สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากงาน Flow 2018

เราเฉลิมฉลองการประชุมสุดยอดผู้นำระดับโลกครั้งแรกของเราได้อย่างน่าประทับใจ และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในงาน ตั้งแต่คำพูดสร้างแรงบันดาลใจไปจนถึงข้อมูลเชิงลึกจากผู้พูด

การสื่อสารทางธุรกิจ | ใช้เวลาอ่าน 10 นาที
flow 2018 - Workplace from Meta
สารบัญ

เราเฉลิมฉลองการประชุมสุดยอดผู้นำระดับโลกครั้งแรกของเราได้อย่างน่าประทับใจ และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในงาน ตั้งแต่คำพูดสร้างแรงบันดาลใจไปจนถึงข้อมูลเชิงลึกจากผู้พูด

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้จัดงาน Flow ซึ่งเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำระดับโลกครั้งแรกของเรา โดยงานนี้ได้รวบรวมบรรดาผู้ก่อตั้งที่มีวิสัยทัศน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการให้บริการซอฟต์แวร์ ลูกค้าของ Workplace และพาร์ทเนอร์ผลิตภัณฑ์มาไว้ที่เดียวกัน

ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามามีส่วนร่วมกับงาน ร่วมแบ่งปันเรื่องราว สร้างเครือข่าย รับฟัง (และสนุกกับปาร์ตี้) และต้องขอขอบคุณผู้ร่วมอภิปรายและวิทยากรที่สำคัญของเราเป็นอย่างยิ่ง ที่ทำให้วันนี้เป็นวันแห่งการสร้างแรงบันดาลใจ เต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวอันพิเศษ รวมถึงข้อมูลเชิงลึกและประสบการณ์

แต่งานนี้เกี่ยวกับอะไร แล้วทำไมต้องเป็น Flow

เปลี่ยนบริษัทให้เป็นชุมชนที่มีความหมาย

เปลี่ยนบริษัทให้เป็นชุมชนที่มีความหมาย

ที่ Workplace เราได้สร้างเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้คนทำงานได้ดีที่สุด และเครื่องมือนั้นเรียกว่า ‘Flow’ แต่มันเป็นได้มากกว่านั้น เมื่อคนในบริษัทอยู่ใน Flow หมายความว่าองค์กรทั้งองค์กรก็อยู่ใน Flow ซึ่งสามารถขับเคลื่อนให้เกิดผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ งานกิจกรรมในวันอังคารจัดขึ้นเพื่อทำความเข้าใจกลยุทธ์ที่ช่วยให้องค์กรประสบความสำเร็จในการใช้ Flow และพิจารณาผลที่ตามมาโดยเฉพาะ

Julien Codorniou รองประธาน Workplace by Facebook เป็นผู้เริ่มงานกิจกรรมในภาคเช้า เขาได้วางวิสัยทัศน์เพื่อผลักดันทีมผลิตภัณฑ์ของเราให้สร้างสิ่งที่เป็นมากกว่าเครื่องมือสื่อสารหรือการทำงานร่วมกันว่า

"เรามาทำงานทุกวันเพราะเราต้องการเชื่อมต่อผู้คนเข้าด้วยกัน และเมื่อใดที่เราเชื่อมต่อผู้คนเข้าด้วยกันได้ เราก็สามารถสร้างผลลัพธ์ที่มีความสำคัญต่อชีวิตการทำงานของคนเหล่านั้น เราสามารถเปลี่ยนบริษัทที่ผู้คนทำงานอยู่ให้เป็นชุมชนที่มีความหมายได้"

เขานำเสนอเส้นทางความเป็นมาของ Workplace ที่มีมาจนถึงปัจจุบัน ตั้งแต่การผุดไอเดียที่นำมาซึ่งวิธีการทำงานภายใน Facebook รูปแบบใหม่ไปสู่การเริ่มต้นทดลอง จนกลายมาเป็นธุรกิจระดับองค์กรอย่างเต็มรูปแบบ เขาได้ยกตัวอย่างลูกค้าที่น่าทึ่งผู้ร่วมเส้นทางนี้ไปกับเรา ซึ่งมีตั้งแต่ Walmart และ Starbucks ไปจนถึง Chevron, GSK และ Clarins ตลอดจนพาร์ทเนอร์ด้านบริการและผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ที่ทำให้แนวคิด "ร่วมมือกันเพื่อสิ่งที่ดีกว่า" เกิดขึ้นจริง

ถัดจาก Julien เราได้พบกับ Kyle McGinn ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์และ Christine Overby ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ ผู้ที่จะพาเราเจาะลึกไปสู่พันธกิจของ Workplace ในการสร้างชุมชนที่มีความหมาย และนำเสนอฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ช่วยให้พันธกิจเป็นจริง

Kyle เผยให้เห็นแนวโน้มสำคัญ 3 ประการที่เกิดขึ้นภายในบริษัทที่ใช้งาน Workplace ได้แก่ การถ่ายทอดข้อมูลเป็นไปอย่างอิสระมากขึ้น กระบวนการทำงานมีความรวดเร็วและน่าพึงพอใจมากขึ้น และเราทำให้บุคลากรกลายเป็นศูนย์กลางขององค์กร

Christine ประกาศฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญ เช่น การตรวจสอบสถานะความปลอดภัยสำหรับ Workplace และการอัพเกรดที่มีประโยชน์ เช่น แชทที่มีหลายบริษัทและการทำเครื่องหมายว่าสำคัญ

Daniel Coyle ผู้เขียนหนังสือ The Culture Code และ The Talent Code ขึ้นเวทีเพื่อกล่าวประเด็นสำคัญ เขาเริ่มต้นด้วยข้อมูลที่ได้จากการสังเกต สิ่งที่เราทุกคนทราบกันดีว่ามีความสำคัญในบริษัททุกแห่งอย่าง "วัฒนธรรม" เป็นอะไรที่อธิบายได้ยากยิ่งนัก

Daniel ระบุว่า พฤติกรรมหลัก 3 ประการที่จำเป็นต่อการสร้างวัฒนธรรมในทุกองค์กรคือ การสร้างความปลอดภัย การแสดงออกถึงความเปราะบาง และการกำหนดวัตถุประสงค์ ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่คุณสามารถทำทั้ง 3 สิ่งนี้ได้ ผู้คนและวัตถุประสงค์ก็จะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน จากนั้นผลิตภาพก็จะเริ่มงอกงาม

นอกจากนี้ เขายังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการแสวงหาและแบ่งปันเรื่องราวที่สร้างความประทับใจอีกด้วย ค้นหาเรื่องราวเหล่านั้นให้เจอ แบ่งปัน และเฉลิมฉลอง เพราะสัญญาณและช่วงเวลาเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดในที่ทำงานนี่เองที่มักจะมีความสำคัญมากที่สุด

"สิ่งที่คุณพูดไม่สำคัญเท่าสิ่งที่คุณทำ ยิ่งคุณรู้สึกปลอดภัยและเปิดกว้างมากเท่าใด คุณก็ยิ่งมีความมุ่งมั่นมากเท่านั้น"

"สิ่งที่คุณพูดไม่สำคัญเท่าสิ่งที่คุณทำ ยิ่งคุณรู้สึกปลอดภัยและเปิดกว้างมากเท่าใด คุณก็ยิ่งมีความมุ่งมั่นมากเท่านั้น"

– Daniel Coyle ผู้เขียนหนังสือ The Culture Code และ The Talent Code
จากการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมสู่เวิร์กช็อปการใช้งานผลิตภัณฑ์

จากการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมสู่เวิร์กช็อปการใช้งานผลิตภัณฑ์

เมื่อช่วงพักจบลง เซสชั่นการอภิปรายของเราก็ได้เริ่มขึ้นด้วยหัวข้อ ‘The People Behind the Change’ (ผู้อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลง) ฉันรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นผู้จัดเซสชั่นนี้ และแขกรับเชิญของเรา ได้แก่ Maxine Williams (Chief Diversity Officer จาก Facebook), Pradheepa Raman (Chief Talent and Innovation Officer จาก Stanley Black & Decker), Ronald Schellekens (Group HR Director จาก Vodafone) และ Joelle Emerson (CEO จาก Paradigm)

ประเด็นหลักในการพูดคุยคือ วิธีการผลักดันให้เกิดวัฒนธรรมและการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร ซึ่งได้กลายเป็นสิ่งที่ธุรกิจต้องให้ความสำคัญอย่างรวดเร็ว

ส่วนหนึ่งของปัญหาคือการขาดความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการชี้วัดความไม่แบ่งแยก ซึ่ง Maxine ได้ชี้ให้เห็นว่า ทางออกนั้นอยู่ที่ขั้นตอนการจ้างงาน

"ถ้าคุณไม่ได้สัมภาษณ์คนที่เป็นประชากรกลุ่มน้อย คุณก็จะไม่ได้จ้างคนเหล่านั้น บริษัทจะต้องเปิดรับผู้สมัครที่เป็นประชากรกลุ่มน้อยและมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ให้เข้ามาสู่ขั้นตอนการสัมภาษณ์มากขึ้น เพราะการสร้างความหลากหลายในสังคมเป็นหน้าที่ของเราทุกคน"

"ถ้าคุณไม่ได้สัมภาษณ์คนที่เป็นประชากรกลุ่มน้อย คุณก็จะไม่ได้จ้างคนเหล่านั้น บริษัทจะต้องเปิดรับผู้สมัครที่เป็นประชากรกลุ่มน้อยและมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ให้เข้ามาสู่ขั้นตอนการสัมภาษณ์มากขึ้น เพราะการสร้างความหลากหลายในสังคมเป็นหน้าที่ของเราทุกคน"

– Maxine Williams, Chief Diversity Officer, Facebook

จากนั้นการสนทนาก็เดินทางมาถึงหัวข้อ 'From Stack to Suite' ซึ่ง Lesley Young ผู้ดำรงตำแหน่ง Global Sales Director ของ Workplace ได้กล่าวต้อนรับ Aaron Levie (CEO จาก Box), Helen Russell (CPO จาก Atlassian), Rahul Sekhon (CTO จาก Sun Life Financial) และ Sanjay Beri (CEO และผู้ก่อตั้ง Netskope) ขึ้นสู่เวที

การมีส่วนร่วมของพนักงาน ความเป็นผู้นำที่เปิดกว้าง และเทคโนโลยีอัจฉริยะ เป็นประเด็นหลักของเซสชั่นนี้ ซึ่งทุกคนล้วนมีมุมมองที่แตกต่างกันในการทำให้องค์ประกอบเหล่านี้สอดคล้องกัน Rahul ได้ถ่ายทอดหนึ่งในช่วงเวลาแห่งการให้ความรู้ในเซสชั่นนี้ให้กับพวกเรา

"เมื่อผู้นำกล้าแสดงความเปราะบาง พนักงานก็กล้าเปิดใจและก่อให้เกิดความไว้วางใจ และสิ่งนี้แหละที่หล่อหลอม DNA ขององค์กรขึ้นมา"

"เมื่อผู้นำกล้าแสดงความเปราะบาง พนักงานก็กล้าเปิดใจและก่อให้เกิดความไว้วางใจ และสิ่งนี้แหละที่หล่อหลอม DNA ขององค์กรขึ้นมา"

– Rahul Sekhon, CTO, Sun Life Financial ผู้นำทั้งหมดบนเวทีการอภิปรายต่างมีความคิดเห็นตรงกันเกี่ยวกับความสำคัญของความโปร่งใสที่มีต่อผู้คนและพาร์ทเนอร์ โดยเฉพาะในช่วงเวลาวิกฤต Rahul กล่าวไว้ว่า สิ่งสำคัญที่สุดที่บรรดาผู้บริหารความมั่นคงทางไซเบอร์ (CISO) จำเป็นต้องรู้และควรรู้ในเวลานี้ คือพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจถือเป็นพาร์ทเนอร์ของตน ซึ่งพวกเขาต้องเปิดกว้างกับพาร์ทเนอร์เหล่านั้น
ห้องสมุดของ Flow คราคร่ำไปด้วยผู้คนจำนวนมากในช่วงพักกลางวัน ผู้ร่วมงานร่วมกันรับประทานอาหารและหยิบหนังสือแจกฟรีที่เขียนโดย Sheryl Sandberg, Daniel Coyle, Craig M. Mullaney และ James Essinger (เพื่อเป็นเกียรติเนื่องในวัน Ada Lovelace ที่จัดขึ้นในวันเดียวกันกับ Flow)
เซสชั่นจับกลุ่มลงมือทำ

เซสชั่นจับกลุ่มลงมือทำ

กิจกรรมในช่วงบ่ายเป็นการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติจริงด้วยการจับกลุ่มทำเวิร์กช็อป Daniel Coyle เจ้าของผลงานขายดีของ New York Times เป็นผู้นำเวิร์กช็อปในด้านการใช้วัฒนธรรมขับเคลื่อนความได้เปรียบในการแข่งขัน โดยให้คำแนะนำที่องค์กรสามารถนำไปใช้ได้จริงเกี่ยวกับวิธีเชื่อมต่อกับผู้คนและทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว

นอกจากนี้ยังมีเวิร์กช็อปการใช้งานผลิตภัณฑ์อีกสองรายการ ซึ่งเกี่ยวกับวิธีใช้ Workplace เพื่อทำงานให้สำเร็จมากขึ้น และวิธีสื่อสารกับทุกคนในองค์กรของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ

ขณะเดียวกัน ในห้อง Brilliance Ballroom Mark Mader (CEO จาก Smartsheet), Eric Yuan (CEO จาก Zoom), Melissa Taunton (พาร์ทเนอร์จาก New Enterprise Associates) และ Jason M. Lemkin (ผู้ก่อตั้ง SaaStr) ได้ร่วมกิจกรรมถามตอบกับ Monica Adractas (Global Director of Customer Growth ของ Workplace)

หัวข้อในการประชุมครั้งนี้คือวิธีการสร้างรูปแบบการให้บริการซอฟต์แวร์ (SaaS) ที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม กลุ่มผู้พูดได้แชร์ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเกี่ยวกับการเปลี่ยนสตาร์ทอัพให้เป็นธุรกิจมูลค่าพันล้านดอลลาร์

"เมื่อคุณขยายธุรกิจ สิ่งสำคัญคือคุณต้องแน่ใจได้ว่าพนักงานทุกคนยังคงมีแนวคิดที่ตรงกัน กำหนด 'นิยาม' ของบริษัทและสร้างความมั่นใจว่าทีมการจัดการของคุณสื่อสารข้อมูลนี้ไปยังทั่วทุกมุมของธุรกิจ"

"เมื่อคุณขยายธุรกิจ สิ่งสำคัญคือคุณต้องแน่ใจได้ว่าพนักงานทุกคนยังคงมีแนวคิดที่ตรงกัน กำหนด 'นิยาม' ของบริษัทและสร้างความมั่นใจว่าทีมการจัดการของคุณสื่อสารข้อมูลนี้ไปยังทั่วทุกมุมของธุรกิจ"

– Melissa Taunton, พาร์ทเนอร์จาก New Enterprise Associates ในช่วงถัดไป Frerk-Malte Feller (Ecosystem Partnerships ของ Workplace) ได้จัดช่วงถามตอบร่วมกับ Charisse Evans (รองประธานฝ่าย Customer Experience Integration จาก Delta Air Lines), Vicki Huff Eckert (หัวหน้าฝ่าย New Venture and Innovation จาก PwC), Jen Baxter (รองประธานฝ่าย Strategy Delivery & Performance จาก GlaxoSmithKline) และ Karen Peacock (COO จาก Intercom)
"ที่ Delta Air Lines พนักงานจำนวน 70% ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงคอมพิวเตอร์ตามปกติ เพราะพนักงานสามารถแชร์สิ่งต่างๆ บน Workplace ได้จากอุปกรณ์ของตนเอง จึงทำให้ผู้คนสามารถเข้าร่วมการสนทนาของเราและสร้างชุมชนที่ดีขึ้นได้"

"ที่ Delta Air Lines พนักงานจำนวน 70% ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงคอมพิวเตอร์ตามปกติ เพราะพนักงานสามารถแชร์สิ่งต่างๆ บน Workplace ได้จากอุปกรณ์ของตนเอง จึงทำให้ผู้คนสามารถเข้าร่วมการสนทนาของเราและสร้างชุมชนที่ดีขึ้นได้"

– Charisse Evans, รองประธานฝ่าย Customer Experience Integration จาก Delta Air Lines
องค์กรที่เชื่อมต่อถึงกันและทำงานอย่างมีเป้าหมาย

องค์กรที่เชื่อมต่อถึงกันและทำงานอย่างมีเป้าหมาย

Christine Overby กลับมาบนเวทีอีกครั้งหลังจากเซสชั่นย่อยเพื่อนำการอภิปรายเกี่ยวกับการให้ความสำคัญกับผู้คนมากกว่าพิกเซล แขกรับเชิญที่เข้าร่วมบนเวทีได้แก่ Joe Park (รองประธานของ Walmart), Emilie Maunoury (Chief Digital Officer จาก Clarins) และ Pat Wadors (CHRO จาก ServiceNow) เราได้เรียนรู้ว่า สำหรับ Walmart แล้ว เทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมช่วยให้พนักงานค้าปลีกสามารถมอบประสบการณ์สำหรับลูกค้าที่ยอดเยี่ยมในร้านค้าได้

"Workplace เป็นพื้นที่ที่ทุกคนรู้จักและสามารถเข้าใจได้ ซึ่งคนทุกรุ่นรู้วิธีใช้งานเครื่องมือนี้ เราแสดงความชื่นชอบ มอบความรัก หัวเราะ และร้องไห้ไปด้วยกันในฐานะทีม"

"Workplace เป็นพื้นที่ที่ทุกคนรู้จักและสามารถเข้าใจได้ ซึ่งคนทุกรุ่นรู้วิธีใช้งานเครื่องมือนี้ เราแสดงความชื่นชอบ มอบความรัก หัวเราะ และร้องไห้ไปด้วยกันในฐานะทีม"

– Joe Park, รองประธานของ Walmart

ในไฮไลท์พิเศษ Sheryl Sandberg (COO จาก Facebook) พร้อมด้วย John Taylor (CTO จาก United Way) และ Joanne Smith (EVP & CHRO จาก Delta Air Lines) ได้ร่วมพูดคุยเกี่ยวกับวิธีสร้างองค์กรที่เชื่อมต่อถึงกันกับเรา

Sheryl เล่าถึงวิธีที่เราใช้ Workplace ที่ Facebook โดยเน้นถึงความสำคัญของ Workplace ที่มีต่อพันธกิจในการสร้างชุมชนของ Facebook และเปรียบเทียบเรื่องราวนี้กับประสบการณ์ของ Delta และ United Way

สำหรับ Delta การมีเครื่องมือที่พกพาได้อย่าง Workplace ช่วยอำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อและการทำงานร่วมกันระหว่างแผนกต่างๆ ในองค์กรที่อยู่แยกย้ายกัน เช่น นักบิน ลูกเรือ และพนักงานภาคพื้นดิน

สำหรับ United Way การเป็นองค์กรที่เชื่อมต่อถึงกันช่วยให้องค์กรมีส่วนร่วมกับชุมชนที่กว้างขึ้น และสามารถสร้างผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญได้

"เราใช้กลุ่มที่มีหลายบริษัทอยู่ และเราต้องการขยายการใช้งานฟีเจอร์นี้ให้มากขึ้นเพื่อไม่ให้เราคุยอยู่แต่กับตัวเอง เราจะพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาที่สำคัญกับทุกคนที่เราร่วมงานด้วย"

"เราใช้กลุ่มที่มีหลายบริษัทอยู่ และเราต้องการขยายการใช้งานฟีเจอร์นี้ให้มากขึ้นเพื่อไม่ให้เราคุยอยู่แต่กับตัวเอง เราจะพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาที่สำคัญกับทุกคนที่เราร่วมงานด้วย"

– John Taylor, CTO จาก United Way

ในเซสชั่นสุดท้าย เราจะได้เห็น Geoff Perfect (ผู้อำนวยการฝ่าย Online Sales and Channels ของ Workplace) แนะนำ Workplace for Good ให้เรารู้จัก ก่อนที่ Brian Wenke จะเนรมิตแนวคิดในการเป็นชุมชนให้ออกมาเป็นรูปร่างอย่างชัดเจนผ่านประสบการณ์ของเขาที่องค์กรไม่แสวงผลกำไรสำหรับ LGBTQ+ อย่าง It Gets Better

Geoff ได้อธิบายว่า Facebook สร้างขึ้นมาเพื่อเชื่อมต่อผู้คนกับเพื่อนฝูง ครอบครัว และคนที่ตนรัก แต่เมื่อเวลาผ่านไป Facebook ได้เริ่มเชื่อมต่อผู้คนเข้ากับโครงการที่พวกเขาให้ความสำคัญ

ตอนที่เรากำลังสร้าง Workplace เราได้ตั้งคำถามกับตัวเองว่า เราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อนำผลกระทบเช่นนี้มาสู่สภาพแวดล้อมการทำงาน และคำตอบก็คือ Workplace for Good ซึ่งเป็นวิธีในการบริจาค Workplace เวอร์ชั่น Premium ให้แก่องค์กรไม่แสวงผลกำไรและสถาบันการศึกษาโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

สำหรับ It Gets Better แล้ว Workplace ได้ช่วยให้องค์กรสามารถแชร์เรื่องราวที่ก่อให้เกิดผลกระทบในเชิงบวกต่อชีวิตของชาว LGBTQ+ รุ่นใหม่ ช่วยให้ผู้คนเชื่อมต่อกับตัวแทนของชุมชนที่อยู่อีกซีกโลก และมีความละเอียดอ่อนต่อความแตกต่างทางวัฒนธรรมทั่วโลก

"สิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นเมื่อเรานำ Workplace เข้ามาใช้งาน คนมากมายต่างให้ความสนใจ เครื่องมือนี้ช่วยให้ผมมีโอกาสได้ลุยงานร่วมกับองค์กรในเครือ และฟีเจอร์การแปลภาษาก็สุดยอดมาก บอกได้เลยว่าเป็นตัวพลิกเกมสำหรับเราทีเดียว"

"สิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นเมื่อเรานำ Workplace เข้ามาใช้งาน คนมากมายต่างให้ความสนใจ เครื่องมือนี้ช่วยให้ผมมีโอกาสได้ลุยงานร่วมกับองค์กรในเครือ และฟีเจอร์การแปลภาษาก็สุดยอดมาก บอกได้เลยว่าเป็นตัวพลิกเกมสำหรับเราทีเดียว"

– Brian Wenke, กรรมการบริหารของ It Gets Better

หลังจากงานกิจกรรมจบลง ทุกอย่างได้กลับมาสู่ Facebook Campus เพื่อสร้างเครือข่าย สอบถามรายละเอียด และเป็นช่วงเวลาในการจิบเครื่องดื่มให้ชื่นใจ อากาศในแคลิฟอร์เนียกำลังดี ผู้คนต่างอิ่มเอมใจ และเป็นการปิดฉากงาน Flow ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกอย่างสวยงาม

ขอขอบคุณทุกคนอีกครั้งที่ทำให้ Flow เป็นไปอย่างราบรื่น เราจะแชร์ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมจากเซสชั่นการอภิปรายของเรา พร้อมกับบทสัมภาษณ์สุดพิเศษในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

และเราได้วางแผนการจัดงานในปีหน้าไว้แล้ว หวังว่าจะได้พบกัน

แล้วเราจะ Flow ไปด้วยกัน

บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่
ขอบคุณสำหรับความเห็นของคุณ

โพสต์ล่าสุด

การสื่อสารทางธุรกิจ | ใช้เวลาอ่าน 10 นาที

ทำเครื่องหมายว่าสำคัญ: วิธีใหม่สำหรับผู้นำในการแจ้งว่าเป็นโพสต์สำคัญ

ทำให้มั่นใจว่าโพสต์ที่มีความสำคัญจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม ทั้งในและนอก Workplace จากนั้นจึงวัดผลด้วยเครื่องมือการรายงานตัวใหม่

การสื่อสารทางธุรกิจ | ใช้เวลาอ่าน 10 นาที

ขอแนะนำวิธีการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วย Workplace Chat

เรากำลังช่วยให้ผู้คนมีวิธีมากขึ้นในการเชื่อมต่อ ทำงานร่วมกัน และขยายชุมชนให้เติบโต ด้วยการประกาศด้านผลิตภัณฑ์ใหม่และการอัพเดตฟีเจอร์

การสื่อสารทางธุรกิจ | ใช้เวลาอ่าน 10 นาที

Flow 2018: คู่มือแนะนำเกี่ยวกับการประกาศทั้งหมดจากการประชุมสุดยอดผู้นำครั้งแรกของเรา

เรากำลังช่วยให้ผู้คนมีวิธีมากขึ้นในการเชื่อมต่อ ทำงานร่วมกัน และขยายชุมชนให้เติบโต ด้วยการประกาศด้านผลิตภัณฑ์ใหม่และการอัพเดตฟีเจอร์