ความโดดเดี่ยวในที่ทำงาน เหตุใดพนักงานจึงรู้สึกโดดเดี่ยวในที่ทำงาน (และวิธีแก้ไขปัญหานี้)
ความรู้สึกโดดเดี่ยวในที่ทำงานอาจหมายถึงความแตกต่างระหว่างการรักในงานของตัวเองกับความกลัวเมื่อนึกถึงเช้าวันจันทร์ ซึ่งพนักงานของคุณคงไม่ได้รู้สึกแบบนั้น... หรือเปล่านะ
ไม่ว่าบริษัทของคุณจะมีขนาดใหญ่และมีงานยุ่งแค่ไหน คุณให้เวลาโฟกัสกับการมีส่วนร่วมของพนักงานมากเท่าใด หรือวัฒนธรรมในที่ทำงานที่คุณทุ่มเทสร้างจะมีลักษณะเป็นอย่างไรก็ตาม คุณจะพบว่าพนักงานหลายคนแบกรับความรู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวในที่ทำงานไว้กับตัวเอง
ความโดดเดี่ยวในที่ทำงานมีหลากหลายสาเหตุอยู่เบื้องหลังตั้งแต่ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด ทว่าในปัจจุบัน ขณะที่ธุรกิจต่างๆ มองหาวิธีเชื่อมต่อกับพนักงานที่ทำงานจากทางไกลและสร้างวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงกันในโลกการทำงานที่ดูจะยิ่งเป็นแบบไฮบริดมากขึ้น ประเด็นนี้กลับกลายเป็นจุดชี้ชะตาสำหรับทั้งองค์กรและตัวพนักงานเอง คำถามคือ เมื่อพูดถึงความโดดเดี่ยวในที่ทำงาน ผู้คนให้ความหมายกับสิ่งนี้ว่าอย่างไร
เรียนรู้ว่าผู้นำด้านทรัพยากรบุคคลทั่วโลกสร้างวัฒนธรรมองค์กรได้อย่างไร
ดาวน์โหลดเคล็ดลับมืออาชีพทั้ง 6 ข้อเพื่อค้นพบความเชื่อมโยงระหว่างการมีส่วนร่วมของพนักงานและวัฒนธรรมองค์กร
ความโดดเดี่ยวในที่ทำงานคืออะไร
ในการสำรวจระดับการมีส่วนร่วมของพนักงาน Gallup ได้ถามคำถามหนึ่งว่า "คุณมีเพื่อนสนิทในที่ทำงานหรือไม่" คำตอบที่ได้นับว่าน่าสนใจเลยทีเดียว เพราะมีเพียง 2 ใน 10 ของผู้ตอบแบบสำรวจเท่านั้นที่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับข้อความดังกล่าว
การขาดการเชื่อมต่อระหว่างกันนี้ส่งผลกระทบต่อผลิตภาพ Steve Miranda จาก Cornell University เชื่อว่า การขาดมิตรภาพในที่ทำงานหรือการเชื่อมต่อทางสังคมอาจส่งผลเสียต่อตัวบุคคลและต่อธุรกิจได้
Miranda กล่าวว่า ผู้คนมักจะ "ทุ่มเททำงาน" น้อยลงเมื่อรู้สึกโดดเดี่ยว ทั้งยังมีแรงจูงใจให้ทำงานมากกว่าขั้นต่ำน้อยลง สิ่งนี้ไม่เพียงส่งผลเสียต่อผลิตภาพ แต่ยังรวมถึงผลประกอบการของคุณด้วย
นายจ้างและผู้จัดการจำนวนมากอาจมองว่าความโดดเดี่ยวไม่ใช่ปัญหาในที่ทำงานของตน อย่างไรก็ดี ลองตั้งใจมองสถานที่ทำงานของคุณดีๆ แล้วถามตัวเองว่า คุณสังเกตเห็นสิ่งใดที่อาจบ่งบอกว่าพนักงานกำลังรู้สึกเช่นนั้นหรือไม่
คุณจะหลีกเลี่ยงความโดดเดี่ยวในที่ทำงานได้อย่างไร
ต่อไปนี้คือ 4 สิ่งที่คุณควรระมัดระวัง รวมถึงคำแนะนำต่างๆ ในการปรับปรุงการสื่อสารทางธุรกิจกับพนักงาน เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเชื่อมต่อกันมากยิ่งขึ้นในที่ทำงาน
สถานที่ทำงานจริงของคุณส่งเสริมให้ผู้คนมีปฏิสัมพันธ์กันหรือไม่
อาคารที่ผู้คนทํางานสามารถขับเน้นความรู้สึกโดดเดี่ยวมากขึ้นได้ องค์กรที่มีหลากหลายทีมที่อยู่ห่างไกลกันอาจประสบปัญหาเชิงลบในที่ทำงานได้ โดยหนึ่งในปัญหาที่มีแนวโน้มจะเกิดมากที่สุดคือ ความอ้างว้างและการแยกตัวออกจากเพื่อนร่วมงาน กลายเป็นการทำงานแบบตัวคนเดียวซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อผลิตภาพได้
บริษัทที่ประสบความสำเร็จต่างมีการสำรวจกันว่าสภาพแวดล้อมการทำงานสามารถเพิ่มปฏิสัมพันธ์ที่มีความหมายในที่สถานที่ทำงานได้อย่างไร และในทางกลับกัน ปฏิสัมพันธ์เหล่านี้สามารถกระตุ้นผลิตภาพ ความสุข และความสำเร็จของบริษัทได้อย่างไร การเปิดกว้างทางธุรกิจสำหรับการทำงานในอนาคตอาจมีความหมายขยายรวมไปถึงพื้นที่ทั้งหมดของอาคารก็เป็นได้
หากคุณไม่สามารถออกแบบพื้นที่ทำงานใหม่ได้ในทันที คุณก็ควรมีแนวทางการทำงานที่เปิดกว้างที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ลองส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างทีมต่างๆ เพื่อไม่ให้มีใครรู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง ผสมผสานผู้คนจากแต่ละทีมเข้าด้วยกัน ใช้เครื่องมือดิจิทัลที่ช่วยให้ผู้คนเข้าใจบทบาทของตนเองภายในองค์กร โดยเครื่องมือดังกล่าวจะต้องช่วยให้ผู้คนค้นหาและร่วมงานกับผู้อื่นได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งในที่นี้ แชท วิดีโอคอล และการแพร่ภาพสดจะช่วยให้ผู้คนรวมตัวกันได้ผ่านการมีส่วนร่วมทางวิดีโอในขณะที่ไม่สามารถทำได้ในโลกความจริง
ช่องว่างระหว่างอายุในบริษัทของคุณห่างกันมากหรือไม่
ความไม่สมดุลกันระหว่างอายุกับประสบการณ์อาจนำไปสู่ความโดดเดี่ยวในที่ทำงานได้ พนักงานที่ทำงานในองค์กรที่มีคนกลุ่มอายุหนึ่งกระจุกตัวอาจรู้สึกแปลกแยกและไม่ได้รับการต้อนรับในสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับอาชีพการงานหรือทางสังคมได้ คนเหล่านี้อาจรู้สึกว่าไม่มีใครที่ตนพูดคุยด้วยได้และไม่เข้าพวกกับคนอื่นๆ คำถามคือ คุณจะเข้าไปช่วยเหลือเพื่อให้คนเหล่านี้รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่เป็นหนึ่งเดียวกันได้อย่างไร และเทคโนโลยีหรือแนวทางการทํางานใหม่ๆ สามารถช่วยลดช่องว่างดังกล่าวได้หรือไม่
คุณได้รวมพนักงานใหม่เข้าเป็นส่วนหนึ่งของทีมหรือไม่
เมื่อคุณเริ่มต้นทำงานในบริษัทใหม่ การรู้สึกว่าบริษัทพยายามเปิดรับคุณในฐานะส่วนหนึ่งขององค์กรถือเป็นเรื่องที่ดี อย่างไรก็ตาม การก้าวเข้าไปในกลุ่มที่มีความเหนียวแน่นก็อาจเป็นเรื่องน่าหนักใจและท้าทายได้ หากออฟฟิศของคุณมีพนักงานใหม่ คุณก็ควรให้การต้อนรับและสนับสนุนให้สมาชิกที่เหลือในทีมปฏิบัติเช่นนั้นด้วย
การมีส่วนร่วมทางวิดีโอเป็นวิธีที่ช่วยหลีกเลี่ยงความโดดเดี่ยวในที่ทำงานได้อย่างเป็นธรรมชาติ
คุณจะต่อสู้กับความโดดเดี่ยวในที่ทำงานได้อย่างไร
นายจ้างสามารถช่วยเหลือในด้านการรวมพนักงานเข้าด้วยกัน เพื่อให้เกิดความรู้สึกของการสนับสนุนและมิตรภาพระหว่างพนักงานแต่ละคนได้
ลองทานอาหารกลางวันร่วมกัน ดังคำกล่าวที่ว่าบริษัทที่กินข้าวหม้อเดียวกันจะรักใคร่กลมเกลียวกัน หรือลองนัดดื่มสังสรรค์หลังเลิกงานเป็นบางครั้ง โดยที่บริษัทเป็นฝ่ายออกค่าใช้จ่าย แม้ว่าใครหลายคนจะกลัวการถูกบังคับให้ต้อง 'รู้สึกสนุกพอเป็นพิธี' แต่กิจกรรมที่เรียบง่ายเหล่านี้สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในแง่ของการสร้างมิตรภาพกับคนในที่ทำงานได้
ใช้แพลตฟอร์มแชทออนไลน์เพื่อให้ผู้คนสามารถเข้าร่วมเพื่อทำงานร่วมกันและพูดคุยเกี่ยวกับโปรเจ็กต์ต่างๆ หรือจะเป็นเรื่องอื่นก็ได้ด้วยเช่นกัน อย่างการเข้าร่วมกลุ่มโซเชียลบนโลกออนไลน์กับเพื่อนร่วมงานที่สนใจเรื่องเดียวกัน รวมถึงการมีบทสนทนาที่เปิดกว้างและได้ถ่ายทอดสิ่งต่างๆ แบบเดียวกับที่คนคนนั้นพูดกับเพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อนร่วมงาน
อีโมติคอน, GIF ตลกๆ หรือวิดีโอที่แชร์ระหว่างกันก็สามารถเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่ผู้คนใช้สร้างสายสัมพันธ์ที่มีความหมายยิ่งขึ้นกับคนที่ตนทำงานด้วยได้ นอกจากนี้ แพลตฟอร์มการสื่อสารใหม่ๆ ก็อาจช่วยป้องกันความรู้สึกโดดเดี่ยวในที่ทำงานไม่ให้เกิดตั้งแต่แรกได้ด้วยเช่นกัน
เชื่อมต่อถึงกันอยู่เสมอ
รับข่าวสารและข้อมูลเชิงลึกล่าสุดจากบุคลากรหน้างาน
เมื่อส่งแบบฟอร์มนี้ จะถือว่าคุณยินยอมที่จะรับการติดต่อสื่อสารผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เกี่ยวกับการตลาดจาก Facebook ซึ่งประกอบด้วยข่าวสาร กิจกรรม ข้อมูลอัพเดต และอีเมลส่งเสริมการขาย โดยคุณสามารถถอนความยินยอมและเลิกรับอีเมลดังกล่าวได้ทุกเมื่อ นอกจากนี้ คุณยังรับทราบว่าได้อ่านและยอมรับข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัวบน Workplace แล้ว