เหตุใดคน Gen Y จึงคาดหวังให้มีแนวทางการทำงานแบบร่วมมือกัน
ในฐานะที่เป็นรุ่นบุกเบิกตัวตนบนโซเชียลมีเดียคน Gen Y จึงไม่ยอมทำตัวกลืนไปกับกระแสเฉยๆ แม้คนรุ่นใหม่ในยุคนี้จะต้องการสร้างความโดดเด่น แต่พวกเขาก็พร้อมที่จะทำงานร่วมกับผู้อื่นด้วยเช่นกัน และยังส่งผลมาถึงสถานที่ทำงานด้วย
![](https://static.xx.fbcdn.net/rsrc.php/v3/y4/r/-PAXP-deijE.gif)
![geny collaboration - Workplace from Meta](https://scontent-ord5-2.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/43059978_2072034743110115_3592953310920835072_n.jpg?_nc_cat=110&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=m9EaCYbxrocQ7kNvgEq7ND_&_nc_ht=scontent-ord5-2.xx&oh=00_AYA5a0LB8LiLnLKlMEi66VIqPOC3vxBzhDWNDD3nW946wA&oe=66AA7E44)
คน Gen Y มองว่าการสร้างบรรยากาศของการทำงานร่วมกันและเรียกร้องให้เปิดรับความคิดเห็นที่หลากหลายเป็นความรับผิดชอบของตนเอง ดังจะเห็นได้จาก 38% ของคนรุ่นนี้ที่ระบุว่า รูปแบบการทำงานร่วมกันที่ล้าสมัยเป็นอุปสรรคต่อการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ในบริษัท
Workplace และ Canvas8 ได้พูดคุยกับ Maurice Schweitzer ผู้ร่วมเขียนหนังสือ Friend & Foe: When to Cooperate, When to Compete, and How to Succeed at Both และดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ที่ Wharton School แห่ง University of Pennsylvania
เราได้สำรวจถึงวิธีที่คน Gen Y พยายามหาจุดสมดุลระหว่างการทำงานร่วมกันกับการสร้างความแตกต่างในที่ทำงาน
ในแง่ของการทำงานร่วมกัน คน Gen Y คาดหวังสิ่งใดจากการทำงาน
ในที่ทำงานที่ประสบความสำเร็จทุกแห่ง ผู้คนต่างคาดหวังที่จะได้ทำงานร่วมกัน สิ่งนี้ยิ่งทวีความสำคัญขึ้นไปอีกในหมู่คน Gen Y เมื่อเทียบกับคนหลายรุ่นก่อนหน้านี้ เนื่องจากงานไม่ได้เป็นสิ่งคงที่ตายตัวอีกต่อไปแล้ว กลับกัน สถานที่ ผู้คน หรือวิธีการทำงานสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในแต่ละสัปดาห์
การเติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีทำให้คน Gen Y คาดหวังสภาพแวดล้อมการทำงานที่ส่งเสริมให้ตนแบ่งปันไอเดียและคอยเรียนรู้
ความผันผวนอย่างต่อเนื่องนี้ได้กลายเป็นบรรทัดฐานและคน Gen Y เองก็อยู่ระหว่างเรียนรู้ว่าตนต้องมีความยืดหยุ่น ปรับตัวเป็น และเปิดกว้างต่อวิธีการทำงานใหม่ๆ การเติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีทำให้คนรุ่นนี้คาดหวังให้มีสภาพแวดล้อมการทำงานที่ส่งเสริมให้เกิดการแบ่งปันไอเดียและเรียนรู้จากกันและกัน ทั้งในโลกความจริงและโลกเสมือน
อะไรคือจุดสมดุลระหว่างการทำงานร่วมกันกับการแข่งขัน
ในที่ทำงานมีความตึงเครียดสูงระหว่างการทำงานร่วมกันและการแข่งขัน แม้ว่าการทำงานเป็นกลุ่มจะได้รับความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เราก็มักจะแข่งขันกับคนที่เราร่วมงานด้วย ไม่ว่าจะเพื่อเป้าหมายในการเลื่อนตำแหน่ง คำชื่นชม หรือการเพิ่มเงินค่าตอบแทนก็ตาม
สถานการณ์นี้มักเกิดขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพนักงาน Gen Y ที่ยังไม่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับตนเอง เนื่องจากคนเหล่านี้ต้องการคำชื่นชมและการเลื่อนตำแหน่งเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังคงต้องการพิสูจน์ว่าตัวเองเป็นคนที่ยืดหยุ่นด้วยเช่นกัน ซึ่งการแบ่งปันความรู้ก็เป็นตัวอย่างที่เด่นชัดที่สุดสำหรับความตึงเครียดนี้
แม้ว่าการทำงานเป็นกลุ่มจะได้รับความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เราก็มักจะแข่งขันกับคนที่เราร่วมงานด้วย
เราชอบให้ผู้คนแบ่งปันความรู้ของตนเอง ทว่าความรู้ส่วนบุคคลก็เป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขันทางสังคมอย่างหนึ่งด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ คน Gen Y จึงพยายามหาจุดสมดุลในการทำสองสิ่งนี้ในเวลาเดียวกัน พนักงานรุ่นนี้จะสลับการทำสองสิ่งนี้ไปมาอยู่เสมอ ซึ่งในแง่หนึ่งคือการทำไปพร้อมๆ กัน เพื่อให้ทำงานในบริษัทที่ขับเคลื่อนทั้งด้วยการทำงานร่วมกันและการแข่งขันต่อไปได้
เหตุใดแนวทางการทำงานแบบร่วมมือกันจึงเป็นสิ่งสำคัญ
เมื่อเราทำงานร่วมกัน ความสำเร็จที่เรามีจะช่วยก่อให้เกิดความไว้วางใจภายในทีม ความไว้วางใจนี้จะทำให้วัฏจักรที่ดีของการแบ่งปันความรู้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็จะส่งเสริมให้เกิดการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นต่อไป การสร้างความรู้สึกไว้เนื้อเชื่อใจกันเช่นนี้จะทำให้ผู้คนที่ไม่ได้ใกล้ชิดกันรู้สึกสบายใจที่จะแบ่งปันข้อมูลหรือนำเสนอไอเดียที่ซับซ้อน ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนนำไปสู่การทำงานที่ดียิ่งขึ้น
เทคโนโลยีในที่ทํางานช่วยลดช่องว่างด้านความเชื่อใจภายในทีมที่ทำงานแบบออนไลน์ได้
ลองนึกถึงการเปลี่ยนมาเป็นระบบเศรษฐกิจจากการจ้างงานฟรีแลนซ์และการทำงานจากทางไกล เมื่อผู้คนหันไปทำงานอิสระกันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ความเชื่อมั่นและความสามารถในการทำงานร่วมกันผ่านเทคโนโลยีไม่ว่าจะอยู่ในสถานที่หรือเวลาใดก็ยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น บริษัทเองก็สามารถสร้างความเชื่อมั่นภายในองค์กรได้ด้วยการสร้างความรู้สึกถึงอัตลักษณ์ของกลุ่ม แล้วโน้มน้าวให้ผู้คนเชื่อว่าเราต่างก็มีเป้าหมายและค่านิยมร่วมกัน
นี่คือจุดที่เทคโนโลยีในที่ทํางานสามารถช่วยลดช่องว่างเกี่ยวกับความเชื่อใจกันภายในทีมที่ทำงานแบบออนไลน์ได้ แม้ว่าสิ่งนี้จะไม่ได้มาแทนที่การมีปฏิสัมพันธ์แบบตัวต่อตัวโดยสิ้นเชิงก็ตาม
เทคโนโลยีช่วยให้การทำงานร่วมกันทั้งภายในและข้ามบริษัทราบรื่นยิ่งขึ้นได้อย่างไร
เห็นได้ชัดว่าเทคโนโลยีช่วยให้เราทำงานร่วมกันได้สะดวกยิ่งขึ้น
'เครื่องมือดิจิทัลกำลังลดความสำคัญของสถานที่ในแง่ของปฏิสัมพันธ์ประจำวันลงไปเรื่อยๆ'
เครื่องมือดิจิทัลกำลังลดความสำคัญของสถานที่ในแง่ของปฏิสัมพันธ์ประจำวันลงไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแชร์เอกสาร การสื่อสารที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น หรือการถ่ายทอดไอเดียแบบข้ามทวีป สิ่งนี้จะยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้นไปอีกเมื่อการค้าทั่วโลกเติบโตขึ้น และเราก้าวเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของไอเดียที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของบริการ
เทคโนโลยีในที่ทำงานที่เปิดโอกาสให้เราสร้างชุมชนออนไลน์กำลังทำให้คน Gen Y ได้พบปะกับผู้คนหลากหลายรูปแบบ ซึ่งทำให้ผู้คนรุ่นนี้รู้สึกคุ้นเคยและเปิดรับไอเดียหรือความเห็นที่ไม่เหมือนกับตนเองมากยิ่งขึ้น และตลาดไอเดียเช่นนี้เองคือสิ่งที่จะช่วยให้ธุรกิจดำเนินไปได้ดียิ่งขึ้น
สถานที่ทํางานมีการพัฒนาอย่างไรเพื่อส่งเสริมการทํางานร่วมกันให้ดียิ่งขึ้น
พัฒนาการดังกล่าวเริ่มเกิดขึ้นไปแล้วในระหว่างที่เรากำลังเข้าสู่การทำงานแบบเปิดกว้างและเครื่องมือการสื่อสารแบบดิจิทัล และพัฒนาการนี้จะยิ่งเดินหน้าเร็วกว่าเดิมเมื่อคน Gen Z ก้าวเข้าสู่ตลาดแรงงาน การเติบโตมากับ iPad ทำให้คนรุ่นนี้คาดหวังให้มีการเชื่อมต่อแบบดิจิทัลที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นไปอีกบนโลกออนไลน์
คนที่มีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นเก่ง ทั้งในการสร้างความร่วมมือและการแบ่งปันไอเดีย คือคนที่จะประสบความสำเร็จที่สุด
คนเหล่านี้จะมองที่ทำงานดิจิทัลในฐานะพื้นที่เสริมสำหรับโลกความจริงของตนเอง
คนรุ่นใหม่จะยังคงทลายเส้นแบ่งระหว่างโลกความจริงกับโลกเสมือนต่อไป โดยในระหว่างนั้น ความสามารถในการสื่อสารและทำงานร่วมกันทางออนไลน์ของผู้คนก็จะยิ่งมีความสำคัญเพิ่มขึ้น แม้ว่าการมีปฏิสัมพันธ์ในโลกความจริงจะไม่มีวันจางหายไปอย่างสิ้นเชิงเลยก็ตาม
เมื่อมองไปในอนาคต เราจะเห็นได้ว่าคนที่มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและเก่งในด้านการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น การสร้างความร่วมมือ ตลอดจนการแบ่งปันไอเดีย คือผู้ที่จะประสบความสำเร็จมากที่สุด
โพสต์ล่าสุด
![](https://static.xx.fbcdn.net/rsrc.php/v3/y4/r/-PAXP-deijE.gif)
การสื่อสารทางธุรกิจ | ใช้เวลาอ่าน 10 นาที
Workplace กลายมาเป็นเครื่องมือเพื่อการสื่อสารยอดนิยมสำหรับบริษัทเครื่องมืออันดับ 1 ของโลกได้อย่างไร
ช่วงถามตอบประจำของเรากับเหล่าผู้นำในแวดวงอุตสาหกรรมที่ใช้ Workplace เพื่อพลิกโฉมแนวทางการดำเนินงานขององค์กร เราได้พบกับบรรดาผู้นำธุรกิจที่ช่วยกำหนดอนาคตของการทำงาน