การเรียนรู้ร่วมกันมีประโยชน์ต่อองค์กรของคุณอย่างไร
![](https://static.xx.fbcdn.net/rsrc.php/v3/y4/r/-PAXP-deijE.gif)
![collaborative learning in the workplace - Workplace from Meta](https://scontent-ord5-2.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/330320084_716961266846163_4971957754700052882_n.jpg?_nc_cat=104&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=Q9zaGuCtoeIQ7kNvgGDSsAi&_nc_ht=scontent-ord5-2.xx&oh=00_AYBapzvokZnwZObXAJScIpHYQafqsjutA6MxgzpLtEPKzA&oe=66AA4C5E)
การเรียนรู้ร่วมกันตั้งอยู่บนหลักการที่ผู้คนเรียนรู้จากกันเมื่อได้มาทำงานร่วมกัน เราจะมาดูกันว่าการเรียนรู้ร่วมกันนั้นจะเป็นประโยชน์ต่อองค์กรของคุณได้อย่างไรบ้าง
แนวคิดพื้นฐานที่อยู่เบื้องหลังการเรียนรู้ร่วมกันคือการมองว่าการทำงานร่วมกันจะช่วยให้ผู้คนได้เรียนรู้จากกัน จนเกิดการพัฒนาความรู้และทักษะต่างๆ แนวคิดนี้ให้ความสำคัญกับการบรรลุเป้าหมายที่มีร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการทำงานสำเร็จลุล่วง การแก้ไขปัญหา หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์
การเรียนรู้ร่วมกันสามารถเกิดขึ้นได้ระหว่างคนสองคนหรือคนทั้งกลุ่ม โดยจะส่งผลให้บุคลากรมีความรู้ มีทักษะ และมีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น ทั้งยังลดความจำเป็นในการฝึกอบรมอย่างเป็นทางการ
การทำงานร่วมกันบนระบบคลาวด์
การเรียนรู้ร่วมกันไม่ใช่ปรากฏการณ์ใหม่แต่อย่างใด เพราะสุดท้ายแล้ว คนเราต่างก็เรียนรู้สิ่งต่างๆ จากการทำงานร่วมกันอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม แนวคิดนี้กลับมีความสำคัญต่อที่ทำงานในยุคปัจจุบันมากขึ้นเรื่อยๆ จากการที่คนเราเชื่อมต่อถึงกันได้มากกว่าที่เคยเป็นมา
การเรียนรู้ร่วมกันในปัจจุบันสามารถทำได้ง่ายขึ้นมากเนื่องมาจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เช่น อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง การแชร์ไฟล์ และการประชุมผ่านวิดีโอคอล
นอกจากนี้ การเติบโตของการประมวลผลบนระบบคลาวด์ยังทำให้เครื่องมือการทำงานร่วมกันประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยช่วยให้พนักงานทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น มากจนกระทั่ง 49% ของพนักงานในปัจจุบันมองว่าเครื่องมือการส่งข้อความด่วนสามารถเพิ่มการทำงานร่วมกันเป็นทีมในที่ทำงานได้
การเรียนรู้ร่วมกันมีประโยชน์อย่างมากต่อพนักงาน
การเรียนรู้ร่วมกันช่วยพัฒนาทักษะและความรู้ของพนักงาน
การแบ่งปันไอเดียและทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดช่วยให้พนักงานได้เรียนรู้วิธีที่ผู้อื่นคิดและลงมือทำ และหากมีการสื่อสารระหว่างแผนกต่างๆ ในองค์กรมากขึ้น พนักงานก็จะเข้าใจเกี่ยวกับรูปแบบการทำงานของทั้งองค์กร
การทำงานร่วมกันประเภทนี้ช่วยให้องค์กรได้แบ่งปันความรู้และบ่มเพาะบุคลากรที่เหนียวแน่นกลมเกลียวและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
การเรียนรู้ร่วมกันช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างทีม
การที่ผู้คนทำงานจากทางไกลกันมากขึ้นหมายความว่า ทีมต่างๆ จะไม่ได้ทำงานในอาคารหรือประเทศเดียวกันเสมอไป
การเรียนรู้ร่วมกันจะช่วยให้พนักงานได้บ่มเพาะสายสัมพันธ์ระหว่างสถานที่ที่อยู่ห่างไกลกันและคงรักษาความรู้สึกเป็นชุมชนที่เหนียวแน่นกับผู้อื่น
เครื่องมือการทำงานร่วมกัน เช่น Workplace สามารถช่วยในเรื่องนี้ได้ ยกตัวอย่างเช่น หากมีใครคนหนึ่งกำลังทำงานที่ท้าทายมาก พนักงานคนนั้นก็สามารถรับคำแนะนำและความเห็นได้ทันทีผ่านทาง Workplace Chat เป็นต้น
พนักงานคนนั้นยังสามารถสัมผัสส่วนหนึ่งของบทสนทนาที่เกิดขึ้นภายในบริษัทได้ผ่านฟีดข่าวของบริษัทอีกด้วย ซึ่งส่วนนี้จะนำเสนอข่าวสารอัพเดตและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับแต่ละบุคคลไม่ว่าคนคนนั้นจะอยู่ที่ใดก็ตาม
การเรียนรู้ร่วมกันเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม
การฝึกอบรมอย่างเป็นทางการอาจใช้ไม่ได้ผลกับคนบางกลุ่ม เนื่องจากคนเหล่านี้อาจรู้สึกอายที่จะพูดต่อหน้าคนในกลุ่ม ทว่าการเรียนรู้ร่วมกันนี้จะเปิดพื้นที่ให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องได้มีส่วนร่วมกับกระบวนการได้อย่างเป็นธรรมชาติ
การเรียนรู้ร่วมกันช่วยให้แก้ปัญหาได้เร็วขึ้น
ปัญหาที่อาจใช้คนหนึ่งคนกับเวลาอีกสองสัปดาห์เพื่อแก้ไขปัญหา อาจใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงในสภาพแวดล้อมที่มีการทำงานร่วมกัน เมื่อคุณสามารถเข้าถึงพนักงานจำนวนมากที่มีชุดทักษะและมุมมองเฉพาะตัว คุณก็มีแนวโน้มที่จะพบคำตอบมากกว่าการทำงานเพียงลำพัง
การเรียนรู้ร่วมกันเป็นสิ่งที่คน Gen Y ให้ความสนใจ
คนยุคมิลเลนเนียลเติบโตมากับเทคโนโลยีซึ่งทำให้คนเหล่านี้เชื่อมต่อถึงกันอยู่เสมอ อีกทั้งยังอาศัยสิ่งนี้เพื่อทำงานอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ คนเหล่านี้จึงมักจะให้ความสนใจกับองค์กรที่ในลักษณะของการร่วมมือกัน การนำการเรียนรู้รูปแบบนี้ไปใช้กับธุรกิจจะช่วยให้คุณโปรโมทธุรกิจของตนเองในฐานะที่ทำงานที่มีวิสัยทัศน์ได้ นอกจากนี้ การทำงานร่วมกันยังเป็นวิธีรักษาพนักงานไว้กับองค์กรที่ดีอีกด้วย เนื่องจากช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของพนักงานและขวัญกำลังใจ
การเรียนรู้ร่วมกันช่วยให้พนักงานใหม่ปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว
พนักงานใหม่จะได้เรียนรู้สิ่งที่ดีที่สุดจากเพื่อนร่วมงานและผู้จัดการในสายงานของตน วัฒนธรรมการทำงานร่วมกันจะช่วยให้คนเหล่านี้รู้สึกไม่กดดันตั้งแต่เริ่มต้นทำงานและช่วยให้กระบวนการฝึกอบรมพนักงานใหม่เป็นไปอย่างราบรื่น
การทำงานร่วมกันจะบ่มเพาะสายสัมพันธ์แบบผู้สอนและผู้เรียนระหว่างพนักงานใหม่กับเพื่อนร่วมงานของตนที่มีประสบการณ์มากกว่า อีกทั้งผู้สอนเองก็มีโอกาสได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ ด้วยเช่นกัน จากการที่ผู้เรียนอาจพบวิธีอื่นที่ดีกว่า ซึ่งองค์กรเองไม่เคยนึกถึงมาก่อน
โพสต์ล่าสุด
![](https://static.xx.fbcdn.net/rsrc.php/v3/y4/r/-PAXP-deijE.gif)
การสื่อสารทางธุรกิจ | ใช้เวลาอ่าน 10 นาที
การใช้ Workplace เพื่อขยายชุมชน LGBTQ+ ทั่วโลก
Workplace เปิดให้องค์กรไม่แสวงผลกำไรและสถาบันการศึกษาที่เข้าร่วมโปรแกรม Workplace for Good ใช้งานฟรี รับชมวิธีที่องค์กร It Gets Better Project ใช้ Workplace เพื่อเชื่อมต่อและทำงานร่วมกันในฐานะทีมระดับโลกอย่างแท้จริง