัทจำนวนมากขึ้นเริ่มเห็นประโยชน์ของ VR และ AR ที่สามารถมอบประสบการณ์ของลูกค้าที่ดียิ่งขึ้นได้ แม้แชทบอทและอวาตาร์ AI ที่เด้งขึ้นมาบนหน้าจอคุณในเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซจะมีขึ้นเพื่อเพิ่มการบริการลูกค้ามาสักพักหนึ่งแล้ว แต่ VR เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังกว่ามาก เพราะเจ้าหน้าที่บริการลูกค้าจะสามารถดึงกลุ่มเป้าหมายให้สัมผัสประสบการณ์จากแบรนด์ของบริษัทได้อย่างเต็มอารมณ์ พร้อมกับใช้ข้อมูลแบบเรียลไทม์เพื่อดูว่าแบรนด์ช่วยยกระดับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างไรบ้าง

การเติบโตของร้านค้า VR

การช้อปปิ้งออนไลน์มีข้อดีมากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่ขาดไปก็คือประสบการณ์แบบสมจริงที่คุณจะได้รับจากร้านค้าแบบมีหน้าร้านดั้งเดิม ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเสมือนจริง ที่ซึ่งคุณสามารถดูว่าสินค้ามีลักษณะเป็นอย่างไรได้ก่อนที่จะซื้อ และเครื่องมือออกแบบบ้านก็ได้ช่วยขจัดปัญหานี้แล้ว แต่อนาคตยังเหมือนจริงได้ยิ่งขึ้นอีก

ลูกค้าจะได้เข้าถึงร้านค้าผ่านแว่น VR และเดินชมรอบร้านค้าเสมือน โต้ตอบกับสินค้าต่างๆ และพนักงานในแบบ 3 มิติ ไปจนถึงปรับแต่งสินค้าบางชิ้นให้เหมาะกับตนเองได้ก่อนสั่งซื้อ ในท้ายที่สุด นักช้อปทุกคนจะมีพนักงานร้านแบบ AI ประจำตัวที่คอยแนะนำสินค้าให้ตามรสนิยมและงบประมาณของตน

การตลาดเพื่อการท่องเที่ยวที่สมจริงยิ่งขึ้น

บริษัทท่องเที่ยวจะนำ VR ไปใช้ในกลยุทธ์ด้านการตลาดของตนกันมากขึ้นเพื่อเพิ่มยอดการจอง บริษัททัวร์ โรงแรม และธุรกิจอื่นๆ ในภาคการท่องเที่ยวจะสามารถมอบประสบการณ์อันสมจริงในขอบเขตที่กว้างขึ้นได้ตามประเภทบริการของตน ลูกค้าจะมีโอกาสพรีวิวจุดหมายปลายทางก่อนจอง ตัวอย่างเช่น การได้สัมผัสความรู้สึกยามเดินเท้าเปล่าบนชายหาดริมทะเลแคริบเบียนหรือเหยียดกายบนเตียงนอนในโรงแรมสุดหรู

มาตรการด้านสุขภาวะใน VR ที่เพิ่มขึ้น

ในปี 2023 สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีจะยังเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญสูงสุดสำหรับนายจ้าง โดยมีการคาดการณ์ว่าการมีส่วนร่วมของพนักงานที่ต่ำซึ่งเกี่ยวเนื่องกับสุขภาวะนั้นจะสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจโลกราว 7.8 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี ซึ่งปัญหาสำคัญนี้เป็นสิ่งที่โลกเสมือนอาจช่วยจัดการได้

พนักงานสามารถหยุดพักเพื่อมาดื่มด่ำกับเทคนิคการทำสมาธิและการออกกำลังกายแบบมีภาพประกอบพร้อมคำแนะนำได้ด้วยแอพ VR อย่าง Tripp และ Supernatural ในวันข้างหน้า เราคาดว่าจะได้เห็นความแพร่หลายของการบำบัดโดยใช้ VR เพื่อรักษาอาการเครียดและวิตกกังวลในที่ทำงานอย่างแพร่หลายมากขึ้น

เทรนด์ Virtual Reality สำหรับปี 2023 เหล่านี้เป็นเพียงเสี้ยวเดียวเท่านั้นหากพูดถึงการสำรวจเทคโนโลยีที่สร้างจุดเปลี่ยนนี้ หลายองค์กรเริ่มลงทุนกับเทคโนโลยีเพื่อความสมจริงกันมากขึ้น เราจึงคาดได้ว่าอนาคตที่สดใสยิ่งขึ้นของเมตาเวิร์สกำลังรออยู่ องค์กรที่ไม่มี VR และ AR เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ระยะยาวของตนอาจต้องเสียเปรียบเมื่อเทียบกับบริษัทหัวก้าวหน้าที่ลงมือทำไปแล้ว

อ่านต่อ:

ก้าวเข้าสู่อนาคตแห่งการทำงาน

สมัครเพื่อรับข้อมูลเชิงลึกล่าสุดจากเราเกี่ยวกับอนาคตแห่งการทำงานและอนาคตของเมตาเวิร์ส

เมื่อส่งแบบฟอร์มนี้ จะถือว่าคุณยินยอมที่จะรับการติดต่อสื่อสารผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เกี่ยวกับการตลาดจาก Facebook ซึ่งประกอบด้วยข่าวสาร กิจกรรม ข้อมูลอัพเดต และอีเมลส่งเสริมการขาย โดยคุณสามารถถอนความยินยอมและเลิกรับอีเมลดังกล่าวได้ทุกเมื่อ นอกจากนี้ คุณยังรับทราบว่าได้อ่านและยอมรับข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัวบน Workplace แล้ว

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

เรียนรู้เกี่ยวกับออฟฟิศไร้พรมแดนไปพร้อมกัน

บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่
ขอบคุณสำหรับความเห็นของคุณ

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

เรียนรู้เกี่ยวกับออฟฟิศไร้พรมแดนไปพร้อมกัน


โพสต์ล่าสุด

อนาคตแห่งการทำงาน | ใช้เวลาอ่าน 11 นาที

อนาคตของการทำงาน

การทำงานในเมตาเวิร์สเป็นอย่างไร การทำงานแบบไฮบริดจะยังคงอยู่ต่อไปหรือไม่ แม้คุณจะไม่สามารถคาดเดาอนาคตที่รออยู่ข้างหน้าได้ 100% แต่อย่างน้อยคุณก็สามารถเตรียมองค์กรของคุณให้พร้อมสำหรับอนาคตได้

ความเป็นผู้นำ | ใช้เวลาอ่าน 4 นาที

10 บทเรียนที่ผู้นำได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง

ประสบการณ์ที่ผู้คนพบเจอในชีวิตจริงสามารถกำหนดตัวตนและแนวทางการเป็นผู้นำของคนเหล่านั้นได้ ดังตัวอย่างทั้ง 10 เรื่องต่อไปนี้

อนาคตแห่งการทำงาน | ใช้เวลาอ่าน 6 นาที

เราจะทำงานอย่างไรในเมตาเวิร์ส

ตั้งแต่การทำงานร่วมกันในทีมไปจนถึงวัฒนธรรมของบริษัท นี่คือ 5 วิธีที่เมตาเวิร์สและ Virtual Reality จะเปลี่ยนอนาคตในการทำงานและการทำธุรกิจ