วิธีหลีกเลี่ยงการเหมารวมทางเพศในการสื่อสารภายในที่ทำงาน
เรามาดูกันว่าวิธีการทำงานที่ดีขึ้นจะช่วยยุติการเหมารวมทางเพศและการเหมารวมด้านอื่นๆ ในการสื่อสารภายในที่ทำงานได้อย่างไร


ท่ามกลางโลกที่ #MeToo และการรวมพลังของเหล่าสตรีกำลังเป็นกระแส จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ใครๆ ต่างก็พูดถึงและคัดค้านประเด็นความไม่เท่าเทียมที่เป็นปัญหาในสถานที่ทำงานมาช้านาน
แม้จะมีอีกหลายสิ่งที่เราต้องทำก่อนที่จะสามารถกล่าวได้ว่าสังคมมีความเท่าเทียมกันอย่างแท้จริง แต่การลงมือทำคนละไม้คนละมือในประเด็นด้านความหลากหลายและการไม่แบ่งแยกก็สามารถนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม ซึ่งจะนำไปสู่การตั้งคำถามเกี่ยวกับอคติที่เราพบเห็นทั่วไปในที่ทำงานได้ และนี่คือตัวอย่างบางส่วน
การสื่อสารช่วยฟื้นฟูชุมชนได้อย่างไร
ดาวน์โหลดคู่มือฟรีเพื่อค้นพบกลยุทธ์หลังโควิดจากผู้นำด้านการสื่อสารระดับโลก









สร้างกลุ่มและทีมที่เปิดกว้าง
การส่งเสริมความไม่แบ่งแยกไม่เพียงแต่ช่วยปรับปรุงประสบการณ์ของเพื่อนร่วมงานในสถานที่ทำงานเท่านั้น แต่ยังช่วยปรับปรุงคุณภาพของงานอีกด้วย และพนักงานเองก็รู้ว่าวิธีการนี้มีประสิทธิภาพ เพราะชาว Gen Y กว่า 86% กล่าวว่าทีมที่มีความหลากหลายช่วยให้ทีมเก่งขึ้น
ความไม่แบ่งแยกไม่ใช่การจัดที่นั่งตามแผนการนั่งในชั้นเรียน แต่เป็นการทำให้แน่ใจว่าเส้นทางการสื่อสารของธุรกิจจะเปิดกว้างและใช้งานได้สำหรับสมาชิกทุกคนในทีม โดยไม่คำนึงถึงเพศ ชาติพันธุ์ อายุ หรือความเชื่อทางศาสนา
วิธีง่ายๆ ในการทำเช่นนี้คือ การสนับสนุนการทำงานร่วมกันในโปรเจ็กต์ระหว่างสมาชิกในทีมที่หลากหลาย และทำให้แน่ใจได้ว่าทุกคนจะได้รับความคิดเห็นที่แตกต่างออกไป พยายามรวมผู้คนหลายๆ ลักษณะไว้ในทีมและกลุ่ม Workplace เพราะวิธีนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่คุณจะได้รับผลตอบแทนจากมุมมองที่หลากหลาย
ระวังการใช้ภาษา
การสนับสนุนให้เพื่อนร่วมงานมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันยังไม่ใช่คำตอบสุดท้าย อุปสรรคหนึ่งที่ควรก้าวข้ามให้ได้คือการใช้ภาษาที่ไม่แบ่งแยกเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีขึ้น
ภาษาและเพศเป็นเรื่องที่มีความสัมพันธ์กันอย่างแนบแน่นมานานนับทศวรรษ นำมาซึ่งคำศัพท์ที่มีเพศมาเกี่ยวข้อง เช่น "สัญญาลูกผู้ชาย", "พ่อค้าคนกลาง" และ "เจ้าแม่ดราม่า" เป็นต้น
การแยกภาษาและเพศให้ขาดออกจากกันนั้นคงเป็นเรื่องยาก หลายคนอาจใช้คำศัพท์เหล่านี้มานานหลายปีโดยที่ไม่รู้ตัว ดังนั้น การตระหนักถึงความหมายเชิงลบในภาษาเหล่านี้จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง
ผู้จัดการสามารถเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมนี้ได้ โดยการไม่เหมารวมและทักท้วงเมื่อมีคนทำเช่นนั้น คุณยังสามารถกันไม่ให้เกิดการเหมารวมเป็นกลุ่ม เช่น การใช้คำว่า "หนุ่มๆ" หรือ "สาวๆ" ในแพลตฟอร์มการสื่อสารอย่าง Workplace ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ อย่าลืมพิจารณาภาษาที่ใช้ในการสื่อสารแบบเป็นทางการมากขึ้น เช่น ทบทวนว่าคำนำหน้าและคำขึ้นต้นจดหมายที่คุณใช้ไม่แบ่งแยกและมีความเป็นกลางทางเพศหรือไม่
การรับมือกับการเหมารวมทางเพศไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องของการใช้ถ้อยคำเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการใช้อีโมจิด้วย ซึ่งอีโมจิแต่ละตัวจะมีทั้งแบบเพศหญิงและเพศชาย และ "มีโมจิ" หรือใบหน้าจะมีสีผิวหลายโทนสีให้เลือกใช้เพื่อสนับสนุนการไม่แบ่งแยก

ไม่พลาดทุกการสื่อสาร
รับข่าวสารและข้อมูลเชิงลึกล่าสุดจากบุคลากรหน้างาน
เมื่อส่งแบบฟอร์มนี้ จะถือว่าคุณยินยอมที่จะรับการติดต่อสื่อสารผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เกี่ยวกับการตลาดจาก Facebook ซึ่งประกอบด้วยข่าวสาร กิจกรรม ข้อมูลอัพเดต และอีเมลส่งเสริมการขาย คุณสามารถถอนความยินยอมและเลิกรับอีเมลดังกล่าวได้ทุกเมื่อ นอกจากนี้ คุณยังรับทราบว่าได้อ่านและยอมรับข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัวบน Workplace แล้ว
ให้และรับฟังคำติชมที่เป็นประโยชน์
การปรับเปลี่ยนวิธีการที่ผู้จัดการโต้ตอบกับพนักงานก็เป็นสิ่งสำคัญ ยกตัวอย่างเช่น ในระหว่างการทบทวนการทำงาน ผู้จัดการควรให้คำติชมที่ชัดเจน กระชับ และตรงประเด็นแก่ทั้งพนักงานเพศหญิงและชายเหมือนกัน
การวิจัยเผยให้เห็นว่า ในระหว่างการประชุมทบทวนการทำงานของพนักงานหญิงมีการใช้ภาษาที่อ่อนน้อมเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งทำให้การพูดคุยมีลักษณะที่นุ่มนวล เต็มใจที่จะช่วยเหลือ และสนับสนุนคนในทีม
แต่สำหรับการทบทวนการทำงานของพนักงานชาย เรามักเห็นการใช้ภาษาที่มีความเด็ดเดี่ยว ซึ่งคำติชมจะมีลักษณะตรงไปตรงมาและอิงตามทักษะ ให้ความสำคัญกับเป้าหมายและอุปสรรคที่เกี่ยวข้องกับงานโดยตรง
การให้คำติชมที่ตรงประเด็น มีประโยชน์ และเจาะจงไปยังพนักงานแต่ละคนจะช่วยหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการเหมารวม อีกทั้งยังช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของพนักงานอีกด้วย
และท้ายที่สุดคือการยอมรับคำติชม วิธีเดียวที่จะรู้ได้ว่าคุณกำลังเดินไปข้างหน้าอยู่หรือไม่คือการถาม ดังนั้น จงรับฟังสิ่งที่พนักงานของคุณพูด กลุ่มบน Workplace เป็นพื้นที่ที่ยอดเยี่ยมในการจัดการคำติชมและความสัมพันธ์แบบตัวต่อตัวด้วยรายงาน
กลุ่มบน Workplace มีความเป็นส่วนตัวและเป็นความลับ ทำให้การเข้าถึงบันทึกการสนทนาของคุณเป็นเรื่องง่าย และยังทำหน้าที่เป็นพื้นที่เก็บข้อมูลต่างๆ เช่น เอกสารคำติชม รายงานความคืบหน้า ตลอดจนการทบทวนการทำงานที่ยังดำเนินอยู่ของคุณ
ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
ดาวน์โหลดคู่มือฟรีเพื่อค้นพบกลยุทธ์หลังโควิดจากผู้นำด้านการสื่อสารระดับโลก
ดาวน์โหลดเลยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
ดาวน์โหลดคู่มือฟรีเพื่อค้นพบกลยุทธ์หลังโควิดจากผู้นำด้านการสื่อสารระดับโลก
ดาวน์โหลดเลยโพสต์ล่าสุด

การสื่อสารทางธุรกิจ | ใช้เวลาอ่าน 10 นาที
กลยุทธ์การสื่อสารทางธุรกิจ และเหตุผลที่องค์กรจำเป็นต้องมีสิ่งเหล่านี้
องค์กรต่างๆ จำเป็นต้องทบทวนกลยุทธ์การสื่อสารของตนเองใหม่เมื่อบุคลากรเริ่มทำงานทางไกลในช่วงล็อกดาวน์ แต่ในปัจจุบัน เมื่อบุคลากรบางส่วนเริ่มกลับไปสู่ที่ทำงานแล้ว ธุรกิจจึงต้องกลับมาคิดกลยุทธ์ใหม่อีกครั้ง เรียนรู้วิธีจัดทำกลยุทธ์นี้กัน