5 วิธีเพิ่มขวัญกำลังใจให้กับพนักงาน

วิถีการทำงานใหม่เปลี่ยนแปลงทัศนคติในการทำงานและส่งผลต่อขวัญกำลังใจของพนักงานอย่างไร เรามาสำรวจสิ่งเหล่านี้ไปด้วยกัน

วัฒนธรรม | ใช้เวลาอ่าน 9 นาที

ขวัญกำลังใจของพนักงานคืออะไร

แนวคิดเรื่องขวัญกำลังใจนั้นเป็นเรื่องที่ซับซ้อน ดังที่นักจิตวิทยา Robert M Guion อธิบายไว้ตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1950 ว่า แม้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับปัจเจกบุคคล แต่ก็เกิดขึ้นมาจากวัฒนธรรมและประสบการณ์ที่กว้างไกลขึ้น โดย Guion กล่าวไว้ว่าเป็น 'สภาพโดยรวมของการทำงาน'

เขานิยามขวัญกำลังใจไว้ว่าเป็น "ขอบเขตที่ความต้องการของบุคคลได้รับการตอบสนอง และขอบเขตที่บุคคลรับรู้ว่าความพึงพอใจนั้นเป็นผลมาจากสภาพการทำงานโดยรวมของตนเอง"1

แนวคิดนี้หมายรวมทั้งในแง่ส่วนบุคคลและองค์ประกอบของสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า เมื่อพยายามทำความเข้าใจธรรมชาติของขวัญกำลังใจ นิยามส่วนใหญ่จะกล่าวถึงความพึงพอใจหรือแนวคิดที่ว่าสถานที่ทำงานควรตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐาน แต่แนวทางด้านจิตวิทยาบอกเราว่าขวัญกำลังใจเป็นสภาวะของจิตใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่งานวิจัยชิ้นหนึ่งเรียกว่า "สภาพจิตใจหรือทัศนคติของบุคคลและกลุ่มคนที่เป็นตัวกำหนดความเต็มใจที่จะมีส่วนร่วม"2

ขจัดปัญหาในที่ทำงานด้วย Workplace

ไม่ว่าคุณจะต้องการแจ้งให้ทุกคนทราบเกี่ยวกับการกลับสู่ที่ทำงาน หรือนำวิธีการทำงานแบบผสมผสานไปปรับใช้ Workplace ก็สามารถทำให้การทำงานเป็นเรื่องง่ายขึ้นได้

ยิ่งคุณจดจ่ออยู่กับความหมายของขวัญกำลังใจของพนักงานมากเท่าไร คุณก็จะยิ่งเห็นได้ว่าขวัญกำลังใจไม่ใช่สิ่งที่อยู่โดดๆ ทว่ามีความเกี่ยวข้องกับประเด็นอื่นๆ อีกหลายประการดังนี้

  • วัฒนธรรมในที่ทำงาน – แหล่งขวัญกำลังใจของพนักงาน ซึ่งอาจจะสูงหรือต่ำก็ได้
  • การมีส่วนร่วมของพนักงาน – บุคคลที่มีความสุขจะมีขวัญกำลังใจของพนักงานในระดับที่สูง
  • ประสบการณ์ของพนักงาน – ประสบการณ์ของบุคลากรเมื่ออยู่ในบริษัท หรือกล่าวอีกอย่างคือ ความรู้สึกที่บุคลากรได้รับจากการอยู่ในที่ทำงาน เป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะช่วยสร้างขวัญกำลังใจ
Employee moraleimage

ขวัญกำลังใจของพนักงานและวัฒนธรรมในที่ทำงานมีส่วนเกี่ยวข้องกันอย่างมาก

เหตุใดขวัญกำลังใจของพนักงานจึงเป็นสิ่งสำคัญ

เหตุใดขวัญกำลังใจของพนักงานจึงเป็นสิ่งสำคัญ

พนักงานที่มีขวัญกำลังใจในระดับสูงจะช่วยให้องค์กรของคุณมีข้อได้เปรียบ ในทางกลับกัน พนักงานที่ไม่ค่อยมีขวัญกำลังใจก็อาจทำให้บริษัทเสียเปรียบได้ ต่อไปนี้เป็นแง่มุมบางส่วนที่อาจได้รับผลกระทบจากระดับขวัญกำลังใจอย่างมีนัยสำคัญ

การมีส่วนร่วมของพนักงาน

แม้ว่าขวัญกำลังใจจะเป็นคนละเรื่องกับการมีส่วนร่วมของพนักงาน กล่าวคือ ขวัญกำลังใจเป็นความรู้สึกเชื่อมต่อถึงกันของบุคคลและความมุ่งมั่นต่อองค์กร แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญ หากขวัญกำลังใจอยู่ในระดับต่ำ พนักงานก็จะทุ่มเทความพยายามหรือมีส่วนร่วมในงานของตนน้อยลง และหากพนักงานไม่มีส่วนร่วมอย่างสิ้นเชิง หรือ 'แสดง' ความทุกข์ออกมา ดังที่ Gallup3 กล่าวไว้ พนักงานเหล่านั้นก็อาจเป็นบ่อนทำลายขวัญกำลังใจอย่างยิ่ง

ผลิตภาพ

เมื่อขวัญกำลังใจอยู่ในระดับสูง พนักงานก็จะสนุกกับการทำงาน ซึ่งหมายความว่าพนักงานจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และใส่ความพยายามเข้าไปในงานมากขึ้นด้วยการทุ่มเททำสิ่งต่างๆ อย่างเต็มที่ แต่เมื่อขวัญกำลังใจอยู่ในระดับต่ำ ผลิตภาพก็จะลดลงตามไปด้วย

ไม่ว่าจะเป็นความกระตือรือร้นในการทำงานที่น้อยลงหรือการโทรมาลาป่วยเพราะรู้สึกไม่มีความสุข คุณจะเห็นได้ว่าการขาดความพึงพอใจของพนักงานสามารถส่งผลกระทบต่องานประจำวันและโปรเจ็กต์ใหญ่ๆ เป็นอย่างมาก ทั้งยังทำให้สูญเสียเงินได้มากยิ่งกว่าที่จะต้องเสียไปกับเรื่องผลผลิตด้วย โดยข้อมูลของ Forbes กล่าวว่า การลาป่วยแบบไม่มีการหักเงินทำให้นายจ้างต้องเสียค่าใช้จ่ายไปถึง 160 พันล้านดอลลาร์ต่อปี

การรักษาบุคลากรไว้กับองค์กร

เมื่อพนักงานรู้สึกมีความสุขและได้รับการเติมเต็มความต้องการในที่ทำงาน แน่นอนว่าพวกเขาเหล่านั้นต้องอยากอยู่กับองค์กรต่อไป นั่นหมายความว่าบริษัทต่างๆ จะสามารถรักษาความรู้ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญไว้ในธุรกิจของตนได้ นอกจากนี้ยังหมายความว่าบริษัทจะประหยัดค่าใช้จ่ายในการหาผู้มีความสามารถรายใหม่ๆ เนื่องจากการรับสมัครงานและการฝึกอบรมอาจต้องใช้ค่าใช้จ่ายมากกว่าที่คุณคิด

ประสบการณ์ของลูกค้า

"พนักงานที่มีความสุขจะทำให้ลูกค้ามีความสุขไปด้วย" ซึ่งอาจจะเป็นคำกล่าวที่ฟังจนเบื่อหูไปแล้ว แต่การวิจัยชี้ให้เห็นว่าคำกล่าวนี้เป็นจริง เมื่อ Harvard Business Review ดูการประเมินพนักงานจาก Glassdoor ควบคู่ไปกับการประเมินจาก American Customer Satisfaction Index (ACSI) พวกเขาก็พบว่าคะแนนที่ดีขึ้นของ Glassdoor นั้นสอดคล้องกับคะแนนความพึงพอใจของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น

ในทางกลับกัน หากพนักงานของคุณไม่มีความสุข ลูกค้าของคุณก็จะรับรู้ถึง 'ความรู้สึกแย่ๆ' ของพวกเขาอย่างแน่นอน วันแย่ๆ ในออฟฟิศของใครสักคนในทีมที่คุณมองข้ามไปอาจทำให้ธุรกิจของคุณเสียค่าใช้จ่ายในจำนวนมหาศาล PricewaterhouseCoopers (PwC) กล่าวว่า 32% ของผู้บริโภคทั่วโลกจะเลิกใช้แบรนด์ที่ตนชื่นชอบหลังจากเจอประสบการณ์แย่ๆ เพียงครั้งเดียว ซึ่งตัวเลขดังกล่าวก็เพิ่มขึ้นเป็น 49% ในลาตินอเมริกา

ความร่วมมือในทีม

เมื่อขวัญกำลังใจของทีมและของตัวพนักงานเองอยู่ในระดับสูง พนักงานจะสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะรู้สึกมั่นใจว่าตนได้รับการรับฟังและได้รับการยอมรับความคิดเห็น และการทำงานร่วมกันเป็นทีมอย่างมีประสิทธิภาพ (การมีขอบเขตความรับผิดชอบที่ชัดเจน การไว้วางใจว่าผู้อื่นจะทำงานออกมาได้ดี การที่ทุกคนมีเป้าหมายร่วมกัน) จะช่วยสร้างขวัญกำลังใจ ซึ่งก่อให้เกิดวงจรที่ส่งเสริมกันและกันขึ้น ในทางกลับกัน ทีมที่มีระดับขวัญกำลังใจต่ำก็ถือเป็นอุปสรรคใหญ่ที่ขัดขวางไม่ให้ทีมทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Employee morale image

ขวัญกำลังใจของพนักงานสามารถเพิ่มผลิตภาพในการทำงานร่วมกันในทีมได้

สิ่งที่ส่งผลต่อขวัญกำลังใจของพนักงานมีอะไรบ้าง

สิ่งที่ส่งผลต่อขวัญกำลังใจของพนักงานมีอะไรบ้าง

แม้ว่าขวัญกำลังใจจะเป็นเรื่องของความรู้สึก ทั้งแบบส่วนตัวและส่วนรวม แต่องค์ประกอบหลายๆ อย่างของสภาพแวดล้อมในการทำงานก็อาจส่งผลต่อขวัญกำลังใจได้ โดยต่อไปนี้คือองค์ประกอบ 8 ข้อที่ส่งผลต่อขวัญกำลังใจ

  • ความเป็นผู้นำ

    สุดยอดผู้นำจะช่วยสร้างขวัญกำลังใจในทีมตั้งแต่ระดับบนไปจนถึงระดับล่าง โดยจะสร้างแรงบันดาลใจให้พนักงานทำงานอย่างเต็มที่ และแสดงตัวอย่างพฤติกรรมดีๆ ที่ต้องการเห็นจากคนในองค์กร ในทางกลับกัน ผู้นำที่ไม่มีประสิทธิภาพอาจทำให้พนักงานรู้สึกไม่ได้รับแรงบันดาลใจหรือเลิกมีส่วนร่วมไปเลย ซึ่งสิ่งนี้จะเกิดขึ้นเมื่อมีการแสดงความไม่ไว้วางใจในตัวพนักงานโดยการควบคุมพนักงานมากจนเกินไปหรือการไม่เห็นคุณค่าของสมาชิกในทีม

  • ความสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว

    การส่งเสริมให้เกิดความสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัวเป็นสิ่งสำคัญในการส่งเสริมขวัญกำลังใจ สมาชิกในทีมคงไม่มีความสุขแน่ๆ ถ้ารู้สึกว่างานส่งผลเสียต่อชีวิตส่วนตัว ผู้นำต้องตระหนักถึงประเด็นนี้ให้มากโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องทำงานจากทางไกลและทำงานแบบไฮบริด เนื่องจากขอบเขตระหว่างการทำงานและชีวิตที่บ้านอาจไม่ชัดเจน

  • รางวัลและการชื่นชม

    การเฉลิมฉลองให้กับความสำเร็จของพนักงานจะช่วยให้พนักงานรู้สึกมีคุณค่าและเป็นแรงกระตุ้นให้พวกเขาสร้างความสำเร็จมากขึ้น การแสดงออกเพียงเล็กน้อยก็สามารถส่งผลต่อทัศนคติของใครบางคนได้ ไม่ว่าจะเป็นการชมเชยสมาชิกทีมในแชทกลุ่ม หรืออาจจะเป็นการให้ของขวัญหรือบัตรกำนัล

    การศึกษาของ Reward Gateway เผยว่า รางวัลไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ กล่าวคือ 75% ของพนักงานกล่าวว่า การที่ผู้จัดการแค่พูดว่า 'ขอบคุณ' ให้บ่อยขึ้นก็ทำให้แรงจูงใจและขวัญกำลังใจของพวกเขามีมากขึ้นแล้ว

  • การสื่อสาร

    การมีเครื่องมือและกระบวนการสื่อสารที่เหมาะสมนับว่าเป็นเรื่องสำคัญ แต่การสื่อสารก็ต้องเป็นแบบสองทางอย่างแท้จริงด้วยจึงจะรักษาขวัญกำลังใจเอาไว้ได้ สมาชิกในทีมสามารถเข้าร่วมการสนทนาได้ในเวลาที่เหมาะสมด้วยการใช้ซอฟต์แวร์ที่สะดวก แต่ในไม่ช้าพนักงานจะรู้สึกว่าถูกเพิกเฉยหากไม่รู้สึกว่าผู้จัดการและเพื่อนร่วมงานทำตามคำแนะนำของพวกเขา

  • การเปลี่ยนแปลง

    การเปลี่ยนแปลงสามารถกระตุ้นแรงจูงใจของพนักงานได้ตราบใดที่มีการจัดการอย่างเหมาะสม ซอฟต์แวร์ใหม่ๆ หรือพื้นที่ในออฟฟิศที่มีการปรับปรุงให้ดีขึ้นสามารถกระตุ้นความกระตือรือร้นให้กับทีมได้ แต่ในอีกแง่หนึ่ง การเปลี่ยนแปลงอาจทำให้ผู้คนรู้สึกกระวนกระวายได้ กล่าวคือ 65% ของนายจ้างกล่าวว่าการรักษาขวัญกำลังใจกลายเป็นปัญหาในระหว่างที่เปลี่ยนรูปการทำงานเป็นแบบทางไกล4

    ตัวอย่างเช่น การเปลี่ยนแปลงผู้นำอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของทีม ซึ่งอาจทำให้ทีมรู้สึกไม่มั่นใจเกี่ยวกับอนาคตของตนในบริษัท ดังนั้นความโปร่งใสและการสื่อสารจึงมีความสำคัญในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง

  • การฝึกอบรม

    การฝึกอบรมที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้พนักงานของคุณทำงานได้อย่างมั่นใจ แต่หากองค์กรไม่ได้จัดการฝึกอบรมแก่พนักงานอย่างเพียงพอ พนักงานก็อาจรู้สึกท้อแท้ได้ โอกาสในการเลื่อนตำแหน่ง หรือการขาดโอกาสในการเลื่อนตำแหน่งก็ส่งผลต่อขวัญกำลังใจเช่นกัน ดังนั้นการปูเส้นทางที่ชัดเจนในสายอาชีพจึงเป็นสิ่งสำคัญ

  • ความปลอดภัยในที่ทำงาน

    การส่งเสริมสุขภาพและความปลอดภัยในที่ทำงานไม่ได้เป็นแค่สิ่งที่นายจ้างต้องทำเท่านั้น แต่ยังช่วยให้พนักงานทำงานได้ง่ายขึ้น ลดการขาดงานลง และช่วยเพิ่มผลิตภาพได้อีกด้วย

  • ลักษณะของการทำงาน

    งานประจำวันของบริษัทคือจิตวิญญาณของธุรกิจ และเป็นหนึ่งในแง่มุมที่สำคัญที่สุดของขวัญกำลังใจของทีม หากงานน่าเบื่อหรือไม่เติมเต็มความต้องการ ในไม่ช้าก็จะส่งผลต่อความพึงพอใจในงานของพนักงาน พนักงานต้องการรู้สึกว่างานมีความท้าทายโดยที่ไม่ต้องเผชิญกับความเครียดในระดับที่สูงเกินไป

Employee morale image 2

รางวัลและการชมเชยเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างขวัญกำลังใจของพนักงาน

สิ่งใดเป็นสัญญาณที่แสดงว่าขวัญกำลังใจในที่ทำงานอยู่ในระดับต่ำ

สิ่งใดเป็นสัญญาณที่แสดงว่าขวัญกำลังใจในที่ทำงานอยู่ในระดับต่ำ

มีบางสิ่งที่อาจบ่งชี้ว่าองค์กรของคุณมีปัญหาด้านการสร้างขวัญกำลังใจ ต่อไปนี้คือสัญญาณเตือนที่ต้องระวัง

การลาออกของพนักงานในระดับที่สูง

พนักงานมักจะลาออกจากธุรกิจที่มีขวัญกำลังใจในระดับต่ำมากกว่าธุรกิจที่มีขวัญกำลังใจในระดับสูง ดังนั้น หากคุณสังเกตว่าสมาชิกในทีมลาออกมากกว่าปกติ นั่นก็อาจเป็นสัญญาณว่าเกิดปัญหาขึ้นในบริษัท

คุณสามารถคำนวณอัตราการทำงานต่อของพนักงานได้โดยการนำจำนวนพนักงานในวันสุดท้ายของระยะเวลาที่กำหนด เช่น 1 ปี ไปหารกับจำนวนพนักงานในวันแรก จากนั้นนำตัวเลขที่ได้มาคูณด้วย 100 คุณก็จะได้เปอร์เซ็นต์ออกมา

การขาดงาน

คุณสามารถประเมินขวัญกำลังใจของพนักงานโดยดูจากอัตราการขาดงานของทีมได้เช่นกัน หากพนักงานรู้สึกไม่พึงพอใจในที่ทำงาน พวกเขามักจะโทรมาลาป่วย หรือในกรณีที่เลวร้ายที่สุด พนักงานอาจล้มป่วยเนื่องจากปัญหาสุขภาพจิต การศึกษาในสหราชอาณาจักรพบว่า 70% ของธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลางประสบปัญหาในการทำผลกำไรเนื่องจากการขาดงาน5

ทัศนคติที่ไม่ดี

ขวัญกำลังใจในระดับต่ำอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เพื่อนร่วมงานหรือกลุ่มเพื่อนร่วมงานแสดงสัญญาณเชิงลบออกมาได้ สมาชิกในทีมอาจแสดงความคิดริเริ่มน้อยลงหรือวิจารณ์ไอเดียของผู้อื่นอย่างไม่เป็นธรรม หากยังปล่อยให้เกิดทัศนคติเหล่านี้ต่อไปเรื่อยๆ ก็อาจส่งผลกระทบต่อความคืบหน้าในงานประจำวันและการค้นหาวิธีแก้ไขปัญหาที่ใหญ่ขึ้น รวมถึงขวัญกำลังใจก็อาจลดลงไปอีก

ความขัดแย้ง

ไม่มีสิ่งใดที่จะบ่งบอกว่าทีมไม่มีความสุขได้ดีไปกว่าความขัดแย้งระหว่างเพื่อนร่วมงาน หากพนักงานไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดจากความแตกต่างได้อย่างสมเหตุสมผล นั่นก็เป็นสัญญาณว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง

การได้รับข้อมูลมาแบบผิดๆ

ที่ทำงานที่มีข่าวลือต่างๆ แพร่สะพัดมักจะพบว่าทีมมีขวัญกำลังใจในระดับต่ำ หากเกิดการให้ข้อมูลผิดอยู่บ่อยๆ นั่นก็หมายความว่ามีใครบางคนสื่อสารได้ไม่ดี บางครั้งการแจ้งข่าวร้ายหรือการยอมรับข้อบกพร่องก็ทำให้เกิดความมั่นใจมากกว่าการไม่ชี้แจงอะไรเลยและปล่อยให้เกิดเรื่องซุบซิบนินทาเข้ามาแทน

ประสิทธิภาพการทำงานที่ไม่ดี

สัญญาณว่าขวัญกำลังใจอยู่ในระดับต่ำอาจเห็นได้จากการที่พนักงานทำงานไม่ทันเดดไลน์หรือเกิดข้อผิดพลาดมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอาจเกิดจากภาระงานที่มากเกินไป การเปลี่ยนแปลงลำดับความสำคัญ หรือสาเหตุหลายๆ อย่างรวมกัน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องแสดงความรับผิดชอบเมื่อมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นและควรถามถึงสาเหตุก่อนที่จะแก้ไขปัญหา

ผู้นำธุรกิจสามารถเพิ่มขวัญกำลังใจของพนักงานและวัฒนธรรมองค์กรได้อย่างไร

วิธีเพิ่มขวัญกำลังใจ: สุดยอดเคล็ดลับ 5 ข้อ

วิธีเพิ่มขวัญกำลังใจ: สุดยอดเคล็ดลับ 5 ข้อ

คุณจะเพิ่มขวัญกำลังใจของพนักงานได้อย่างไร ปฏิบัติตามเคล็ดลับต่อไปนี้เพื่อเพิ่มขวัญกำลังใจให้บริษัทของคุณ

  1. สังเกตขวัญกำลังใจ

    วัดทัศนคติโดยขอให้พนักงานทำแบบสำรวจประสบการณ์ของพนักงาน การทำเช่นนี้จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมความรู้สึกที่พนักงานมีต่องานของตนได้ดียิ่งขึ้น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผลลัพธ์จากแบบสำรวจต้องไม่เปิดเผยตัวตนของพนักงาน เพื่อให้ทุกคนรู้สึกว่าสามารถตอบได้อย่างตรงไปตรงมา

    สิ่งสำคัญที่ต้องทำเมื่อคุณได้รับการตอบกลับมาแล้วคือการจัดทำแผนการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาที่ต้องได้รับการปรับปรุง วิธีนี้จะช่วยมอบความมั่นใจกับพนักงานได้ว่าคุณให้ความสำคัญกับสุขภาวะของพวกเขาอย่างจริงจัง เพื่อสร้างวัฒนธรรมที่โปร่งใสอย่างแท้จริง คุณควรแบ่งปันผลลัพธ์กับทีมและให้พวกเขาได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับขั้นตอนต่อไปด้วย

  2. ปรับปรุงการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

    การสื่อสารอย่างชัดเจนและบ่อยครั้งสามารถช่วยสร้างความรู้สึกไว้วางใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทีมแบบไฮบริดที่พนักงานอาจไม่ค่อยได้แสดงออกผ่านการกระทำสักเท่าไร สำรวจโซลูชั่นด้วยการสื่อสารผ่านวิดีโอและเครื่องมือในการแชร์ไอเดียที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพ

    พยายามสร้างนโยบายเพื่อให้ทุกคนเข้าใจว่าควรติดต่อใครและเมื่อใดสำหรับคำถามที่แตกต่างกัน วิธีนี้จะช่วยให้ทุกคนที่ร่วมทำงานสามารถมีส่วนร่วมได้อย่างคุ้มค่า เพื่อเพิ่มขวัญกำลังใจและสร้างความไว้วางใจอย่างแท้จริง คุณควรสนับสนุนให้ทีมแสดงความเห็นออกมาอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากการให้โอกาสพนักงานได้แสดงความคิดเห็นนั้นจะช่วยให้พวกเขารู้สึกมีคุณค่า

  3. เฉลิมฉลองความสำเร็จของทีม

    องค์กรที่เข้าใจถึงความสำคัญของการชมเชยความสำเร็จของพนักงานมักจะมีระดับขวัญกำลังใจในทีมสูง ผู้จัดการสามารถแสดงความเชื่อมั่นในงานของพนักงานได้โดยการเฉลิมฉลองความสำเร็จไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือใหญ่ การทำเช่นนี้มักจะทำให้พนักงานมีความกระตือรือร้นมากขึ้นเมื่อได้ทำงานที่คล้ายกับงานเดิม และทำให้พวกเขาตระหนักถึงจุดมุ่งหมายอยู่เสมอ

  4. ให้ความสำคัญกับสุขภาวะมาเป็นอันดับหนึ่ง

    ทุกคนต้องการทำงานในบริษัทที่ให้ความสำคัญกับสุขภาวะของตน และการแสดงให้เห็นว่าองค์กรของคุณให้ความสำคัญในเรื่องนั้นอาจทำได้ง่ายกว่าที่คุณคิด การจัดเตรียมเครื่องมือที่จำเป็นให้พนักงานในทีมแบบไฮบริดได้ทำงานอย่างยืดหยุ่นจะช่วยให้พนักงานจัดการสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัวได้ดียิ่งขึ้น

    ความคิดริเริ่มอื่นๆ ก็อาจเป็นประโยชน์เช่นกัน โดยอาจจะเป็นการส่งอีเมลในเรื่องใดเรื่องหนึ่งและจัดช่วงเวลาสำหรับการอยู่กับตนเองเพื่อให้พนักงานสามารถทำงานได้โดยไม่มีสิ่งรบกวน หรือสนับสนุนให้ทีมพักรับประทานอาหารกลางวันและเลิกงานในเวลาที่เหมาะสมก็ได้ มีโปรแกรมด้านสุขภาวะมากมายที่มุ่งเน้นสอนธุรกิจและพนักงานเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ที่จำเป็นในการทำให้ชีวิตดีขึ้นและส่งผลให้ขวัญกำลังใจของทีมเพิ่มขึ้น

  5. หาเวลาสร้างความสัมพันธ์ในทีม

    การระบาดใหญ่ทั่วโลกทำให้พนักงานต้องมีวันที่ทำงานจากที่บ้านและทำให้คนในทีมไม่ได้พบปะกันในสถานที่ทำงานจริง แต่การนำทุกคนมาเจอกับบนโลกออนไลน์ก็อาจเป็นประโยชน์ไม่น้อย และด้วยการคลายข้อจำกัดหลายๆ อย่าง การหาโอกาสสร้างความผูกพันนอกสภาพแวดล้อมการทำงานตามปกติก็อาจช่วยสร้างขวัญกำลังใจได้อย่างมาก

เชื่อมต่อถึงกันอยู่เสมอ

รับข่าวสารและข้อมูลเชิงลึกล่าสุดจากบุคลากรหน้างาน

เมื่อส่งแบบฟอร์มนี้ จะถือว่าคุณยินยอมที่จะรับการติดต่อสื่อสารผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เกี่ยวกับการตลาดจาก Facebook ซึ่งประกอบด้วยข่าวสาร กิจกรรม ข้อมูลอัพเดต และอีเมลส่งเสริมการขาย โดยคุณสามารถถอนความยินยอมและเลิกรับอีเมลดังกล่าวได้ทุกเมื่อ นอกจากนี้ คุณยังรับทราบว่าได้อ่านและยอมรับข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัวบน Workplace แล้ว

สิ่งที่คุณอาจสนใจ

สิ่งที่คุณอาจสนใจ

บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่
ขอบคุณสำหรับความเห็นของคุณ

โพสต์ล่าสุด

วัฒนธรรม | ใช้เวลาอ่าน 11 นาที

วัฒนธรรมในที่ทำงาน: นิยามและวิธีสร้างผลลัพธ์เชิงบวกในองค์กรของคุณ

เมื่อการระบาดใหญ่ทั่วโลกทำให้องค์กรต่างๆ ต้องเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานไปอย่างสิ้นเชิง การสร้างวัฒนธรรมในที่ทำงานในเชิงบวกจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญเร่งด่วนสำหรับธุรกิจไม่ว่าจะที่ใดก็ตาม

การสื่อสารทางธุรกิจ | ใช้เวลาอ่าน 10 นาที

ค่านิยมขององค์กรคืออะไร และเหตุใดจึงมีความสำคัญ

ค่านิยมขององค์กรสามารถชี้นำทิศทางแก่พนักงานและให้เหตุผลที่จะเชื่อมั่นแก่ลูกค้า ดูวิธีพัฒนาและสื่อสารค่านิยมขององค์กร

วัฒนธรรม | ใช้เวลาอ่าน 8 นาที

เหตุใดความหลากหลายและการไม่แบ่งแยกจึงมีความสำคัญ

พนักงานทุกคนล้วนต้องการรู้สึกมีคุณค่า ได้รับการเคารพ และมีความเสมอภาค อ่านเคล็ดลับ 6 ข้อนี้เพื่อส่งเสริมให้เกิดความหลากหลายและการไม่แบ่งแยกในธุรกิจของคุณ และเปลี่ยนความต้องการของคุณให้กลายเป็นความจริง