เหตุใดเวลาพักจึงส่งผลดีต่อการมีส่วนร่วมของพนักงาน
ไม่ใช่ว่าเวลาทำงานต้องทำแต่งานอย่างนั้นหรือ หรือพนักงานมีเวลาทำกิจกรรม พักผ่อน และการอู้งานอย่าง "สร้างสรรค์" เรามาสำรวจสิ่งนี้ไปด้วยกัน
![](https://static.xx.fbcdn.net/rsrc.php/v3/y4/r/-PAXP-deijE.gif)
![benefits of downtime - Workplace from Meta](https://scontent-ord5-2.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/43481205_261373034720626_4690606209995112448_n.jpg?_nc_cat=103&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=lwNXTinKujwQ7kNvgHSkIbX&_nc_ht=scontent-ord5-2.xx&oh=00_AYAYuA4kgSUIC-L-IFnsd4eLiPflmKXETrHCkNs3e9tZkQ&oe=66AA5C90)
คุณอาจเคยได้ยินสำนวนที่ว่า "เอาแต่ทำงานไม่รู้จักพักจะกลายเป็นคนน่าเบื่อเอาได้" และในที่ทำงานสมัยใหม่ ที่ซึ่งไอเดียและความคิดสร้างสรรค์เป็นเส้นเลือดใหญ่ของหลายๆ องค์กร คนน่าเบื่อนั้นตรงข้ามกับพนักงานที่ไม่ฉลาดเฉลียว ฉับไว และรู้สึกมีส่วนร่วมอย่างที่บริษัทต้องการ
แก้งานยุ่งได้ไม่ยากด้วย Workplace
ไม่ว่าคุณจะต้องการแจ้งให้ทุกคนทราบเกี่ยวกับการกลับสู่ที่ทำงาน หรือนำวิธีการทำงานแบบไฮบริดไปปรับใช้ Workplace ก็สามารถทำให้การทำงานเป็นเรื่องง่ายขึ้นได้
![](https://scontent-ord5-2.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/241657427_830327301017600_1962560683684295026_n.jpg?_nc_cat=103&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=d_lQtbn8j4kQ7kNvgF2SdJu&_nc_ht=scontent-ord5-2.xx&oh=00_AYDUnuHx7RoYkRfcwDjANWHNcrvVZ1065WoIEGXRJl1O3Q&oe=66AA8891)
![](https://scontent-ord5-2.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/241700087_402134681493763_6402224727821764861_n.jpg?_nc_cat=102&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=Q0z5RifsOagQ7kNvgEpJMIN&_nc_ht=scontent-ord5-2.xx&oh=00_AYBsNBYkI5w4qtquNqh1tuyCOGuWECsmgO_sa2VYQF6-Sg&oe=66AA5458)
![](https://scontent-ord5-1.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/241221457_908577796409130_6487958369880006678_n.jpg?_nc_cat=111&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=Rg6tgx_FEPcQ7kNvgGqb41d&_nc_ht=scontent-ord5-1.xx&oh=00_AYBB5BWCiTikdsQSKFdgjTdlIzV0uLxS94XdeSkElDn5og&oe=66AA64DC)
![](https://scontent-ord5-1.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/241625011_538813510723750_6067052383644802717_n.jpg?_nc_cat=108&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=ipO-OFAm9YwQ7kNvgEb4vmF&_nc_ht=scontent-ord5-1.xx&oh=00_AYA8BioRCAmMga2bhRxOy5kAato6KhzGg2rAMOiVOwkm3Q&oe=66AA8580)
![](https://scontent-ord5-1.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/241639311_391950989102429_5023017423346854138_n.jpg?_nc_cat=108&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=Sz1KtrjEdmUQ7kNvgG8y8k8&_nc_ht=scontent-ord5-1.xx&oh=00_AYD-BO_Bl7B7uz4rJRxH_kDn9564yxhsVAw8can_6aDgOA&oe=66AA5BC3)
![](https://scontent-ord5-2.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/241680920_332122231999515_373331672225401460_n.jpg?_nc_cat=104&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=bGQ_GJfIxI0Q7kNvgGIWRW4&_nc_ht=scontent-ord5-2.xx&oh=00_AYCp6LMSVAbo6TQP28CpzMdVxj-n-Dt9pZykh567g7kr2w&oe=66AA5546)
![](https://scontent-ord5-2.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/241256790_921023931957750_1265904103262126731_n.jpg?_nc_cat=103&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=UG9yCIjaCJsQ7kNvgHjTMCX&_nc_ht=scontent-ord5-2.xx&oh=00_AYBV1bM9n-HmxQCa4R-tZ-bgstv_Mab_iIeH7LiTnfE4qA&oe=66AA8432)
![](https://scontent-ord5-1.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/241676153_587765818908517_6915274023430930059_n.jpg?_nc_cat=108&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=pmnzfo5eeGIQ7kNvgGprtGe&_nc_ht=scontent-ord5-1.xx&oh=00_AYBBA2R8dCU_SSIdhqfAhWv9mK6qIvf7JQOOePbujQEWMg&oe=66AA6DBC)
![](https://scontent-ord5-2.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/241698027_372910177816075_3542654260261704366_n.jpg?_nc_cat=105&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=iOwtr5d85ycQ7kNvgHY_kFk&_nc_ht=scontent-ord5-2.xx&oh=00_AYDVZL6WCZ4KxdeBiExmTQr4ou7mBxYyGUBg9VCgdttSew&oe=66AA7075)
ผู้คนมักคิดว่าการทำงานเป็นเวลานานๆ และการทำงานอย่างรวดเร็วจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า แต่แนวคิดนี้ตั้งอยู่บนความคาดหวังที่ว่าทรัพยากรของพนักงานนั้นมีไม่จำกัด
ในความเป็นจริงแล้ว พนักงานต้องผลักดันตัวเองจนถึงขีดสุดเพื่อทำให้งานเสร็จอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อตัวพนักงานเองและองค์กรได้
82% ของพนักงานในสหรัฐฯ บอกว่าการมีโอกาสที่จะทำงานแบบยืดหยุ่นช่วยเพิ่มความพึงพอใจของพนักงาน และ 80% กล่าวว่าวิธีการทำงานที่ยืดหยุ่นในแง่ของเวลาและสถานที่ทำงานสามารถช่วยเพิ่มผลิตภาพและความคิดสร้างสรรค์ของตนได้
ผลการสำรวจนี้แสดงให้เห็นว่าการหาวิธีการทำงานที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้นควรเป็นสิ่งที่ธุรกิจให้ความสำคัญในลำดับต้นๆ
เหตุใดการทำงานอย่างค่อยเป็นค่อยไปจึงอาจให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
ผู้เขียนอย่าง Brigit Schulte กล่าวว่าการทำงานหนักเกินไปหรือการรู้สึกถูกกดดันเกินไปในที่ทำงานอาจก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพและทำให้ผลิตภาพลดลง และเขายังกล่าวอีกด้วยว่าสมองจะใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มศักยภาพเมื่อไร้เรื่องให้กังวล [1]
นี่อาจเป็นสาเหตุที่ Luke Sullivan ผู้บริหารฝ่ายโฆษณาที่ประสบความสำเร็จมีความเชื่อมั่นในแนวทางการทำงานที่ไร้ความเครียด
เขาเขียนในคู่มือการสร้างโฆษณาที่ยอดเยี่ยมซึ่งชื่อว่า Hey Whipple, Squeeze This ไว้ว่า หลังจากได้รับบรีฟสำคัญมาจากลูกค้าแล้ว ผู้กำกับศิลป์และนักเขียนคำโฆษณาที่รับผิดชอบงานนั้นจะทำงานกันอย่างค่อยเป็นค่อยไป
การทำงานรูปแบบนี้จะมีพื้นที่สำหรับการพูดคุยกันถึงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่น ภาพยนตร์เรื่องโปรด และสำหรับการออกไปทานอาหารกลางวันก่อนเวลาพักเที่ยง
Sullivan กล่าวว่าจริงๆ แล้วสมองจะหยุดทำงานโดยอัตโนมัติเมื่ออยู่ภายใต้แรงกดดันมากเกินไป อย่างเช่นในตอนที่เราจำเป็นต้องใช้การคิดอย่างสร้างสรรค์และยืดหยุ่นในการแก้ไขปัญหา
วิธีการทำงานที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น
มีหลายบริษัทที่คิดค้นวิธีการทำงานที่ดีขึ้นซึ่งช่วยเพิ่มความพึงพอใจ การมีส่วนร่วม ความคิดสร้างสรรค์ และผลิตภาพของพนักงาน
หลายองค์กรต่างเสนอสิทธิพิเศษและสวัสดิการที่กระตุ้นให้พนักงานได้ใช้เวลาพักผ่อน เช่น การเป็นสมาชิกโรงยิมฟรี การเพิ่มเบี้ยเลี้ยงวันหยุด และงานกิจกรรมพบปะที่เป็นพื้นที่ในการพูดคุยนอกเหนือจากเรื่องงาน
การให้สวัสดิการดังกล่าวแก่พนักงานเป็น "กลยุทธ์ที่ทำให้พนักงานอยากทำงานต่อ" ซึ่งเป็นสิ่งที่ Schulte กล่าวว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบริษัทและพนักงาน เนื่องจากช่วยสร้างความพึงพอใจและบ่มเพาะจรรยาบรรณในการทำงานที่ดี
วิธีการหล่อเลี้ยงความคิดสร้างสรรค์
ต่อไปนี้เป็นสิ่งที่คุณสามารถนำไปใช้เป็นครั้งคราวเพื่อช่วยผ่อนคลายความเครียดในทีม เพื่อที่จะช่วยให้คนในทีมรู้สึกไร้กังวลและทุ่มเททำงานได้อย่างเต็มที่
- ใช้เทคโนโลยีเพื่อทำงานร่วมกัน เครื่องมือที่เหมาะสมสามารถช่วยให้ผู้คนแลกเปลี่ยนไอเดียและทำงานในแบบร่างผลงานฉบับล่าสุดได้ ตัวอย่างเช่น เครื่องมือต่างๆ ใน Workplace ช่วยให้ทีมสามารถใช้วิดีโอคอลที่มีความละเอียดสูงเพื่อพูดคุยกับสมาชิกหลายคน ตลอดจนทำงานและแชร์เอกสารและไฟล์ได้แบบเรียลไทม์
- ใช้เวลาทานอาหารร่วมกัน จัดเตรียมของว่างและขนม จากนั้นกระตุ้นให้พนักงานผละจากโต๊ะทำงานมารวมตัวกันสักครู่อย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งวัน วิธีนี้จะช่วยให้พนักงานได้ผ่อนคลาย พูดคุย และเสนอไอเดียให้แก่กัน
- สนับสนุนให้หยุดพักเป็นระยะ หลายคนไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้นานกว่าสองถึงสามชั่วโมง ดังนั้นแทนที่จะกำหนดให้มีเวลาพักกลางวัน 1 ชั่วโมงเท่านั้น คุณควรให้สมาชิกในทีมมีเวลาพักสั้นๆ แต่บ่อยครั้งตลอดทั้งวัน หากรู้สึกว่าการทำเช่นนั้นช่วยให้พนักงานมีผลิตภาพเพิ่มขึ้น
- ทำงานที่บ้านทุกวันพุธ จริงๆ แล้วไม่จำเป็นต้องเป็นวันพุธก็ได้ แต่สนับสนุนให้ผู้คนทำงานจากที่บ้านอย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งวัน เนื่องจากอิสระจากการเดินทางและโอกาสในการทำงานที่บ้านเป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยเพิ่มความพึงพอใจของพนักงานและช่วยกระตุ้นต่อมความคิดสร้างสรรค์ได้
อ่านต่อ
[1] Overwhelmed: Work, Love and Play When No One has the Time, Brigit Schulte