ความโปร่งใสในธุรกิจ: เหตุใดจึงเป็นเรื่องคุ้มค่าในการแสดงความจริงใจ
เราพิจารณาความหมายของความโปร่งใสในธุรกิจและวิธีที่คุณจะทำให้เกิดขึ้นได้


ความไว้วางใจคือกุญแจสู่ความสำเร็จในทุกๆ ความสัมพันธ์ ในที่ทำงานก็ไม่ต่างกัน การสร้างความไว้วางใจเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดวิธีเดียวในการสร้างความสัมพันธ์อันมีคุณค่าและยั่งยืนระหว่างคุณและพนักงาน ซึ่งช่วยกระตุ้นแรงบันดาลใจและสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานในเชิงบวกและเชิงรุกที่มุ่งสู่ความสำเร็จ แต่คุณจะสร้างวัฒนธรรมแห่งความไว้วางใจนี้ได้อย่างไร
ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยความโปร่งใส ความโปร่งใสเป็นพื้นฐานที่ช่วยให้พนักงานรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนสำคัญและมีคุณค่าในหมู่พนักงาน หากไม่มีความโปร่งใสแล้ว คุณจะไม่สามารถมีส่วนร่วมกับพนักงานได้อย่างเต็มที่หรือเชื่อมต่อพวกเขากับธุรกิจและค่านิยมของคุณได้ มาดูความหมายของความโปร่งใสที่มีต่อธุรกิจและวิธีที่คุณจะทำให้เกิดความโปร่งใสขึ้นได้กัน
เรียนรู้ว่าผู้นำด้านทรัพยากรบุคคลทั่วโลกสร้างวัฒนธรรมองค์กรได้อย่างไร
ดาวน์โหลดเคล็ดลับมืออาชีพทั้ง 6 ข้อเพื่อค้นพบความเชื่อมโยงระหว่างการมีส่วนร่วมของพนักงานและวัฒนธรรมองค์กร









ความโปร่งใสในธุรกิจคืออะไร
ความโปร่งใสในธุรกิจหมายถึงการสร้างเส้นทางการสื่อสารที่ซื่อสัตย์ระหว่างคุณและพนักงาน บริษัทที่โปร่งใสจะเปิดรับการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพการทำงาน กลยุทธ์ และกระบวนการภายใน ซึ่งหมายรวมถึงข้อบกพร่องต่างๆ และในขณะเดียวกันก็ยินดีรับฟังความคิดเห็นจากพนักงานทุกระดับด้วยเช่นกัน การสนทนาแบบสองทางนี้ช่วยสร้างวัฒนธรรมในที่ทำงานที่เปิดกว้างและซื่อสัตย์ โดยที่พนักงานแต่ละคนรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ใหญ่กว่าซึ่งให้คุณค่าและให้เกียรติพวกเขา
ความโปร่งใสแบ่งออกเป็นหลายระดับเมื่อพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างนักธุรกิจกับนักลงทุน ลูกค้ากับธุรกิจ และนายจ้างกับลูกจ้าง มาดูรายละเอียดเพิ่มเติมกัน
พนักงาน
สำหรับพนักงาน ความโปร่งใสเป็นเรื่องของการสื่อสารที่เปิดเผยและตรงไปตรงมา พนักงานจะมีส่วนร่วมและมีแรงบันดาลใจมากที่สุดเมื่อรู้สึกถึงความไว้วางใจจากนายจ้าง อันที่จริงแล้ว การสำรวจในปี 2019 โดย Peldon Rose1 เปิดเผยว่า 80% ของพนักงานรู้สึกว่าการได้รับการชื่นชมเป็นสิ่งสำคัญต่อความสุขในที่ทำงาน
ซึ่งคุณสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ผ่านการอัพเดตเกี่ยวกับกลยุทธ์และทิศทางของบริษัทอย่างสม่ำเสมอ การสร้างค่านิยมที่ชัดเจน การกระตุ้นการให้ข้อเสนอแนะ และการสื่อสารเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเงินของบริษัทตามความเป็นจริง
ลูกค้า
ความโปร่งใสมีผลกระทบต่อความภักดีของลูกค้าเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของค่านิยมของบริษัท การศึกษาของ Zeno ล่าสุดจากแบรนด์กว่า 75 แบรนด์2พบว่าผู้บริโภคกว่า 94% ทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วมกับบริษัทที่มีเป้าหมายหรือชุดค่านิยมที่มีการกำหนดไว้อย่างชัดเจน
โดยการศึกษาชี้ให้เห็นว่าบริษัทเหล่านี้มีกำลังซื้อมากกว่าถึง 4 เท่า มีแนวโน้มที่จะได้รับการแนะนำจากลูกค้ามากกว่าถึง 4.5 เท่า และมีแนวโน้มที่จะได้รับการพิจารณาว่าน่าเชื่อถือมากกว่าถึง 4.1 เท่า
นักลงทุนและผู้ถือหุ้น
ความโปร่งใสสำหรับนักลงทุนคือความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลทางการเงินได้อย่างง่ายดาย เช่น โครงสร้างราคาและรายงานทางการเงินที่ได้รับการตรวจสอบโดยบุคคลที่สาม การจัดเตรียมข้อมูลนี้ให้พร้อมใช้งานจะช่วยให้ผู้ที่มีโอกาสให้ทุนสนับสนุนมีความมั่นใจว่าพวกเขาสามารถไว้วางใจองค์กรของคุณให้จัดทำบันทึกที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน และทำให้กระบวนการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะดำเนินไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น

เหตุใดความโปร่งใสในที่ทำงานจึงมีความสำคัญ
สำหรับธุรกิจจำนวนมาก แนวคิดเรื่องความโปร่งใสอาจฟังดูน่ากังวล นายจ้างบางคนอาจกังวลว่าความโปร่งใสจะทำให้ตัวเองดูมีอำนาจหรือความเด็ดขาดน้อยลง แต่ไม่เป็นความจริงเลย พนักงานต้องการที่จะรู้สึกเชื่อมต่อและไว้วางใจกัน พวกเขาต้องการเป็นส่วนหนึ่งของสภาพแวดล้อมที่เปิดกว้างและให้คุณค่ากับสิ่งที่พวกเขามอบให้
ความโปร่งใสและความไว้วางใจเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับพนักงานที่ทำงานจากทางไกลและทำงานแบบไฮบริด ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะทำงานโดยขาดการเชื่อมต่อจากสภาพแวดล้อมการทำงานทางกายภาพไปโดยสมบูรณ์ หลังเกิดการระบาดใหญ่ทั่วโลก ความโปร่งใสได้กลายมาเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างและรักษาวัฒนธรรมของบริษัทที่ช่วยให้พนักงานของคุณกระตือรือร้นและมีส่วนร่วมอยู่เสมอ
ต่อไปนี้คือผลของการมีความโปร่งใสหรือการขาดความโปร่งใสที่อาจส่งผลต่อธุรกิจของคุณ
ชื่อเสียงของบริษัท
การวิจัยโดย Deloitte เผยให้เห็นว่าคนยุคมิลเลนเนียลและคน Gen Z ไว้วางใจบริษัทน้อยกว่าคนรุ่นก่อนมาก ชื่อเสียงของบริษัทที่มีต่อคนทั้งสองกลุ่มนี้มีความสำคัญเนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อมุมมองที่คนอื่นๆ มีต่อสินค้าและบริการ รวมถึงส่งผลกระทบต่อความสามารถในการสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถใหม่ๆ
การสรรหาบุคลากร
ปัญหานี้ถือเป็นปัญหาใหญ่ วัฒนธรรมองค์กรที่มีความไว้วางใจและความโปร่งใสกลายเป็นข้อกำหนดเบื้องต้นที่ผู้หางานมองหา โดยเฉพาะกับคนยุคมิลเลนเนียลและคน Gen Z เนื่องจากคนสองกลุ่มนี้จะพิจารณาค่านิยมของบริษัท การให้คะแนนความพึงพอใจของพนักงาน และความสามารถในการดึงดูดและรักษาพนักงานเป็นปัจจัยสำคัญในการสมัครงาน
แบบสำรวจล่าสุดโดย EY ระบุว่าการเปิดกว้างและการสื่อสารเป็นปัจจัยที่สำคัญสูงสุด 5 อันดับแรกที่ผู้หางานมองหา โดย 59% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าความโปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญมากที่ผู้ที่มีโอกาสเป็นนายจ้างพึงมี3
ประสิทธิภาพการทำงาน
ข้อมูลของ Salesforce ระบุว่าพนักงานที่รู้สึกว่าได้รับการรับฟังนั้นมีโอกาสที่จะรู้สึกว่าตัวเองมีกำลังใจที่จะทำงานให้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้นถึง 4.6 เท่า4 การหาวิธีรักษาประสิทธิภาพการทำงานยิ่งมีความสำคัญมากเป็นพิเศษในช่วงล็อกดาวน์ เนื่องจากบริษัทต่างๆ จะต้องไว้วางใจให้พนักงานทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพแม้อยู่นอกที่ทำงาน
เมื่อเราก้าวเข้าสู่โลกที่การทำงานแบบไฮบริดและการมีความยืดหยุ่นเป็นเรื่องปกติมากขึ้น บริษัทที่ล้ำสมัยจะได้เรียนรู้วิธีใช้ความโปร่งใสเพื่อเสริมพลังให้กับพนักงานไม่ว่าจะทำงานอยู่ที่ใด
การรักษาบุคลากรไว้กับองค์กร
การที่พนักงานจะอยู่กับองค์นั้นขึ้นอยู่กับความไว้วางใจล้วนๆ บริษัทที่โปร่งใสจะสร้างสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับพนักงาน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความมุ่งมั่นให้สูงขึ้นและเพิ่มการมีส่วนร่วมของพนักงานให้มากขึ้น ข้อมูลของ EY แสดงให้เห็นว่าพนักงานที่มีความไว้วางใจบริษัทในระดับต่ำกล่าวว่าความไว้วางใจนี่เองที่เป็นปัจจัยหลักของการหางานใหม่ (42%) โดยเหตุผลรองลงมาคือตนจะทำงานในระยะเวลาเท่าที่ควรต้องทำเท่านั้น (30%) และมีส่วนร่วมและมีผลิตภาพน้อยลง (28%)
การสนับสนุนพนักงาน
ข้อมูลของ LinkedIn บ่งชี้ว่าพนักงานมีการเชื่อมต่อทางสังคมโดยรวมมากกว่าการเชื่อมต่อของบริษัทถึง 10 เท่า5 ซึ่งหมายความว่าเมื่อพนักงานแบ่งปันคำพูดดีๆ เกี่ยวกับบริษัทของคุณในโซเชียลมีเดีย ผู้คนจะเข้าถึงคำพูดเหล่านั้นได้กว้างกว่า และจะช่วยสร้างโอกาสในการสร้างผลกระทบเชิงบวกและยั่งยืนมากกว่าการที่บริษัทโปรโมทตัวเองผ่านช่องทางของบริษัทเสียอีก
ประสบการณ์ของพนักงาน
ผลการศึกษาของ Peldon Rose ระบุว่าพนักงานที่มีความสุขที่สุดมีแนวโน้มที่จะเชื่อมโยงความรู้สึกเชิงบวกเหล่านั้นเข้ากับวัฒนธรรมองค์กรที่ดี ปัญหาคือมีพนักงานเพียง 22% เท่านั้นที่บอกว่าบริษัทของพวกเขามีวัฒนธรรมที่ดีจริงๆ บริษัทสามารถทำอะไรได้อีกมากมายเพื่อช่วยสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี รวมถึงการส่งเสริมมิตรภาพผ่านกิจกรรมทางสังคมและกิจกรรมการสร้างทีม ตลอดจนส่งเสริมสุขภาวะด้วยโครงการคิดริเริ่มด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีอย่างต่อเนื่อง
ผู้นำธุรกิจจะสร้างสภาพแวดล้อมที่โปร่งใสได้อย่างไร
ผู้นำธุรกิจสามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อช่วยสร้างวัฒนธรรมแห่งความโปร่งใสในที่ทำงานของตนเอง ต่อไปนี้คือ 5 วิธีที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นได้
เข้าถึงได้ง่าย
พนักงานควรรู้สึกสบายใจที่จะเข้าหาผู้บริหารทุกระดับได้ตลอดเวลา การทำให้ตัวเองว่างในบางช่วงเวลาทำให้พนักงานมั่นใจว่าคุณพร้อมให้ความช่วยเหลือหากเกิดปัญหาขึ้น
สอบถามเรื่องต่างๆ เป็นประจำ
แม้ว่าการประชุมทีมตามปกติจะมีความสำคัญ แต่ผู้จัดการควรถามไถ่สารทุกข์สุกดิบแบบตัวต่อตัวกับสมาชิกในทีม ซึ่งจะเป็นการให้พื้นที่พนักงานได้ถามคำถามหรือแจ้งข้อกังวลที่พวกเขารู้สึกไม่สบายใจที่จะแบ่งปันในกลุ่ม
แบ่งปันและอธิบายเกี่ยวกับการตัดสินใจ
การแบ่งปันข้อมูลทั้งเชิงบวกและเชิงลบจะช่วยส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งความไว้วางใจได้ จะเป็นการดีที่สุดหากทีมของคุณทราบเกี่ยวกับการตัดสินใจทางธุรกิจจากคุณเอง ไม่ใช่จากข่าวลือ
ซื่อสัตย์
อย่าพยายามซ่อนความจริงในรายงานที่ซับซ้อนและศัพท์แสงทางธุรกิจที่ยากจะเข้าใจ พนักงานของคุณจะเคารพคุณมากขึ้นหากคุณพูดแบบตรงไปตรงมา และมีแนวโน้มที่จะตอบแทนคุณด้วยความคิดเห็นอันมีค่าที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโต
ทำตามข้อเสนอแนะเพื่อสร้างความไว้วางใจ
การเปิดรับเอาความโปร่งใสมาใช้จำเป็นต้องมีการปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ การรับฟังอย่างถี่ถ้วน และการทำตามข้อเสนอแนะที่ได้รับจากพนักงาน ผู้นำต้องแสดงพฤติกรรมที่ต้องการให้ทีมทำตาม โดยระบุสิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและมีวิธีที่สร้างสรรค์เพื่อสร้างความไว้วางใจที่ยั่งยืน
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
เรียนรู้ว่าผู้นำด้านทรัพยากรบุคคลทั่วโลกสร้างวัฒนธรรมองค์กรได้อย่างไร
ดาวน์โหลดเลย
ไม่พลาดทุกการสื่อสาร
รับข่าวสารและข้อมูลเชิงลึกล่าสุดจากบุคลากรหน้างาน
เมื่อส่งแบบฟอร์มนี้ จะถือว่าคุณยินยอมที่จะรับการติดต่อสื่อสารผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เกี่ยวกับการตลาดจาก Facebook ซึ่งประกอบด้วยข่าวสาร กิจกรรม ข้อมูลอัพเดต และอีเมลส่งเสริมการขาย โดยคุณสามารถถอนความยินยอมและเลิกรับอีเมลดังกล่าวได้ทุกเมื่อ นอกจากนี้ คุณยังรับทราบว่าได้อ่านและยอมรับข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัวบน Workplace แล้ว