6 วิธีในการแก้ไขปัญหาความไร้ประสิทธิภาพในที่ทำงาน
ความไร้ประสิทธิภาพในที่ทำงานจะนำไปสู่ผลิตภาพที่แย่และกำลังใจที่ถดถอย แต่ข่าวดีก็คือ คุณสามารถจัดการกับปัญหานี้ได้ง่ายๆ มาดูวิธีการกัน
เราทุกคนคงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า 'ความคุ้นเคยก่อให้เกิดการดูหมิ่นเหยียดหยาม' แต่คุณเคยได้ยินคำพูดที่ว่า 'ความไร้ประสิทธิภาพทำให้ขวัญกำลังใจถดถอย ผลิตภาพลดลง และบางครั้งก็อาจก่อให้เกิดความโกลาหล' บ้างไหม
คงมีไม่กี่คนที่เคยได้ยินคำพูดนี้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันคือเรื่องจริง
ความไร้ประสิทธิภาพในที่ทำงานเป็นปัญหาตรงที่มันก่อให้เกิดส่วนหนึ่งของวงจรอุบาทว์ขึ้นมา การหมดแรงบันดาลใจและความไม่พึงพอใจในที่ทำงานนำไปสู่ความไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะส่งผลให้ผลิตภาพอยู่ในระดับต่ำ และจะทำให้คุณวนกลับมารู้สึกหมดแรงบันดาลใจอีกครั้ง
แก้งานยุ่งได้ไม่ยากด้วย Workplace
ไม่ว่าคุณจะต้องการแจ้งให้ทุกคนทราบเกี่ยวกับการกลับสู่ที่ทำงาน หรือนำวิธีการทำงานแบบผสมผสานไปปรับใช้ Workplace ก็สามารถทำให้การทำงานเป็นเรื่องง่ายขึ้นได้
ข้อมูลของ Forbes เผยว่า มีพนักงานในสหรัฐฯ เพียง 30% เท่านั้นที่สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าตนรู้สึกได้รับแรงบันดาลใจและมีส่วนร่วมในงานของตนเอง
แต่สิ่งที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือข้อเท็จจริงที่ว่าพนักงาน 18% เลิกมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในงานของตน และมองว่างานนั้นก่อให้เกิดความเครียด น่าหงุดหงิด หรือไร้ประโยชน์
แล้วคุณจะหลุดพ้นจากวงจรนี้และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้สูงสุดได้อย่างไร มาลองดูไอเดียเหล่านี้กัน
เริ่มแชร์ข้อมูล
ผู้คนอาจต้องเสียเวลาไปมากมายและรู้สึกหงุดหงิดเมื่อไม่สามารถเข้าถึงความรู้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานได้อย่างง่ายๆ
ดังนั้นในการเพิ่มประสิทธิภาพให้ได้สูงสุด คุณก็ต้องมีวิธีทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างทั่วถึง การแชร์ความรู้ ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงพื้นที่จัดเก็บเอกสารไปจนถึงการให้ผู้คนเข้าถึงคำตอบของคำถามที่สำคัญได้อย่างรวดเร็ว จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในที่ทำงานได้
การใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมก็ช่วยได้เช่นกัน องค์กรต่างๆ ใช้กลุ่มบน Workplace ในการจัดเก็บข้อมูล แชร์ข่าวสาร และทำงานให้สำเร็จลุล่วง
กลุ่มทำให้ผู้คนสามารถแชร์และทำงานร่วมกันในเอกสาร มอบหมายงาน ให้ความเห็น แท็กเพื่อนร่วมงาน และโพสต์อัพเดตต่างๆ ได้
นอกจากนั้นแล้ว คุณยังสามารถใช้กลุ่มเหล่านี้เพื่อแชร์หรือแลกเปลี่ยนเอกสารได้โดยตรง หรือดำเนินการผ่านการผสานการทำงานกับเครื่องมือต่างๆ เช่น Box และ SharePoint ได้เช่นเดียวกัน
ทีมของคุณสามารถใช้กลุ่มเป็นศูนย์กลางของการสร้างความสัมพันธ์ในเชิงอาชีพการงานและเป็นแหล่งทำงานร่วมกันในโปรเจ็กต์ได้โดยการผสานการทำงาน Workplace เข้ากับเครื่องมือการจัดการโครงการ เช่น Jira Cloud
เลิกควบคุมพนักงานมากจนเกินไป
คุณอาจจะคิดว่าการติดตามพนักงานในทุกย่างก้าวนั้นเป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้น ทว่าจริงๆ แล้วมันมักทำให้เกิดผลตรงกันข้าม
การจ้ำจี้จ้ำไชพนักงานมากเกินไปอาจเป็นการเพิ่มขั้นตอนที่ไม่จำเป็นให้กับกระบวนการทำงาน และทำให้พนักงานรู้สึกว่าตนเองไม่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้อาจเป็นตัวบั่นทอนกำลังใจได้
การสร้างชุมชนที่เปิดกว้างและโปร่งใสภายในองค์กรของคุณเป็นขั้นตอนแรกที่มีความสำคัญ เนื่องจากการเปิดกว้างมาตั้งแต่ต้นจะช่วยทำลายการทำงานแบบตัวใครตัวมันและการแบ่งแยกภายในองค์กร รวมถึงยังทำให้ผู้คนเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้รวดเร็วยิ่งขึ้นด้วย
นอกจากนี้ การเปิดกว้างยังช่วยให้ทุกคนรู้สึกเชื่อมโยงกับพันธกิจของบริษัทและเพื่อนร่วมงานมากขึ้นด้วยเช่นกัน
ส่งเสริมความหลากหลายอย่างเต็มที่
การมีทีมที่สะท้อนถึงความหลากหลายของฐานลูกค้านั้นนับว่าเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้
รายงานเรื่อง Global Recruiting Trends 2018 ของ LinkedIn เผยว่า 78% ของผู้จัดการฝ่ายสรรหามองว่าความหลากหลายมีความสำคัญอย่างยิ่ง และ 62% มองว่าความหลากหลายเป็นวิธีเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของบริษัท
การส่งเสริมให้เกิดการทำงานร่วมกันภายในทีมที่มีความหลากหลาย ซึ่งแต่ละคนสามารถเรียนรู้จากกันและกัน รวมถึงสามารถสอนเพื่อนร่วมงานในระดับที่เท่าเทียมกันได้นั้นเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพในที่ทำงาน
แสดงความเห็น
พนักงานจำเป็นต้องเข้าใจก่อนว่าตนสามารถทำอะไรให้ดีขึ้นได้บ้างจึงจะทำให้ตัวเองมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ ดังนั้นการให้ความเห็นแก่พนักงานแต่ละคนในเชิงสร้างสรรค์อย่างสม่ำเสมอจึงเป็นวิธีที่ช่วยให้พวกเขาปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน รวมถึงสามารถเพิ่มการมีส่วนร่วมได้
ผู้จัดการต่างก็ใช้กลุ่มส่วนตัวแบบตัวต่อตัวเป็นพื้นที่ในการให้ความเห็นดังกล่าว ตลอดจนจัดการกับการประเมินผลงานประจำปีที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง
มีความยืดหยุ่น
การให้พนักงานมาทำงานในที่ทำงานทั้งวันทุกวันไม่ได้ช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้นเสมอไป
ผู้คนจะใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ได้มากขึ้นหากสามารถทำงานระหว่างเดินทางได้ และบางครั้งการทำงานจากที่บ้านก็มีประสิทธิภาพมากกว่าการทำงานในที่ทำงานด้วยซ้ำไป
การมีเครื่องมือการทำงานร่วมกันที่ใช้งานผ่านมือถือได้จะช่วยให้คุณและพนักงานที่ทำงานทางไกลสามารถติดต่อกันได้อย่างง่ายดาย
Workplace Chat เชื่อมต่อพนักงานได้จากทุกที่ ผู้คนใช้ Workplace Chat เพื่อแชร์ข้อมูลและทำงานร่วมกันในไฟล์ รวมถึงสื่อสารโดยใช้ GIF, สติกเกอร์, อีโมจิ หรือการยกนิ้วโป้งถูกใจอันเป็นเอกลักษณ์
พวกเขาส่งคลิปเสียง จัดทำโพลล์ และบอกว่าตนอยู่ที่ไหนขณะเดินทางหรือทำงานจากที่บ้าน
คุณจะประหลาดใจเลยล่ะว่าการให้พนักงานของคุณมีอิสระและความยืดหยุ่นในการทำงานจากทางไกลสักหนึ่งหรือสองวันต่อสัปดาห์เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของคุณมากแค่ไหน
จัดการเวลาให้ดี
ประสิทธิภาพนั้นหมายถึงการที่คุณบรรลุเป้าหมายได้โดยเสียเวลาให้น้อยที่สุด ซึ่งการประหยัดเวลานี้ก็สามารถเพิ่มการมีส่วนร่วมได้เช่นกัน เนื่องจากผู้คนมีโอกาสที่จะทำงานล่วงเวลาน้อยลง
หากคุณต้องการจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น คุณจะต้องดูวิธีที่คุณใช้ในการสื่อสารและทำงานร่วมกัน เช่น ดูว่าพนักงานของคุณต้องจัดการกับอีเมลจำนวนมหาศาลหรือต้องเข้าร่วมการประชุมที่ไม่จำเป็นอยู่หรือเปล่า
เครื่องมืออย่าง Workplace จะช่วยให้คุณสามารถกำหนดเป้าหมายการสื่อสารไปยังส่วนที่จำเป็นจริงๆ ทั้งยังช่วยให้ผู้คนพบวิธีการทำงานที่ชาญฉลาด คุ้นเคย และมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
นั่นหมายความว่าผู้คนจะใช้เวลาไปกับกระบวนการที่ไม่ได้ผลหรือระบบที่เข้ากันไม่ได้น้อยลง และเอาเวลาไปทุ่มกับสิ่งที่ตนชอบได้มากขึ้น
ซึ่งนั่นส่งผลให้ผู้คนมีความสุขมากขึ้น รวมถึงมีประสิทธิภาพและผลิตภาพมากขึ้นด้วยเช่นกัน
เชื่อมต่อถึงกันอยู่เสมอ
รับข่าวสารและข้อมูลเชิงลึกล่าสุดจากบุคลากรหน้างาน
เมื่อส่งแบบฟอร์มนี้ จะถือว่าคุณยินยอมที่จะรับการติดต่อสื่อสารผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เกี่ยวกับการตลาดจาก Facebook ซึ่งประกอบด้วยข่าวสาร กิจกรรม ข้อมูลอัพเดต และอีเมลส่งเสริมการขาย โดยคุณสามารถถอนความยินยอมและเลิกรับอีเมลดังกล่าวได้ทุกเมื่อ นอกจากนี้ คุณยังรับทราบว่าได้อ่านและยอมรับข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัวบน Workplace แล้ว
อ่านต่อ
โพสต์ล่าสุด
การสื่อสารทางธุรกิจ | ใช้เวลาอ่าน 9 นาที
อธิบายการสื่อสารทางธุรกิจ
ธุรกิจของคุณขึ้นอยู่กับการแชร์ข้อมูลอย่างประสบความสำเร็จ และขึ้นอยู่กับพนักงานของคุณด้วย ถึงกระนั้น 66% ของบริษัทก็ยังคงขาดแผนระยะยาวสำหรับการสื่อสารทางธุรกิจอยู่ดี แล้วทำไมสิ่งนี้จึงถือเป็นข้อผิดพลาดร้ายแรง อะไรคืออุปสรรคสำหรับการสื่อสารที่พบอยู่บ่อยครั้ง และคุณจะหลีกเลี่ยงอุปสรรคนั้นได้อย่างไร
