Miroglio Fashion เป็นบริษัทเสื้อผ้าสตรีที่อยู่ภายใต้ Miroglio Group บริษัทสัญชาติอิตาลีซึ่งดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมสิ่งทอและแฟชั่นมาตั้งแต่ปี 1947

Workplace พลิกโฉมวิธีการทำงานของเรา

Miroglio Group ดำเนินธุรกิจใน 22 ประเทศผ่านบริษัทต่างๆ 37 บริษัทและโรงงานอุตสาหกรรม 4 แห่ง ทั้งยังได้เปิดใช้ Workplace ไปเมื่อปี 2016

เราได้พูดคุยกับ Hans Hoegstedt ซีอีโอของ Miroglio Fashion เพื่อดูว่าการใช้ Workplace ส่งผลต่อธุรกิจนี้อย่างไรบ้างนับแต่นั้นเป็นต้นมา

ทำไมคุณจึงเลือกใช้ Workplace

เพราะ Workplace เป็นเครื่องมือที่พลิกโฉมวิธีการทำงานของเรา!

ผมมองว่าบทบาทของซีอีโอของบริษัทเราได้เปลี่ยนแปลงไปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ซีอีโอในปัจจุบันจำเป็นต้องสร้างวัฒนธรรม

ซีอีโอต้องลงมือขจัดอุปสรรคต่างๆ เพื่อให้บทสนทนาระหว่างพนักงานทุกคนเป็นไปอย่างโปร่งใสและสร้างสรรค์

ผมมั่นใจว่า Workplace จะเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผมบรรลุเป้าหมายนี้ได้

นอกจากนั้นแล้ว เราตัดสินใจเลือกใช้ Workplace เพราะทุกคนในที่ทำงานต่างก็รู้วิธีใช้งาน Facebook กันอยู่แล้ว ดังนั้น คนเหล่านี้จึง 'เข้าใจ' วิธีใช้งาน Workplace เองโดยธรรมชาติ

ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มใช้งาน พนักงานก็เริ่มมีปฏิสัมพันธ์กันอย่างเป็นธรรมชาติและเป็นตัวของตัวเองได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังไม่ต้องฝึกอบรมใดๆ อีกด้วย!

เป็นการสร้างองค์ความรู้จากผู้คนจำนวนมากในรูปแบบหนึ่ง

ผมมองว่า Workplace เป็นวิธีหนึ่งสำหรับ 'ติดตามความเคลื่อนไหว' ของบริษัท รวมถึงรับรู้ความรู้สึกของผู้คนในขณะนั้นอย่างรวดเร็ว

นี่คือวิธีการทำงานที่สร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ราวกับว่าเป็นการสร้างองค์ความรู้จากผู้คนจำนวนมากในรูปแบบหนึ่ง

คุณเปิดตัว Workplace อย่างไร

เราเปิดใช้ Workplace ในงานประชุมประจำปีเมื่อสองปีก่อน ซึ่งตอนนั้นเกือบทุกคนหันมาใช้ Workplace กันในทันที หน้าร้านของแบรนด์ต่างๆ ในเครือของเรากว่า 1,100 สาขาล้วนเริ่มดำเนินการพร้อมๆ กับสำนักงานใหญ่ด้วยเช่นกัน

Workplace สร้างสายสัมพันธ์โดยตรงที่ไร้ซึ่งอุปสรรคระหว่างสำนักงานใหญ่กับบุคลากรหน้างาน

เราตั้งค่ากลุ่มบน Workplace ทั้งหมดที่เราใช้งานในหลากหลายส่วนของธุรกิจ ดังนั้น เราจึงมีกลุ่มทั้งสำหรับทีมปรับปรุงหน้าร้าน ทีมผลิตภัณฑ์ ทีมนวัตกรรม ทีมสื่อสาร และอีกมากมาย

ผลลัพธ์ที่เราได้คือความรวดเร็วทันใจ เพียงไม่นาน อุปสรรคและระยะทางต่างๆ ก็หายไป ปัจจุบัน ทุกคนที่เคยรู้สึกว่าการสื่อสารกับสำนักงานใหญ่เป็นเรื่องยากก็สามารถใช้ช่องทางที่ส่งถึงสำนักงานใหญ่โดยตรงได้

การใช้ Workplace ช่วยให้วิธีการทำงานของคุณเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง

ผมขอยกตัวอย่างเลยก็แล้วกัน

ในช่วงต้นปี 2017 เราได้เปิดตัวโครงการริเริ่มขนาดใหญ่เพื่อปรับโฉมร้านค้า 300 สาขาของเราใหม่ภายใน 300 วัน โดยเราเรียกโครงการนี้ว่า โปรเจ็กต์ "300 ใน 300"

ภารกิจอันแสนทะเยอทะยานนี้มาพร้อมกับเงินลงทุนกว่า 17 ล้านยูโร เราจึงต้องทำสิ่งต่างๆ ให้ถูกต้องเหมาะสม

ความท้าทายที่แท้จริงนั้นอยู่ที่ความเร็วในการดำเนินงานในส่วนที่จำเป็น เราจะกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันในเชิงบวกที่ผู้คนอยากเข้ามามีส่วนร่วมด้วยได้อย่างไร

สำหรับบริษัทส่วนใหญ่ ซีอีโอก็จะประกาศเปิดตัวโปรเจ็กต์นั้นและเริ่มดำเนินการตามแผน จากนั้นก็มาสรุปผลในอีกหนึ่งปีให้หลังว่าโปรเจ็กต์ดังกล่าวประสบความสำเร็จหรือไม่

ซึ่งวิธีนั้นใช้ไม่ได้กับ Workplace!

Workplace เป็นเครื่องมือเร่งการเติบโตที่หาเครื่องมืออื่นมาเทียบได้ยาก ซึ่งเราได้นำมาใช้กับโปรเจ็กต์ที่ใหญ่ที่สุดของเรา

ในแต่ละวัน สำนักงานที่อยู่ในโปรเจ็กต์จะโพสต์รูปภาพพร้อมข้อมูลอัพเดตเกี่ยวกับการปรับปรุงหน้าร้าน จากนั้น พนักงานของสาขานั้นๆ ก็จะเข้ามามีส่วนร่วมด้วยการโพสต์รูปภาพและวิดีโอเป็นประจำทุกวันด้วยความภาคภูมิใจในหน้าร้านโฉมใหม่ของตน

นี่คือกรณีด้านการสื่อสารจากล่างขึ้นบนที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งทำให้โปรเจ็กต์ดังกล่าวได้รับความสนใจตลอดทั้งปี ผมมีความสุขกับการได้เปิดดูฟีดข่าวของบริษัทในทุกๆ วัน รวมถึงได้เห็นหน้าร้านที่ปรับปรุงใหม่และความมั่นใจจากพนักงานที่อยู่ในแผนการปรับปรุงและการเติบโตนี้

เราสามารถทำได้ตามแผนที่วางไว้จนกระทั่งทะลุเป้าหมายที่ 300 สาขาในเดือนธันวาคม 2017 จากทั้งหมดที่ว่ามานี้ พูดได้เลยว่า Workplace เป็นเครื่องมือเร่งการเติบโตที่หาเครื่องมืออื่นมาเทียบได้ยาก

ฟีเจอร์ "แปลอัตโนมัติ" ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพ ทั้งยังเป็นเครื่องมือสำคัญในระหว่างการนำ Workplace ไปใช้กับธุรกิจของเราทั่วโลก

ฟีเจอร์ "แปลอัตโนมัติ" เป็นฟีเจอร์สำคัญเมื่อเราขยายแพลตฟอร์มนี้ไปยังสำนักงานในรัสเซีย ทุกคนต่างโพสต์ด้วยภาษาของตนเอง จากนั้น Workplace ก็แปลภาษานั้นโดยอัตโนมัติ เรียกได้ว่าทั้งใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพ

ฟีเจอร์นี้เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการสร้างเครือข่ายทั่วโลกขนาดใหญ่ โดยเราจะอาศัยการแปลภาษาในระหว่างที่เรานำ Workplace ไปเปิดใช้ในโรมาเนีย สเปน และฝรั่งเศส

ปัจจุบันนี้ เรายังได้ใช้วิดีโอถ่ายทอดสดทุกครั้งที่นำเสนอคอลเลกชั่นใหม่ด้วย

วิธีที่คุณใช้แพลตฟอร์มเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาอย่างไรบ้าง

มีบางฟังก์ชั่นที่ตอนแรกเราไม่ได้ใช้ ทว่าตอนนี้ได้กลายเป็นฟีเจอร์หลักสำหรับเราไปแล้ว

วิดีโอถ่ายทอดสดช่วยให้การแพร่ภาพของเรามีคุณภาพมากขึ้นโดยใช้ต้นทุนเพียงแค่ 1 ใน 10

การแพร่ภาพของเรามีคุณภาพสูงกว่าเดิมมาก นอกจากนี้ เรายังสามารถแพร่ภาพการสตรีมแบบมืออาชีพโดยใช้ต้นทุนเพียงแค่ 1 ใน 10 ของบริการอื่นๆ ได้อีกด้วย

คุณช่วยยกตัวอย่างสิ่งที่ก่อนหน้านี้ทำไม่ได้ แต่ปัจจุบันคุณสามารถทำได้แล้วได้หรือไม่

หนึ่งในตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดเลยคือกลุ่มสำหรับการจัดทำหน้าต่างโชว์สินค้าของเราโดยเฉพาะ

ก่อนที่เราจะใช้ Workplace ทีมปรับปรุงหน้าร้าน (Visual Merchandising หรือ VM) จะทำหน้าต่างตัวอย่างขึ้นมาแล้วส่งไปยังหน้าร้านทั้งหมดผ่านทางอีเมล

แต่เมื่อมี Workplace ปัจจุบันทีม VM ก็สามารถโพสต์รูปภาพหน้าต่างตัวอย่างลงในกลุ่มบน Workplace ได้เลย จากนั้นร้านค้าทุกสาขาจะตอบกลับด้วยการส่งหน้าต่างในเวอร์ชั่นของตนเอง ความคิดเห็น และคำแนะนำต่างๆ ทีม VM จึงสามารถให้คำติชมกับแต่ละสาขาได้ในทันที

ตอนนี้เรามีตัวอย่างการตกแต่งหน้าต่างร้านเป็นร้อยๆ แบบ แทนที่จะมีเพียงแค่แบบเดียว อีกทั้งผู้คนก็สามารถรับไอเดียและแรงบันดาลใจจากคนอื่นๆ ได้อีกด้วย

Workplace ช่วยให้การสนทนาและการทำงานร่วมกันมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จนทำให้เรามีหน้าต่างโชว์สินค้าที่สวยกว่าเดิม ใครบ้างที่จะไม่ตกหลุมรักแพลตฟอร์มนี้ ว่าไหม

ขอขอบคุณ Hans Hoegstedt ซีอีโอจาก Miroglio เป็นอย่างยิ่ง