ความสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงานมีความหมายที่ต่างกันไปสำหรับแต่ละบุคคล และการสร้างสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงานนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย อย่างไรก็ตาม เราขอเสนอบางวิธีที่จะช่วยให้ผู้คนได้เต็มอิ่มกับทุกแง่มุมของชีวิตให้ได้มากขึ้น เรามาสำรวจสิ่งนี้ไปด้วยกันเลย

การทำงานอย่างหนักเป็นเวลานานติดต่อกันอาจก่อประโยชน์ได้ก็จริง แต่ก็อาจทำให้รู้สึกเหน็ดเหนื่อยได้เช่นกันหากคุณไม่หยุดพักเสียบ้าง แม้ว่าคุณจะรักงานของตัวเองมากขนาดไหน แต่ก็ต้องพึงระลึกไว้ว่ายังมีสิ่งอื่นๆ ในชีวิตที่รอให้คุณสัมผัสนอกเหนือจากการทำงานอยู่

การสร้างสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงานเพื่อให้คุณได้ใช้เวลาพักผ่อนอย่างเต็มที่บ้างก็ไม่ได้เสียหายอะไร และถ้าคุณต้องบริหารจัดการผู้อื่น คุณก็ต้องแน่ใจว่าพวกเขาสามารถสร้างสมดุลดังกล่าวได้เช่นกัน

การสำรวจโดย Gallup ในปี 2017 เผยว่า พนักงาน 53% กล่าวว่าการมีสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงานที่ดีและมีสุขภาวะส่วนตัวที่ดีนั้นเป็นเรื่องที่พวกเขา "ให้ความสำคัญมาก"

ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะกำลังค้นหาวิธีการทำงานที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้นหรือการแค่รู้ว่าเมื่อใดควรหยุดพัก นั่นก็แสดงว่าเรากำลังมองหาวิธีสร้างความสมดุลที่เหมาะสมกับตัวเองแล้ว

การทำงานร่วมกันนี่เองที่เป็นกุญแจสำคัญ

การทำงานร่วมกันนี่เองที่เป็นกุญแจสำคัญ

แนวทางในการทำงานร่วมกันเป็นทีมของคุณนั้นเป็นสิ่งสำคัญ แน่นอนว่าทุกคนต้องทำงานในส่วนของตนอย่างเต็มที่เพื่อให้มั่นใจได้ว่าโปรเจ็กต์และงานต่างๆ จะเสร็จทันเวลาและคงความมีมาตรฐานเอาไว้ แต่นั่นก็อาจหมายความว่าสมาชิกบางคนในทีมต้องทำงานมากขึ้นเช่นเดียวกัน

การใช้เครื่องมือการทำงานร่วมกันที่เหมาะสมจะเป็นตัวช่วยให้ธุรกิจสามารถติดตามโปรเจ็กต์ได้ในทุกขั้นตอน รวมถึงรู้ว่าใครมีหน้าที่รับผิดชอบอะไรและงานแต่ละงานมีความคืบหน้าถึงไหนแล้วบ้าง

ยกตัวอย่างเช่น Workplace by Facebook ช่วยให้คุณแชร์เอกสารได้ไม่ว่าจะมีขนาดเล็กหรือใหญ่ จัดการประชุมผ่านทางวิดีโอ ติดตามขั้นตอนการดำเนินงานของธุรกิจได้อย่างละเอียด และสิ่งอื่นๆ อีกมากมายที่จะทำให้เกิดการทำงานร่วมกันแบบหลายฝ่าย

Consolis เป็นบริษัทหนึ่งที่นำ Workplace มาใช้เพื่อช่วยปรับปรุงการทำงานร่วมกันในทีมและทำให้การทำงานมีความชาญฉลาดยิ่งขึ้น

จัดลำดับความสำคัญของงานในระหว่างวันทำงาน

จัดลำดับความสำคัญของงานในระหว่างวันทำงาน

Mental Health Foundation ให้ข้อมูลว่า การทำงานติดต่อกันนานเกินไปส่งผลพนักงาน 27% เกิดภาวะซึมเศร้า และทำให้พนักงานจำนวนเกินครึ่งรู้สึกหงุดหงิด คำถามคือ แล้วทำไมคนถึงยังทำงานแบบนั้นกันอยู่ล่ะ

Matt Might ได้เขียนในบล็อกเกี่ยวกับการสร้างสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงานของเขาไว้ว่า เขารู้สึกไม่สบายใจที่ชาวอังกฤษโดยเฉลี่ยทำงานโดยใช้ระยะเวลานานกว่าชาวยุโรป แต่ผลผลิตที่ได้กลับน้อยกว่า เขาจึงกระตุ้นให้พนักงานนำวิธีการทำงานที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้นมาใช้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในแต่ละวันโดยไม่ต้องเอาเวลาทำงานไปเบียดบังเวลาพักผ่อนในช่วงเย็นและวันหยุดสุดสัปดาห์

วิธีหนึ่งที่จะทำเช่นนั้นได้คือการจัดลำดับความสำคัญในช่วงเวลาทำงานอย่างเหมาะสม เช่น การกำหนดระยะเวลาที่จะทำงานให้เสร็จให้กับแต่ละงานที่อยู่ในรายการสิ่งที่ต้องทำ และทำตามกำหนดเวลานั้นอย่างเคร่งครัดเพื่อที่จะได้เลิกงานทันเวลาที่กำหนดไว้

กล้าที่จะปฏิเสธ

กล้าที่จะปฏิเสธ

แนวคิดที่ว่าคุณต้องทำได้ทุกอย่างเป็นสิ่งสำคัญในที่ทำงานก็จริง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องดีที่จะให้ทุกคนโดนบริษัทเอาเปรียบได้ง่ายๆ หากผู้คนคิดว่ามีคนที่อาสาทำงานเพิ่มโดยที่ไม่ถามคำถามหรือตอบโต้อะไร คนเหล่านี้นี่เองที่มีแนวโน้มที่จะโดนเอาเปรียบจากคนอื่นๆ

ผู้จัดการควรสนับสนุนให้ทุกคนมีจุดยืนของตัวเอง และแนะนำว่าหากพวกเขาไม่ว่าง พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องทำงานเพิ่มได้ วิธีนี้จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าพนักงานจะทำงานที่ตนรับผิดชอบจนเสร็จและสามารถเลิกงานได้อย่างสบายใจและเตรียมพร้อมที่จะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่

กำหนดเวลาเลิกงานที่ชัดเจน

กำหนดเวลาเลิกงานที่ชัดเจน

แพลตฟอร์มการทำงานร่วมกันระดับมืออาชีพอย่าง Workplace ทำให้การเชื่อมต่อจากทุกที่ในโลกกลายเป็นเรื่องง่าย ซึ่งทำให้พนักงานจำนวนมากขึ้นได้มีโอกาสในการทำงานจากทางไกล

อย่างไรก็ตาม คนที่ทำงานจากที่บ้านต้องใช้ความพยายามที่จะแยกและสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตที่บ้านมากกว่าคนอื่นๆ เพราะพวกเขาเหล่านี้ไม่สามารถที่จะเดินออกจากสำนักงานและเลิกงานอย่างเป็นทางการ เพราะคุณทำงานจากห้องนั่งเล่นหรือห้องครัวยังไงล่ะ

พนักงานที่ทำงานทางไกลต้องรู้สึกว่าตนสามารถปิดการแจ้งเตือนเกี่ยวกับเรื่องงานทั้งหมดและปิดโทรศัพท์สำหรับใช้ทำงานในเวลาที่กำหนดได้ นอกจากนี้ การออกไปเดินเล่นหรือการออกจากบ้านหลังเลิกงานก็สามารถช่วยได้ เพราะจะเป็นการสร้างเส้นแบ่งระหว่างเวลาทำงานกับเวลาพักผ่อนที่บ้าน

เรียนรู้ที่จะตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออก

เรียนรู้ที่จะตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออก

ทุกคนมักจะตกเป็นเหยื่อของการนำเอารายการสิ่งที่ต้องทำหรือรายชื่อคนที่ต้องไปพบ ไม่ว่าจะในหรือนอกสำนักงาน มากำหนดชีวิตของตัวเองมากจนเกินไปโดยไม่ได้ตั้งใจ โดยหากต้องการปรับสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงานให้ดีขึ้นนั้น คุณก็ต้องรู้ว่าเมื่อใดที่ควรตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกจากกำหนดการ

หรือก็คือการปฏิเสธอย่างสุภาพหรือเปลี่ยนกำหนดการสำหรับคำเชิญที่เพิ่มเข้ามาในช่วงสุดสัปดาห์หนึ่งรายการนั้น หรือตัดการประชุมในที่ทำงานที่ไม่จำเป็นและไม่ได้กำหนดเวลาไว้ล่วงหน้าออกไป

ให้ถามตัวเองว่าคุณจะทำสิ่งต่างๆ ให้สำเร็จได้อย่างไร เช่น คุณสามารถประชุมผ่านวิดีโอหรือการโทรด้วยเสียงแทนได้ไหม หรือสามารถพูดคุยเกี่ยวกับหัวข้อนี้ผ่านทางแชทกลุ่มบน Workplace ได้หรือไม่ แล้วคุณจะเห็นว่าทีมสามารถติดต่อกันได้หลายวิธีโดยที่ไม่ต้องเรียกประชุมแบบพบปะกันตัวจริง

การลดเวลาที่ไม่จำเป็นที่ต้องใช้เพื่อไปพบเจอกับเพื่อนร่วมงานหรือเพื่อนฝูง จะช่วยให้คุณสามารถจัดลำดับความสำคัญให้กับเวลาของตนเองได้ดีขึ้น และช่วยให้สามารถสร้างสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงานที่ดีขึ้นได้

เชื่อมต่อถึงกันอยู่เสมอ

รับข่าวสารและข้อมูลเชิงลึกล่าสุดจากบุคลากรหน้างาน

เมื่อส่งแบบฟอร์มนี้ จะถือว่าคุณยินยอมที่จะรับการติดต่อสื่อสารผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เกี่ยวกับการตลาดจาก Facebook ซึ่งประกอบด้วยข่าวสาร กิจกรรม ข้อมูลอัพเดต และอีเมลส่งเสริมการขาย โดยคุณสามารถถอนความยินยอมและเลิกรับอีเมลดังกล่าวได้ทุกเมื่อ นอกจากนี้ คุณยังรับทราบว่าได้อ่านและยอมรับข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัวบน Workplace แล้ว

บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่
ขอบคุณสำหรับความเห็นของคุณ

โพสต์ล่าสุด

ความร่วมมือในทีม | ใช้เวลาอ่าน 10 นาที

วิธีสร้างความร่วมมือในทีม

ค้นพบเคล็ดลับสำคัญในการพัฒนาความร่วมมือของทีมในที่ทำงาน รวมถึงประโยชน์ของการทำงานร่วมกันและวิธีเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการทำงานเป็นทีม

ผลิตภาพ | ใช้เวลาอ่าน 11 นาที

ผลิตภาพคืออะไรและเหตุใดจึงมีความสำคัญ

ค้นพบว่าเราให้นิยามผลิตภาพว่าอย่างไร รวมถึงวิธีการวัดผลและรักษาผลิตภาพเมื่อผู้คนเริ่มกลับไปทำงานในสำนักงานในยุคหลังการแพร่ระบาดของโควิด

การทำงานจากทางไกล | ใช้เวลาอ่าน 7 นาที

การทำงานจากทางไกล: ประโยชน์และความท้าทาย

เราทำงานจากทางไกลกันมากขึ้น และอาจจะมากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต มาค้นพบข้อดีและข้อเสียของการทำงานจากทางไกลและวิธีใช้ประโยชน์สูงสุดจากการทำงานรูปแบบนี้กัน