อนาคตของการทำงานทางไกลและความคาดหวังในปี 2023
![](https://static.xx.fbcdn.net/rsrc.php/v3/y4/r/-PAXP-deijE.gif)
![The future of remote work - Workplace from Meta](https://scontent-ord5-1.xx.fbcdn.net/v/t39.8562-6/283665943_950094868993750_9167399835764980572_n.webp?_nc_cat=101&ccb=1-7&_nc_sid=f537c7&_nc_ohc=JzG7Clsfo7AQ7kNvgFTTRFv&_nc_ht=scontent-ord5-1.xx&oh=00_AYDDnH_0bvnYIRzeXWxDOOOs5E5rZ54dnZ6xHi8RgDHe6Q&oe=66AA7B20)
เทรนด์การทำงานจากทางไกลที่เราจะได้เห็นในปี 2023 คืออะไร เราจะทำงานจากที่บ้านมากกว่าเดิม หรือออฟฟิศจะกลับมาเป็นหัวใจหลักของชีวิตการทำงานอีกครั้ง เรามาสำรวจสิ่งนี้ไปด้วยกัน
นักวิจารณ์ต่างพูดถึงการเปลี่ยนแปลงไปสู่การทำงานทางไกลครั้งใหญ่มานานหลายปี แต่เรื่องนั้นก็ไม่เคยเกิดขึ้นเลย
เพราะอุปสรรคอย่างเทคโนโลยีที่ยังไม่พร้อมและการขาดการติดต่อแบบเห็นหน้าค่าตานั้นดูยากเกินกว่าที่จะก้าวข้าม จนการเปลี่ยนแปลงอย่างเต็มรูปแบบไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ แต่ในระหว่างการระบาดใหญ่ทั่วโลก กำแพงที่คอยขวางการทำงานทางไกลก็พังทลายลงในพริบตาด้วยการล็อกดาวน์และมาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคม ทำให้พนักงานประมาณ 557 ล้านรายทั่วโลกต้องทำงานจากที่บ้าน
แม้ว่าการระบาดใหญ่ทั่วโลกจะคลี่คลายลงแล้ว แต่ดูเหมือนว่าแทบจะไม่มีท่าทีของการกลับมาทำงานแบบปกติก่อนเกิดโควิดแต่อย่างใด และในระหว่างที่โควิดจะอยู่กับเราไปอีกนาน การทำงานทางไกลก็อาจไม่ได้ดำเนินต่อไปในวิถีทางเดิม
บางองค์กรไม่ได้ชอบพอการทำงานจากทางไกลเหมือนองค์กรอื่นๆ เท่าไรนัก และแม้ว่าพนักงานบางรายอาจไม่ต้องการกลับไปทำงานที่ออฟฟิศอีก แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่พบว่าตนไม่เหมาะกับการทำงานที่บ้านแบบเต็มเวลา (ซึ่งเป็นรูปแบบที่จะทำอย่างไรก็ไม่มีทางสมบูรณ์แบบ) เอาเสียเลย
ฉะนั้นแล้ว อนาคตของการทำงานทางไกลจะเป็นอย่างไร
เส้นทางสู่สำนักงานไร้พรมแดน
ค้นพบวิธีการและสาเหตุที่ทำให้เราสามารถทำงานอย่างเต็มความสามารถได้จากทุกที่ภายในโลกของเมตาเวิร์ส
![](https://scontent-ord5-2.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/241657427_830327301017600_1962560683684295026_n.jpg?_nc_cat=103&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=d_lQtbn8j4kQ7kNvgGO1EP5&_nc_ht=scontent-ord5-2.xx&oh=00_AYAtHDwOxHr0W8rCqBCkSeJ3lfeQJL_BW7BqMI9M32-cJg&oe=66AA8891)
![](https://scontent-ord5-2.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/241700087_402134681493763_6402224727821764861_n.jpg?_nc_cat=102&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=Q0z5RifsOagQ7kNvgFhpTEr&_nc_ht=scontent-ord5-2.xx&oh=00_AYDXXQ-YleghEz4TgAdiBfTR0TBbv8HNB11jAnPi_1J0cQ&oe=66AA8C98)
![](https://scontent-ord5-1.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/241221457_908577796409130_6487958369880006678_n.jpg?_nc_cat=111&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=Rg6tgx_FEPcQ7kNvgGDoxQN&_nc_ht=scontent-ord5-1.xx&oh=00_AYDFtRPIISLj6pqT3EPAyg5Bc5H8xcvnC9RNzK-iVrG4Gg&oe=66AA64DC)
![](https://scontent-ord5-1.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/241625011_538813510723750_6067052383644802717_n.jpg?_nc_cat=108&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=ipO-OFAm9YwQ7kNvgHLNlxn&_nc_ht=scontent-ord5-1.xx&oh=00_AYB1T2zkeX2fgnTPPU1lEyMiP_vt2SuHih9I7oP7hxGxng&oe=66AA8580)
![](https://scontent-ord5-1.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/241639311_391950989102429_5023017423346854138_n.jpg?_nc_cat=108&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=Sz1KtrjEdmUQ7kNvgHG2sZu&_nc_ht=scontent-ord5-1.xx&oh=00_AYDqge_0ZYPURMgNylxpSwmBztkYYUR9MLDjeyI2sLbSVw&oe=66AA5BC3)
![](https://scontent-ord5-2.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/241680920_332122231999515_373331672225401460_n.jpg?_nc_cat=104&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=bGQ_GJfIxI0Q7kNvgHo-pj1&_nc_ht=scontent-ord5-2.xx&oh=00_AYBXOBj5u3QMCpbAvAbTF-nHThgdvocY_Z9w7lbsXSfGQQ&oe=66AA8D86)
![](https://scontent-ord5-2.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/241256790_921023931957750_1265904103262126731_n.jpg?_nc_cat=103&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=UG9yCIjaCJsQ7kNvgH2-137&_nc_ht=scontent-ord5-2.xx&oh=00_AYDkQXs2kk-6ppCKFYwxS8jfx5U7SeNNIUABWfYk1iI56w&oe=66AA8432)
![](https://scontent-ord5-1.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/241676153_587765818908517_6915274023430930059_n.jpg?_nc_cat=108&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=pmnzfo5eeGIQ7kNvgE4iuxY&_nc_ht=scontent-ord5-1.xx&oh=00_AYDiHpG3-u3Q42uAd-FhcNjDLbmz7g2Xj5qTWLvxcaX_Aw&oe=66AA6DBC)
![](https://scontent-ord5-2.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/241698027_372910177816075_3542654260261704366_n.jpg?_nc_cat=105&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=iOwtr5d85ycQ7kNvgFfgB6V&_nc_ht=scontent-ord5-2.xx&oh=00_AYCS8QJmBARp_oJlF0NEIxRPMVj0kVJryhVCg4xlZXRSKg&oe=66AA7075)
การทำงานทางไกลจะคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์
หากคุณเป็นพนักงานออฟฟิศ คุณอาจคิดว่าทุกคนสามารถทำงานที่บ้านได้บ้างเป็นบางครั้ง และแน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ไปสู่การทำงานทางไกลในระหว่างการระบาดใหญ่ทั่วโลกก็ได้เกิดขึ้นไปแล้ว
ตัวอย่างเช่นในสหราชอาณาจักร 36% ของพนักงานทำงานจากที่บ้านในปี 2020 ซึ่งมากกว่าปี 2019 อยู่ 9% ส่วนในสหรัฐฯ ซึ่งมีเพียง 7% ของพนักงานที่ทำงานจากที่บ้านเป็นประจำตั้งแต่ก่อนเกิดการระบาดใหญ่ทั่วโลก พนักงาน 36% กล่าวว่าตนทำงานทางไกลเพราะโควิด
แต่สิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกสายงาน พนักงานในธุรกิจบริการ เช่น พนักงานซูเปอร์มาร์เก็ต ช่างทำผม ช่างไฟฟ้า และพยาบาล ต่างก็ไม่มีตัวเลือกให้ทำงานทางไกลทั้งสิ้น แบบสำรวจที่สอบถามผู้บริหารระดับสูง 500 รายจาก Fortune เผยว่า ลักษณะการทำงานเช่นนี้จะดำเนินต่อไป
ตัวอย่างเช่น 15% ของพนักงานที่ทำงานในธุรกิจสุขภาพต่างคาดหวังว่าตนจะได้ทำงานจากทางไกลอย่างเต็มเวลาหลังผ่านพ้นการระบาดใหญ่ไปแล้ว ส่วนพนักงานในภาคส่วน IT กว่า 40% ก็คาดหวังเช่นเดียวกัน ดังนั้น บริษัทที่ให้พนักงานกลับมาทำงานที่ออฟฟิศ ให้พนักงานทำงานทางไกล หรือให้พนักงานทำงานแนวหน้า ก็ต่างเผชิญกับอุปสรรคของการสร้างสายสัมพันธ์ใหม่ให้กับทีมที่ทำงานในลักษณะแตกต่างกันเช่นนี้
![alttext](https://scontent-ord5-1.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/126801575_1067814497067817_9057282572400735571_n.jpg?_nc_cat=111&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=HHUDJ-NxBYQQ7kNvgHhNrZ3&_nc_ht=scontent-ord5-1.xx&oh=00_AYB0rm4qH5D4nOd8WsVWdg6NFzGFo6BNsyJE798wHR9aVw&oe=66AA7D75)
เราจะทำงานทางไกลต่อไปหรือไม่ในปี 2023
เราไม่สามารถฟันธงได้ว่าปีหน้าจะเป็นอย่างไร แต่ขั้นตอนที่องค์กรต่างๆ กำลังดำเนินการช่วยให้เราเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง องค์กรชั้นนำหลายแห่งยินดีเปิดใจรับการทำงานทางไกลถึงขั้นที่จะเลือกใช้การทำงานในรูปแบบนี้เป็นปกติเลยทีเดียว
โดยบริษัทประกันภัยในสหรัฐฯ ได้ประกาศแผนจะลดจำนวนออฟฟิศจาก 20 แห่งเหลือเพียง 4 แห่งเท่านั้น
ในปี 2020 บริษัท Shopify ประกาศว่าตนจะเป็น "บริษัทดิจิตอลเต็มตัว" และพนักงานส่วนใหญ่จะได้ทำงานทางไกลอย่างถาวร
Dropbox ผันตัวมาเป็นบริษัทที่มุ่งเน้นการทำงานบนออนไลน์ และให้การทำงานทางไกลเป็นตัวเลือกแรกของพนักงาน
LinkedIn จะอนุญาตให้พนักงานเลือกได้ว่าจะทำงานแบบใด ระหว่างทำงานทางไกลเต็มเวลาหรือแบบผสมผสาน
แต่ไม่ใช่ทุกคนที่พอใจกับสิ่งนี้ David Solomon ผู้เป็นซีอีโอของ Goldman Sachs อธิบายเกี่ยวกับการทำงานที่บ้านว่าเป็น "ความผิดปกติที่เราจะแก้ไขโดยเร็วที่สุด" และยังมีรายงานว่า ข้าราชการพลเรือนของอังกฤษจะถูกลดเงินค่าจ้างหากไม่กลับมาทำงานที่ออฟฟิศ
วัฒนธรรมองค์กรเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักสำหรับองค์กรที่ต้องการให้พนักงานกลับมาทำงานประจำที่ เนื่องจากองค์กรเหล่านี้กังวลใจว่าการทำงานทางไกลอาจไม่เหมาะสมกับวัฒนธรรมดั้งเดิมของตน อีกทั้งยังกังวลว่าพนักงานรุ่นใหม่ๆ อาจพลาดกระบวนการฝึกงานที่ไม่สามารถใช้วิธีทำงานทางออนไลน์มาจำลองได้
และถึงแม้ว่าหลักฐานต่างๆ อาจชี้ให้เห็นเป็นอื่น แต่ใครๆ ก็อาจแอบคิดเหมือนกันว่าผู้นำองค์กรย่อมเป็นกังวลว่าพนักงานที่ทำงานทางไกลจะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเหมือนในเวลาปกติหรือไม่
ในขณะที่องค์กรซึ่งปรับมาทำงานทางไกลอย่างเต็มรูปแบบต่างคาดหวังว่าตนจะได้รับผลประโยชน์หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการสรรหาบุคลากรได้ง่ายขึ้น การดำเนินงานได้อย่างยั่งยืนยิ่งขึ้น และยังไม่ต้องเสียค่าบำรุงรักษาสถานที่จำนวนมากอีกด้วย
ในอนาคต ทุกคนจะทำงานทางไกลหรือไม่
ในอนาคตของการทำงานทางไกล ผู้คนอาจทำงานจากที่บ้านกันมากขึ้น แต่ใช่ว่าทุกคนจะทำเช่นนั้นได้ เนื่องจากบางสายงานไม่สามารถทำทางออนไลน์ได้ เช่น งานที่เกี่ยวข้องกับเครื่องจักรเฉพาะทาง หรืองานที่ต้องพบปะกันเป็นการส่วนตัว
McKinsey เผยว่า "การทำงานทางไกลของสายงานที่ต้องการทักษะและการศึกษาระดับสูงในหลายๆ อุตสาหกรรม อาชีพ และพื้นที่นั้นมีความเป็นไปได้สูง"
การตัดสินใจทำงานทางไกลก็เกี่ยวเนื่องกับรายได้อย่างมากเช่นกัน โดยครอบครัวที่มีรายได้ต่ำกว่ามักมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนไปทำงานทางไกลในระหว่างการระบาดใหญ่น้อยกว่า และในภาพรวมที่กว้างขึ้น ประเทศที่มีรายได้สูงก็มีแนวโน้มที่จะมีพนักงานทำงานจากบ้านมากกว่า มีการประมาณว่า 25% ของพนักงานทำงานทางไกลระหว่างการระบาดใหญ่ทั่วโลกในประเทศที่มีรายได้สูง โดยที่ในประเทศที่มีรายได้ต่ำนั้นมีผู้ทำงานทางไกลเพียง 13%
แนวโน้มของการทำงานทางไกลในอนาคต
หลายๆ บริษัทพบว่า ในอนาคตตนต้องหาทางสายกลางระหว่างการทำงานออนไลน์เพียงอย่างเดียวและการให้พนักงานทุกคนกลับเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศห้าวันต่อสัปดาห์ เมื่อ PwC สอบถามนายจ้าง บริษัทพบว่าผู้บริหารจำนวนน้อยกว่า 1 ใน 5 จะต้องการกลับไปทำงานที่ออฟฟิศเหมือนอย่างช่วงก่อนเกิดการระบาดของไวรัสโควิด โดยมีเพียง 13% เท่านั้นที่ต้องการทำงานทางไกลไปตลอด
และผลสรุปคือ "บริษัทส่วนใหญ่กำลังมุ่งไปทางวิธีการทำงานแบบลูกผสม กล่าวคือ ให้พนักงานในออฟฟิศจำนวนมากหมุนเวียนกันเข้าและออกจากออฟฟิศซึ่งออกแบบมาให้เป็นพื้นที่ทำงานร่วมกัน"
ซึ่งวิธีนี้ทำให้ทุกคนต่างได้รับประโยชน์ถ้วนหน้า โดยองค์กรได้รับอานิสงส์จากประโยชน์ของวัฒนธรรม การทำงานร่วมกัน และความคิดสร้างสรรค์ซึ่งเกิดจากการรวบรวมพนักงานให้อยู่ในพื้นที่เดียวกันได้ในช่วงเวลาหนึ่งๆ ส่วนพนักงานก็ได้รับประโยชน์จากความยืดหยุ่นและพื้นที่ที่ตนชื่นชอบเมื่อได้ทำงานทางไกล
แม้ว่าวิธีนี้จะยังไม่ถือว่าเป็นการปฏิวัติเทียบเท่ากับการทำงานทางไกลอย่างเต็มรูปแบบสำหรับทุกคน แต่การทำงานแบบลูกผสมซึ่งได้รับความนิยมแพร่หลายเช่นนี้ก็ยังถือเป็นแนวโน้มที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในหลายๆ แง่มุมของชีวิตเรา ใจกลางเมืองที่เคยเป็นศูนย์รวมพนักงานจำนวนมากซึ่งเดินทางเข้ามาทำงานทุกวันจะต้องปรับตัวให้เข้ากับวิถีการทำงานรูปแบบใหม่ เครือข่ายคมนาคมขนส่งจะมีผู้ใช้บริการน้อยลง
และแน่นอนว่าการทำงานทางไกลและแบบผสมผสานทำให้มีตัวเลือกด้านที่อยู่อาศัยมากขึ้น เนื่องจากผู้คนไม่จำเป็นต้องอาศัยอยู่ใกล้สถานที่ทำงานของตนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ เมืองของเราอาจเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล
การทำงานทางไกลมีข้อดีอย่างไรบ้าง
การอนุญาตให้ผู้คนทำงานทางไกลเป็นบางครั้งบางคราวทำให้องค์กรได้รับประโยชน์มากมาย ซึ่งได้แก่ข้อดีทั้ง 5 ข้อต่อไปนี้
บุคลากร
เมื่อไม่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่อีกต่อไป องค์กรก็สามารถสรรหาพนักงานใหม่จากที่ใดก็ได้ ทั้งยังมีโอกาสมากขึ้นในการพบเจอผู้สมัครที่เหมาะสมกับบทบาทหน้าที่โดยไม่ต้องคำนึงว่าผู้สมัครเหล่านั้นอาศัยอยู่ที่ใด หรือแม้กระทั่งการสรรหาบุคลากรจากต่างประเทศก็เป็นไปได้ ด้วยเครื่องมือใหม่ๆ ที่จะทำให้การทำงานจากต่างโซนเวลาเป็นเรื่องง่ายดาย
ใช้สถานที่ทำงานของคุณให้เกิดประโยชน์สูงสุด
การให้พนักงานทำงานในออฟฟิศเป็นบางเวลาช่วยให้ผู้จัดการและผู้บริหารได้รับประโยชน์สูงสุดจากการพบปะกับทีมของตน โดยใช้โอกาสนี้ไปกับการจัดการประชุมตัวต่อตัวและส่งเสริมการทำงานร่วมกันและการเข้าสังคม
ความหลากหลายและการเปิดกว้างที่มากยิ่งขึ้น
เมื่อองค์กรสามารถรับสมัครพนักงานใหม่จากที่ใดก็ได้ อุปสรรคในการจ้างงานขององค์กรก็จะถูกทำลายลง และช่วยให้องค์กรสามารถจ้างงานผู้ที่เหมาะสมได้โดยไม่คำนึงถึงเพศหรือเชื้อชาติ หรืออุปสรรคต่อการทำงานอย่างการเลี้ยงดูบุตรหลานของผู้ปกครองบางรายก็อาจถูกขจัดออกไปเมื่อผู้คนสามารถทำงานได้จากทุกที่
ผลิตภาพที่เพิ่มขึ้น
การวิจัยเผยว่าการทำงานทางไกลทำให้เกิดผลิตภาพที่ดี เนื่องจากผู้คนไม่ต้องเสียเวลาไปกับการเดินทางและถูกรบกวนจากสิ่งต่างๆ ในออฟฟิศน้อยลง หลายคนจึงรู้สึกว่าการทำงานที่บ้านช่วยมอบทั้งเวลาและพื้นที่ส่วนตัวสำหรับการทำงานให้แก่ตน McKinsey ประมาณการว่า มากกว่า 20% ของพนักงานสามารถทำงานส่วนหนึ่งจากทางไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับเมื่อทำงานที่ออฟฟิศ
การมีส่วนร่วมของพนักงานที่ดียิ่งขึ้น
การให้โอกาสในการทำงานทางไกลและความยืดหยุ่นที่มาพร้อมกันเป็นสิ่งที่พนักงานหลายๆ คนต้องการ โดยแบบสำรวจหนึ่งเผยว่า 98% ของพนักงาน1กล่าวว่าตนอยากจะทำงานทางไกลบ้างเป็นบางครั้ง การมอบตัวเลือกทำงานทางไกลให้แก่พนักงานอาจช่วยเสริมสร้างความผูกพันที่มีต่อองค์กรและยังช่วยให้พนักงานทุ่มเทกับการทำงานมากขึ้นอีกด้วย