สมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัว และสาเหตุที่สิ่งนี้มีความสำคัญ

ผู้คนเริ่มยอมรับกันมากขึ้นว่าสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับสุขภาวะที่ดี แต่สมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวคืออะไร และพนักงานจะสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวที่ดีขึ้นได้อย่างไร

การมีส่วนร่วมของพนักงาน | ใช้เวลาอ่าน 10 นาที
facebook work life balance - Workplace from Meta

สมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวที่ดีมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อพนักงาน ตัวอย่างเช่น การสำรวจโดย Aviva พบว่าผู้ตอบแบบสำรวจ 41% คิดว่างานของตนน่าสนใจเพราะให้สมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัว เมื่อเทียบกับอีก 36% ที่สนใจเพราะเงินเดือน

เปอร์เซ็นต์นี้ยิ่งสูงขึ้นอีกเมื่อแบ่งตามเพศ โดยผู้หญิง 44% ให้ความสำคัญกับสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวเป็นอันดับแรก เมื่อเทียบกับผู้ชายอีก 34%

แม้ว่าบางคนจะยอมทำงานหนักนานหลายชั่วโมง หรือกระทั่งรู้สึกพึงพอใจที่ได้ทำ แต่คุณก็จะเหนื่อยล้าถ้าไม่รู้จักหยุดพักบ้าง ซึ่งบรรดาพนักงานต่างก็ตระหนักถึงเรื่องนี้กันมากขึ้น

ต่อให้คุณรักงานของตัวเองมาก คุณก็ต้องพึงระลึกไว้ว่ายังมีสิ่งอื่นๆ ในชีวิตที่รอให้คุณสัมผัสนอกเหนือจากการทำงานอยู่ การสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวเพื่อให้คุณได้ใช้เวลาพักผ่อนอย่างเต็มที่บ้างก็ไม่ได้เสียหายอะไร และถ้าคุณต้องนำทีมหรือบริหารจัดการผู้อื่น ความรับผิดชอบในการทำให้สมาชิกในทีมสร้างสมดุลดังกล่าวได้เช่นกันก็ตกอยู่ที่คุณ

ดังนั้นเราจึงจะมามองหาวิธีที่จะสร้างสมดุลที่เหมาะสมกัน ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาวิธีการทำงานที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น หรือการแค่รู้ว่าเมื่อใดควรหยุดพัก

สมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวที่ดีขึ้นคืออะไร

สมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวที่ดีขึ้นคืออะไร

สมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวเป็นเรื่องของความรู้สึกว่าคุณมีเวลาเพียงพอทั้งสำหรับงานและชีวิตส่วนตัว ซึ่งรวมถึงเวลาที่ใช้กับครอบครัว เพื่อนฝูง และงานอดิเรก ซึ่งจะไม่อยู่ในหมวดเดียวกับการแบ่งเวลาสำหรับทุกคน แต่การมีสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวที่ดีหมายถึงการจัดสรรทุกอย่างได้อย่างลงตัวโดยไม่ต้องกังวล

เหตุใดสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวที่ดีขึ้นจึงสำคัญ

เหตุใดสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวที่ดีขึ้นจึงสำคัญ

เป็นที่รู้กันทั่วไปว่าเราใช้เวลาเยอะมากในที่ทำงาน บางครั้งเราเจอเพื่อนร่วมงานมากกว่าครอบครัวและเพื่อนฝูงเสียอีก และบางคนก็ต้องคอยเช็กข้อความและอีเมลจากที่ทำงานทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง แต่การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งจำเป็น

สมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวที่ดีสำคัญต่อสุขภาพ ความสัมพันธ์ และประสิทธิภาพการทำงาน สมดุลนี้สามารถเพิ่มผลิตภาพและกำลังใจ รักษาพนักงานไว้ได้มากขึ้น รวมถึงลดการลาป่วยและขาดงานได้

ในทางกลับกัน สมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวที่ไม่ดีอาจนำไปสู่การไม่มีส่วนร่วม และถึงขั้นเป็นอันตราย การศึกษาโดย UCL พบว่าพนักงานออฟฟิศที่ทำงานนานเกินจำเป็นอย่างน้อย 3 ชั่วโมงขึ้นไปมีความเสี่ยงที่จะมีปัญหาโรคหัวใจสูงกว่าผู้ที่ไม่ทำงานล่วงเวลาถึง 60%

ดังนั้นเพื่อปรับปรุงผลิตภาพและสุขภาพให้ดีขึ้น และลดความเสี่ยงในการเกิดอาการหมดไฟ การสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวควรมาเป็นอันดับหนึ่ง

สาเหตุของสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวที่ไม่ดี

สาเหตุของสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวที่ไม่ดี

การรักษาสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวให้ดีนั้นพูดง่ายกว่าทำ สำหรับบางคน การสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตที่บ้านเป็นเรื่องยากเพราะสาเหตุที่พบได้บ่อยบางประการ ซึ่งได้แก่

  • ขอบเขตที่คลุมเครือ ความไม่ชัดเจนว่าการทำงานจบลงและชีวิตที่บ้านเริ่มเมื่อใดและที่ไหนอาจเป็นปัญหา โดยเฉพาะกับผู้ที่ทำงานจากบ้าน

  • การไม่รู้วิธีหยุดพัก หากคุณชินกับการอยู่ในโหมด 'ทำงาน' ตลอดเวลา คุณอาจผ่อนคลายได้ยากและอาจต้องพยายามชะลอการทำงานลง

  • โรคคิดว่าตัวเองไม่เก่ง เมื่อพนักงานขาดความมั่นใจในความสามารถของตัวเอง พนักงานก็อาจพยายามพิสูจน์ตัวเองด้วยการโหมงานหนัก

  • การชี้นำที่ไม่ดี หากผู้นำไม่ชี้นำด้วยตัวอย่างที่ดี ผู้นำก็อาจส่งผลกระทบต่อทั้งตัวเองและวัฒนธรรมทั้งหมดขององค์กรได้

6 เคล็ดลับสำหรับสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวที่ดีขึ้น

6 เคล็ดลับสำหรับสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวที่ดีขึ้น

1. การทำงานร่วมกันเป็นกุญแจสำคัญ

แนวทางในการทำงานร่วมกันเป็นทีมของคุณนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ทุกคนต้องทำงานส่วนของตัวเองอย่างเต็มที่ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าโปรเจ็กต์และงานต่างๆ จะเสร็จทันเวลาและได้ตามมาตรฐาน แต่นั่นก็อาจหมายความว่าสมาชิกบางคนในทีมต้องทำงานมากขึ้น

การใช้เครื่องมือการทำงานร่วมกันที่เหมาะสมจะเป็นตัวช่วยให้ธุรกิจสามารถติดตามโปรเจ็กต์ได้ในทุกขั้นตอน รวมถึงรู้ว่าใครมีหน้าที่รับผิดชอบอะไรและงานแต่ละงานมีความคืบหน้าถึงไหนแล้วบ้าง

2. จัดลำดับความสำคัญของงานในระหว่างวันทำงาน

กำหนดระยะเวลาสำหรับการทำแต่ละงานในรายการที่ต้องทำให้เสร็จ และทำตามกำหนดเวลานั้นอย่างเคร่งครัด เพื่อให้สามารถปิดสวิตช์แล็ปท็อปได้ตรงเวลาที่กำหนดไว้

การจัดลำดับความสำคัญให้ชัดเจนจะช่วยให้งานสำคัญเสร็จก่อน คุณจึงไม่ต้องเข้าสู่ระบบอีกครั้งแล้วทำงานต่อจนดึกดื่น แต่อย่าลืมจัดลำดับความสำคัญโดยมองความเป็นจริงด้วย ถ้าวันไหนคุณมีประชุมบ่อย ก็อย่าลืมกำหนดให้ปริมาณของงานที่ต้องทำในวันนั้นไม่มากเกินกว่าที่คุณจะทำให้เสร็จได้ด้วย

3. กล้าที่จะปฏิเสธ

แนวคิดที่มั่นใจว่าจะทำได้เป็นสิ่งสำคัญในที่ทำงานก็จริง แต่การให้ใครสักคนโดนบริษัทเอาเปรียบได้ง่ายๆ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี หากคนคิดว่าคุณจะอาสาทำงานเพิ่มเสมอโดยไม่ถามหรือตอบโต้อะไร คนเหล่านั้นก็มีแนวโน้มที่จะเอาเปรียบคุณ

ผู้จัดการจึงต้องสนับสนุนพนักงานให้ยึดมั่นในจุดยืนของตัวเอง เพื่อให้พนักงานสามารถทำงานให้เสร็จและเลิกงานด้วยความรู้สึกพึงพอใจและพร้อมที่จะพักผ่อน

4. กำหนดเวลาเลิกงานที่ชัดเจน

มีการประมาณการว่าผู้ทำงานที่ต้องใช้ความรู้ 39% ทั่วโลกจะทำงานแบบไฮบริดภายในสิ้นปี 2023 และ 9% จะทำงานทางไกลเต็มรูปแบบ

สำหรับพนักงานหลายๆ คน บ้านคือออฟฟิศสัปดาห์ละสองสามวัน อย่างไรก็ตาม คนที่ทำงานจากบ้านต้องใช้ความพยายามเพิ่มเติมเพื่อแยกตัวออกจากงาน และสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตที่บ้าน เพราะเมื่อคุณทำงานจากห้องนั่งเล่นหรือห้องครัวของตัวเอง คุณก็ไม่สามารถเดินออกจากออฟฟิศแล้วปิดสมองจากงานได้

พนักงานทางไกลต้องรู้สึกว่าตนสามารถปิดการแจ้งเตือนเรื่องงานทั้งหมดและปิดโทรศัพท์สำหรับงานได้ในเวลาที่กำหนด นอกจากนี้ การออกไปเดินเล่นหรือการออกจากบ้านหลังเลิกงานก็สามารถช่วยได้ เพราะจะเป็นการสร้างเส้นแบ่งระหว่างเวลาทำงานกับเวลาพักผ่อนที่บ้าน

5. เรียนรู้ที่จะตัดงานที่ไม่จำเป็นออก

ทุกคนตกเป็นเหยื่อของการเผลอทำงานเกินจำเป็น และการพบปะกับผู้คนมากกว่าที่ควร หากต้องการปรับสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวให้ดีขึ้น คุณก็ต้องรู้ว่าเมื่อใดควรตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกจากกำหนดการ

หมายความว่าคุณต้องปฏิเสธหรือเปลี่ยนกำหนดการสำหรับคำเชิญในช่วงสุดสัปดาห์ที่เกินเข้ามา หรือตัดการประชุมในที่ทำงานที่ไม่จำเป็นและไม่ได้กำหนดเวลาไว้ล่วงหน้าออกไป อย่ากลัวที่จะแบ่งงานให้คนอื่น หากคุณเป็นผู้จัดการทีม

6. ลองพิจารณาการทำงานที่ยืดหยุ่น

การมีเวลาทำงานและสถานที่ทำงานที่ยืดหยุ่นอาจช่วยสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตครอบครัวได้ หลายบริษัทอาจพิจารณาใช้นโยบายการทำงานที่ยืดหยุ่นเพื่อช่วยให้พนักงานทำงานได้เต็มศักยภาพ

อ่านต่อ

บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่
ขอบคุณสำหรับความเห็นของคุณ

โพสต์ล่าสุด

ความร่วมมือในทีม | ใช้เวลาอ่าน 10 นาที

วิธีสร้างความร่วมมือในทีม

ค้นพบเคล็ดลับสำคัญในการพัฒนาความร่วมมือของทีมในที่ทำงาน รวมถึงประโยชน์ของการทำงานร่วมกันและวิธีเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการทำงานเป็นทีม

ผลิตภาพ | ใช้เวลาอ่าน 11 นาที

ผลิตภาพคืออะไรและเหตุใดจึงมีความสำคัญ

ค้นพบว่าเราให้นิยามผลิตภาพว่าอย่างไร รวมถึงวิธีการวัดผลและรักษาผลิตภาพเมื่อผู้คนเริ่มกลับไปทำงานในสำนักงานในยุคหลังการแพร่ระบาดของโควิด

การทำงานจากทางไกล | ใช้เวลาอ่าน 7 นาที

การทำงานจากทางไกล: ประโยชน์และความท้าทาย

เราทำงานจากทางไกลกันมากขึ้น และอาจจะมากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต มาค้นพบข้อดีและข้อเสียของการทำงานจากทางไกลและวิธีใช้ประโยชน์สูงสุดจากการทำงานรูปแบบนี้กัน