เส้นทางของ Workplace: Stanley Black & Decker

Pradheepa Raman ซึ่งเป็น Chief Talent and Innovation Officer ของ Stanley Black & Decker เข้าร่วมกับเราที่งาน Flow เพื่อพูดคุยในหัวข้อการเปลี่ยนแปลงและการไม่แบ่งแยก

การสื่อสารทางธุรกิจ | ใช้เวลาอ่าน 10 นาที
workplace stanley black and decker - Workplace from Meta

ในโอกาสนี้ Pradheepa ได้แชร์ข้อมูลเชิงลึกด้านวัฒนธรรมของบริษัทที่เฉลิมฉลองการเข้าสู่ปีที่ 175 และบอกเล่าถึงความสำคัญของการที่ผู้นำมีความมุ่งมั่น

Stanley Black & Decker เป็นบริษัทที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและมีอุตสาหกรรมที่หลากหลาย โดยสามารถแบ่งธุรกิจหลักได้เป็น 3 ส่วน ได้แก่ เครื่องมือและการจัดเก็บ การรักษาความปลอดภัย และธุรกิจด้านอุตสาหกรรม ทั้งยังมีเป้าหมายที่จะสร้างรายได้ 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในปี 2022

"เราเป็นบริษัทที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากการดำเนินธุรกิจและจากการเข้าซื้อบริษัทต่างๆ " Pradheepa กล่าว

"ด้วยการที่เราซื้อกิจการกว่าร้อยบริษัทในทศวรรษที่ผ่านมา คุณคงจินตนาการออกถึงวัฒนธรรมต่างๆ ที่ต้องมารวมเข้าด้วยกันและความจำเป็นในการสื่อสารและทำงานร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ไปข้างหน้า ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการเชื่อมโยงกับผู้คนอยู่ตลอดเวลา"

"การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการเชื่อมโยงกับผู้คนอยู่ตลอดเวลา"

"การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการเชื่อมโยงกับผู้คนอยู่ตลอดเวลา"

นอกจากนี้ Stanley Black & Decker ยังต้องการเป็นที่จดจำในฐานะหนึ่งในบริษัทที่ล้ำสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ด้วยเหตุนี้ Pradheepa และเพื่อนร่วมงานของเธอจึงให้ความสำคัญกับวิธีต่างๆ ในการเดินหน้าสู่ความมุ่งมั่นเหล่านี้อย่างเต็มกำลัง และในขณะเดียวกันก็พยายามให้บุคลากรเป็นหัวใจหลักของทุกๆ สิ่งที่บริษัทแห่งนี้ลงมือทำ

นั่นหมายถึงการทำให้แน่ใจว่าโปรแกรมสำคัญและเกณฑ์ชี้วัดความสำเร็จของบริษัทจะเอื้อต่อบุคลากรที่มีความหลากหลายและเปิดกว้าง

"ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น[คำถามอย่าง] 'ความสามารถด้านการเป็นผู้นำมีอะไรบ้าง ปัจจัยใดที่ทำให้คนคนหนึ่งประสบความสำเร็จและได้เลื่อนตำแหน่ง ใครที่เหมาะสมกับตำแหน่งนั้นๆ'" เธอกล่าว

"คุณจะเห็นได้ว่าบริษัทที่ก่อตั้งมายาวนานมักจะมีคุณลักษณะที่เหมือนกับผู้ชายมากๆ ดังนั้นคุณจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนหลักพื้นฐานบางอย่าง ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องอาศัยการละทิ้งสิ่งที่เคยเรียนรู้มาและเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่แรก"

Pradheepa กล่าวว่า การที่ Stanley Black & Decker มีความเปิดกว้างและพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ก็ช่วยได้อย่างมาก ทั้งยังกล่าวด้วยว่า สิ่งที่ช่วยบริษัทแห่งนี้ได้มากขึ้นไปอีกก็คือการมีซีอีโอที่มุ่งมั่นและเป็นกระบอกเสียงในประเด็นเกี่ยวกับความหลากหลายและการไม่แบ่งแยก

"Jim Loree เป็นซีอีโอที่ขยันมีส่วนร่วมมาก เขาไม่ได้แค่เชื่อในโครงการริเริ่มด้านความหลากหลายและการไม่แบ่งแยก รวมถึงการสร้างสภาพแวดล้อมที่เปิดกว้างมากขึ้น แต่ยังสนับสนุนประเด็นเหล่านี้และกระตุ้นให้ทีมผู้บริหารของตัวเองมีความรับผิดชอบในส่วนนี้ด้วย"

"เขาสนับสนุนและมีส่วนร่วมในกลุ่มต่างๆ เกี่ยวกับแหล่งข้อมูลของพนักงานโดยใช้ Workplace ในการสนับสนุนพฤติกรรมในเชิงบวก นอกจากนั้นแล้วยังขับเคลื่อนการเคลื่อนไหวของคนรากหญ้าในประเด็นความหลากหลายและการไม่แบ่งแยกอย่างจริงจังอีกด้วย"

"Jim Loree เป็นซีอีโอที่ขยันมีส่วนร่วมมาก... เขาสนับสนุนและมีส่วนร่วมในกลุ่มต่างๆ เกี่ยวกับแหล่งข้อมูลของพนักงานโดยใช้ Workplace ในการถ่ายทอดพฤติกรรมในเชิงบวก"

"Jim Loree เป็นซีอีโอที่ขยันมีส่วนร่วมมาก... เขาสนับสนุนและมีส่วนร่วมในกลุ่มต่างๆ เกี่ยวกับแหล่งข้อมูลของพนักงานโดยใช้ Workplace ในการถ่ายทอดพฤติกรรมในเชิงบวก"

นอกจากนั้นแล้ว Jim ยังได้เรียกร้องให้เหล่าผู้นำในกลุ่ม Fortune 500 ออกมาสนับสนุนประเด็นความหลากหลายและการไม่แบ่งแยก รวมถึงกระตุ้นให้คนเหล่านี้ลงมือทำมากยิ่งขึ้น

ปณิธานด้านความหลากหลายและการไม่แบ่งแยกของระดับผู้บริหารในครั้งนี้จึงก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ "การมีผู้นำที่เป็นแบบอย่างที่ดี ถือเป็นความฝันของผู้แสวงหาการเปลี่ยนแปลง"

Pradheepa กล่าวว่า ผู้นำและตัวแทนด้านการเปลี่ยนแปลงที่ Stanley Black & Decker ได้นำรากฐานที่แข็งแกร่งนี้มาใช้ด้วยการมีส่วนร่วมกับพนักงาน ขอให้ผู้นำนำเสนอการปรับปรุงในเรื่องความหลากหลายและการไม่แบ่งแยกที่สามารถวัดผลได้ ตลอดจนการขับเคลื่อนการสนทนาระดับโลกอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับวิธีสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เปิดกว้างมากที่สุด

ในขณะที่ Stanley Black & Decker มุ่งมั่นเดินหน้าตามเป้าหมายในการเป็นหนึ่งในบริษัทที่ล้ำสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก Pradheepa เองก็หวังว่าการใช้เทคโนโลยีต่างๆ อย่าง Workplace จะช่วยให้เราพร้อมเผชิญปัญหามากขึ้นและทลายอุปสรรคต่างๆ ได้

"เทคโนโลยีทำให้เราพร้อมเผชิญปัญหามากขึ้น ด้วยการสร้างความเคลื่อนไหวที่ยั่งยืนด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องอาศัยแรงขับเคลื่อนจากผู้บริหารเพียงอย่างเดียว วิธีนี้จะช่วยให้คุณได้รวบรวมไอเดียและแรงบันดาลใจจากทุกๆ คน"

"เทคโนโลยีทำให้เราพร้อมเผชิญปัญหามากขึ้น ด้วยการสร้างความเคลื่อนไหวที่ยั่งยืนด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องอาศัยแรงขับเคลื่อนจากผู้บริหารเพียงอย่างเดียว วิธีนี้จะช่วยให้คุณได้รวบรวมไอเดียและแรงบันดาลใจจากทุกๆ คน"

"เทคโนโลยีทำให้เราพร้อมเผชิญปัญหามากขึ้น ด้วยการสร้างความเคลื่อนไหวที่ยั่งยืนด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องอาศัยแรงขับเคลื่อนจากผู้บริหารเพียงอย่างเดียว วิธีนี้จะช่วยให้คุณได้รวบรวมไอเดียและแรงบันดาลใจจากทุกๆ คน"

เมื่อถามว่าเธอมีคำแนะนำอะไรที่อยากมอบให้กับผู้สนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคนอื่นๆ บ้าง

"คุณไม่จำเป็นต้องเป็นคนจุดประกายอยู่คนเดียว คุณสามารถหาแรงบันดาลใจจากคนในทีม เพื่อนของคุณ หรือเครือข่ายจากข้างนอกได้ ท้ายที่สุดนี้ การเลิกทำงานแบบตัวใครตัวมันและรับแรงบันดาลใจจากผู้คนรอบๆ ตัวเป็นสิ่งสำคัญมากๆ"

ขอขอบคุณ Pradheepa Raman จาก Stanley Black & Decker เป็นอย่างยิ่ง

บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่
ขอบคุณสำหรับความเห็นของคุณ

โพสต์ล่าสุด

การสื่อสารทางธุรกิจ | ใช้เวลาอ่าน 10 นาที

จัดการเอกสารได้อย่างง่ายดาย

การจัดการเอกสารทั้งหมดที่พนักงานจำเป็นต้องใช้ในการทำงานไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป ต่อไปนี้คือวิธีการใช้ Workplace และการผสานการทำงานของแพลตฟอร์มนี้เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าว

การสื่อสารทางธุรกิจ | ใช้เวลาอ่าน 10 นาที

วิดีโอแชทบน Workplace ช่วยให้ทีมต่างๆ วิดีโอคอลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้อย่างไร

ใช้วิดีโอคอลที่ความคมชัดระดับ HD เพียงแค่แตะปุ่มเดียว ก็เชื่อมต่อกับเพื่อนร่วมงานได้ทันทีสูงสุด 50 คน

การสื่อสารทางธุรกิจ | ใช้เวลาอ่าน 10 นาที

เส้นทางของ Workplace: Walmart

Joe Park หัวหน้าสถาปนิกฝ่ายดิจิทัลและรองประธานฝ่าย Associate Digital Experience ที่ Walmart ขึ้นเวทีในงาน Flow 2018 เพื่อเล่าสู่กันฟังว่า Walmart เสริมกำลังพันธมิตรทางธุรกิจด้วยเทคโนโลยีอย่าง Workplace เพื่อสร้างการเชื่อมต่อและชุมชนได้อย่างไร