วิธีสร้างความไว้วางใจในที่ทำงาน

แม้ว่าความไว้วางใจต่อรัฐบาลและสื่อจะลดน้อยลง แต่ความไว้วางใจในภาคธุรกิจกลับเพิ่มสูงขึ้น รายงาน Edelman Trust Barometer ประจำปี 2022 ซึ่งได้ทำการสำรวจใน 28 ประเทศเผยว่า ผู้คนมองว่าธุรกิจกำลังกลายเป็นพลังที่รวมสังคมให้เป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นนั้นแล้วองค์กรจะต่อยอดจากพลังนี้ทั้งภายในและภายนอกองค์กรได้อย่างไร

วัฒนธรรม | ใช้เวลาอ่าน 9 นาที
Trust in organizations

ความไว้วางใจเป็นองค์ประกอบที่สำคัญอย่างยิ่งของที่ทำงานที่ประสบความสำเร็จทุกแห่ง และความไว้วางใจจากสาธารณชนก็เป็นองค์ประกอบที่ทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จทุกราย ทว่าบางครั้งเราก็มักไม่ได้ให้ความสำคัญกับความไว้วางใจกันมากเท่าที่ควร

ในบทความนี้ เราจะมาดูประโยชน์ทั้งหลายของความไว้วางใจในที่ทำงาน เช่น การเพิ่มขึ้นของอัตราการทำงานร่วมกัน การสื่อสาร และการสร้างสรรค์นวัตกรรม ตลอดจนอัตราการทำงานต่อของพนักงานและการรักษาฐานลูกค้า นอกจากนี้ เราจะมาพูดคุยเกี่ยวกับวิธีที่ใช้ได้จริงที่ผู้นำสามารถทำให้ความไว้วางใจกลายมาเป็นค่านิยมหลักในที่ทำงานด้วย

ความสำคัญของความไว้วางใจในที่ทำงาน

ความสำคัญของความไว้วางใจในที่ทำงาน

บริษัททั่วโลกต่างประสบปัญหาในการสร้างสมดุลที่เหมาะสมระหว่างการส่งเสริมพนักงาน การให้ความสำคัญกับสุขภาวะของพนักงาน และการรักษาอัตราการมีส่วนร่วมให้สูงเข้าไว้ แต่จะเกิดอะไรขึ้นหากบริษัทขาดองค์ประกอบหลักไปสักอย่างหนึ่ง

การวิจัยโดย Harvard Business Review (HBR) เผยว่า พนักงานในบริษัทที่มีระดับความไว้วางใจสูงจะมีส่วนร่วมกับที่ทำงานมากกว่าถึง 76% เมื่อเทียบกับพนักงานที่อยู่ในสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีระดับความไว้วางใจต่ำ ยิ่งไปกว่านั้น พนักงานกลุ่มเดียวกันยังมีโอกาสเกิดภาวะหมดไฟลดลง 40% และบอกด้วยว่าตนรู้สึกเครียดน้อยลง 74%

ถ้าอย่างนั้นแล้ว 'ความไว้วางใจ' ในที่ทำงานคืออะไรกันแน่

ความไว้วางใจในที่ทำงานมักจะหมายถึงความเชื่อหรือความเชื่อมั่นที่พนักงานมีต่อบริษัทที่ตนกำลังทำงานอยู่ เปรียบได้กับสิ่งที่รับประกันว่านายจ้างของตนจะทำเพื่อประโยชน์สูงสุดของพนักงานและทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ เมื่อพนักงานไว้วางใจในตัวนายจ้าง พนักงานเหล่านั้นก็มีแนวโน้มที่จะมีทัศนคติที่ดีต่องานและบริษัท รวมถึงมีแนวโน้มที่จะรู้สึกได้รับแรงจูงใจ มีส่วนร่วม และมุ่งมั่นตั้งใจทำงานของตนอีกด้วย

แง่มุมบางส่วนของความไว้วางใจและการส่งเสริมพนักงานในที่ทำงานมีดังนี้

  • ความไว้วางใจในผู้นำ: การที่พนักงานมีความเชื่อมั่นในความสามารถด้านการตัดสินใจของผู้นำ และเชื่อว่าผู้นำคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดต่อองค์กรและพนักงานเป็นหลัก

  • ความไว้วางใจในการสื่อสาร: การที่พนักงานมีความเชื่อถือในความโปร่งใสและความเปิดเผยของการสื่อสารของบริษัท หากพนักงานเชื่อว่าการสื่อสารของบริษัทเป็นไปอย่างซื่อสัตย์และเปิดเผย พนักงานก็มีแนวโน้มที่จะไว้วางใจนายจ้างของตนมากขึ้น รายงานของ Edelman กล่าวว่า การสื่อสารจากนายจ้างถือเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือที่สุด ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ขององค์กรที่จะรักษาความเชื่อมั่นในการสื่อสารเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ

  • ความไว้วางใจในความมั่นคงของหน้าที่การงาน: สิ่งที่รับประกันว่าพนักงานจะมีความมั่นคงในหน้าที่การงานและจะไม่ถูกเลิกจ้างโดยไม่มีเหตุอันควร

  • ความไว้วางใจในค่านิยมของบริษัท: การที่พนักงานรู้สึกว่าค่านิยมและจริยธรรมของบริษัทสอดคล้องกับกับสิ่งที่ตนเองยึดถือ และการที่บริษัทมุ่งมั่นที่จะดำเนินงานอย่างมีจรรยาบรรณและมีความรับผิดชอบต่อสังคม นอกจากนี้ ค่านิยมยังส่งผลต่อการรักษาฐานลูกค้าและฐานนักลงทุนอย่างมากด้วย อันจะเห็นได้จากรายงาน Edelman Trust Barometer ซึ่งเผยว่า 60% ของผู้คนเลือกที่ทำงานจากค่านิยมและความเชื่อที่ตนยึดถือ และ 88% ของนักลงทุนสถาบันก็ให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล (ESG) มากพอๆ กับความรับผิดชอบด้านการเงินและการดำเนินงาน

แก้งานยุ่งได้ไม่ยากด้วย Workplace

ไม่ว่าคุณจะต้องการแจ้งให้ทุกคนทราบเกี่ยวกับการกลับสู่ที่ทำงาน หรือนำวิธีการทำงานแบบผสมผสานไปปรับใช้ Workplace ก็สามารถทำให้การทำงานเป็นเรื่องง่ายขึ้นได้

ประโยชน์ของการสร้างความไว้วางใจในที่ทำงาน

ประโยชน์ของการสร้างความไว้วางใจในที่ทำงาน

ความไว้วางใจเป็นสิ่งจำเป็นในที่ทำงาน เนื่องจากช่วยพัฒนาการสื่อสารของทั้งพนักงานและนายจ้าง การทำงานร่วมกัน และความเคารพซึ่งกันและกัน เมื่อพนักงานไว้วางใจในตัวเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชา พนักงานก็จะรู้สึกสบายใจมากขึ้นที่จะแชร์ความคิดและไอเดีย ซึ่งจะนำไปสู่การตัดสินใจและการแก้ปัญหาที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ความไว้วางใจยังช่วยส่งเสริมวัฒนธรรมที่ดีในการทำงาน กล่าวคือ ผู้คนจะรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าและได้รับการเคารพ ซึ่งจะก่อให้เกิดความพึงพอใจในงานที่ทำ มีแรงจูงใจมากขึ้น และส่งผลให้บริษัทมีระดับผลิตภาพและความสำเร็จที่สูงขึ้นในท้ายที่สุด

ประโยชน์ที่เห็นได้ชัดของการมีความไว้วางใจในที่ทำงานมีดังต่อไปนี้

สร้างขวัญกำลังใจ

เมื่อพนักงานรู้สึกไว้วางใจและได้รับการสนับสนุน พนักงานก็มีแนวโน้มที่จะมีทัศนคติที่ดีต่องานที่ทำและมีความภาคภูมิใจในงานของตนเอง ซึ่งจะส่งผลให้ทั้งองค์กรมีขวัญกำลังใจที่สูงขึ้นและอาจส่งแรงกระเพื่อมต่อผลิตภาพและประสิทธิภาพการทำงานได้ อันที่จริงแล้ว พนักงานและบริษัทที่ได้รับความไว้วางใจสูงได้รายงานให้เราฟังว่าตนมีแรงใจในการทำงานมากขึ้น 106% เมื่อเทียบกับผู้ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีความน่าเชื่อถือต่ำ

ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพนักงาน

ความไว้วางใจเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีและหนักแน่นระหว่างพนักงาน เมื่อสมาชิกในทีมมีความไว้วางใจกันในระดับสูง พวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะทำงานร่วมกันและสื่อสารกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนให้การสนับสนุนซึ่งกันและกันด้วย

เพิ่มการมีส่วนร่วม

พนักงานที่มีส่วนร่วมจะทุ่มเทในงานที่ตนทำมากขึ้น จดจ่อกับงานได้ดีขึ้น และมีแนวโน้มที่จะทำงานออกมาได้ดีกว่าที่คาดหวังไว้ อัตราการมีส่วนร่วมของพนักงานที่สูงสามารถส่งผลให้ผลิตภาพเพิ่มขึ้นได้ โดยพนักงานในบริษัทที่มีระดับความไว้วางใจสูงจะมีผลิตภาพสูงกว่าถึง 50% เมื่อเทียบกับพนักงานในบริษัทที่มีระดับความไว้วางใจต่ำ

ส่งเสริมการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ

ความไว้วางใจสามารถเป็นแรงกระตุ้นสำคัญในการส่งเสริมนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ได้ เพราะเมื่อสมาชิกในทีมไว้วางใจซึ่งกันและกัน พวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะแชร์ไอเดียและกล้าที่จะลองทำอะไรเสี่ยงๆ วิธีนี้จะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาโซลูชั่นใหม่และส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรม ซึ่งจะช่วยให้องค์กรริเริ่มทำสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอและกลายเป็นผู้นำในการแข่งขัน

อัตราการลาออกของพนักงานลดลง

เมื่อพนักงานรู้สึกว่าตนได้รับความไว้วางใจและมองเห็นคุณค่า พวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะทำงานต่อกับองค์กรไปในระยะยาว ซึ่งจะช่วยลดอัตราการลาออกที่อาจมีค่าใช้จ่ายสูงและส่งผลเสียต่อผลิตภาพและขวัญกำลังใจขององค์กร ข้อมูลจาก HBR แสดงให้เห็นว่าอัตราการลาออกในองค์กรที่มีความระดับความไว้วางใจสูงนั้นต่ำกว่าองค์กรที่มีระดับความไว้วางใจต่ำถึง 50%

วิธีสร้างความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความไว้วางใจในทีม

วิธีสร้างความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความไว้วางใจในทีม

การสร้างความไว้วางใจให้กับพนักงานไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ในชั่วข้ามคืน ในฐานะผู้นำหรือผู้จัดการ การสร้างวัฒนธรรมที่มีระดับความไว้วางใจสูงจะต้องอาศัยความมุมานะพยายาม ตลอดจนความเต็มใจที่จะเผยความอ่อนแอและให้ความโปร่งใสกับพนักงานของคุณ

เรามาดูกลยุทธ์สำคัญบางส่วนที่จะช่วยคุณเริ่มสร้างความไว้วางใจในที่ทำงานและรับประโยชน์สูงสุดจากทีมของคุณกัน

ส่งเสริมเรื่องการติดต่อสื่อสาร

การส่งเสริมให้เกิดการสื่อสารที่เปิดเผยและจริงใจระหว่างสมาชิกในทีมนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยสร้างความไว้วางใจในที่ทำงาน ในฐานะผู้จัดการ คุณควรสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและให้กำลังใจกัน ซึ่งจะช่วยให้สมาชิกในทีมรู้สึกสบายใจที่จะแชร์ไอเดียและบอกเล่าข้อกังวลของตน ให้หมั่นตั้งใจรับฟังสมาชิกในทีมและตอบกลับในลักษณะที่ไม่เป็นการวิพากษ์วิจารณ์รุนแรง รวมถึงคอยถามไถ่สมาชิกในทีมและขอความเห็นเป็นประจำ เพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นออกมา

มีความโปร่งใส

ความโปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความไว้วางใจในที่ทำงาน ในฐานะผู้จัดการ คุณควรมีความซื่อสัตย์และบอกให้สมาชิกในทีมทราบถึงเป้าหมาย อุปสรรค และกระบวนการตัดสินใจของบริษัทอย่างไม่ปิดบัง วิธีนี้จะช่วยส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งความไว้วางใจและความโปร่งใสภายในทีม และเมื่อเกิดข้อผิดพลาดขึ้น ให้แสดงความรับผิดชอบและพูดคุยอย่างเปิดเผยว่าจะแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้นได้อย่างไร

สร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงาน

การสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงานสามารถส่งผลต่อขวัญกำลังใจของทีมได้อย่างมากเลยทีเดียว ซึ่งก็จะช่วยสร้างความไว้วางใจระหว่างสมาชิกในทีมได้อีกต่อหนึ่ง คุณสามารถส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่ดีได้ด้วยการแสดงความขอบคุณเมื่อสมาชิกในทีมต้องทำงานอย่างหนัก มอบโอกาสที่จะเติบโตในสายอาชีพ และชื่นชมความสำเร็จของพวกเขา นอกจากนี้ คุณยังสามารถเสริมสร้างความสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงานที่ดีได้ด้วยการเปิดโอกาสสำหรับการทำงานที่ยืดหยุ่นและตรวจสอบว่าได้แจกจ่ายภาระงานให้ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน

จัดกิจกรรมเพื่อการสร้างทีมอย่างสม่ำเสมอ

กิจกรรมเพื่อการสร้างทีมสามารถช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในทีมและส่งเสริมความไว้วางใจได้ โดยกิจกรรมดังกล่าวอาจจะเป็นการรับประทานอาหารกลางวันร่วมกันเป็นทีมเล็กๆ ไปจนถึงการออกไปทำกิจกรรมนอกสถานที่ที่ต้องมีการวางแผนเป็นกิจจะลักษณะมากขึ้น พร้อมกระตุ้นให้ทีมของคุณมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อการสร้างทีม และดูให้แน่ใจว่ากิจกรรมนั้นสนุกสนานและเหมาะสำหรับทุกคน

มองเห็นคุณค่าที่พนักงานแต่ละคนมี

ในฐานะผู้จัดการ การให้ความสำคัญกับจุดแข็งและการมีส่วนร่วมของสมาชิกในทีมแต่ละคนนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่มองข้ามไปไม่ได้ ซึ่งหมายรวมถึงการตระหนักถึงความทุ่มเทของพนักงาน การให้คำติชมในทางที่ดี และการชื่นชมความสำเร็จของพวกเขา การทำเช่นนี้จะช่วยส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งการชมเชยและการเคารพ ซึ่งจะช่วยสร้างความไว้วางใจภายในทีมได้

ให้การสนับสนุนพนักงานของคุณ

การสนับสนุนพนักงานของคุณหมายรวมถึงการจัดหาแหล่งข้อมูลที่พวกเขาต้องใช้เพื่อที่จะประสบความสำเร็จทั้งในด้านอาชีพการงานและชีวิตส่วนตัว เช่น การมอบโอกาสในการฝึกอบรมและพัฒนา การจัดเตรียมสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงาน ตลอดจนการชื่นชมความสำเร็จของพนักงาน เมื่อสมาชิกในทีมของคุณรู้สึกว่าตนได้รับการสนับสนุน พวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะไว้วางใจในตัวผู้จัดการ ผู้นำ และองค์กรมากขึ้น

ทำตัวเป็นแบบอย่าง

ในฐานะผู้จัดการหรือผู้นำ คุณควรแสดงพฤติกรรมที่คุณคาดหวังที่จะเห็นจากคนในทีมเป็นตัวอย่าง กล่าวคือ แสดงออกถึงความรับผิดชอบ ความโปร่งใส และหมั่นสื่อสารอยู่เป็นประจำ หากคุณต้องการให้ทีมมีความซื่อสัตย์ โปร่งใส และสนับสนุนซึ่งกันและกัน คุณก็ต้องแสดงพฤติกรรมเหล่านี้เป็นแบบอย่างด้วยตัวเอง การทำตนเป็นแบบอย่างจะช่วยให้คุณสามารถสร้างแรงกระตุ้นให้ทีมทำตามคุณ ตลอดจนช่วยสร้างวัฒนธรรมแห่งความไว้วางใจและความภักดีในที่ทำงาน

อ่านต่อ

ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

เรียนรู้ว่าผู้นำด้านทรัพยากรบุคคลทั่วโลกสร้างวัฒนธรรมองค์กรได้อย่างไร

ดาวน์โหลดเลย

ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

ค้นพบข้อมูลอัพเดตล่าสุดเกี่ยวกับลูกค้าและพาร์ทเนอร์ในห้องข่าวบน Workplace

เรียนรู้เพิ่มเติม
บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่
ขอบคุณสำหรับความเห็นของคุณ

ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

เรียนรู้ว่าผู้นำด้านทรัพยากรบุคคลทั่วโลกสร้างวัฒนธรรมองค์กรได้อย่างไร

ดาวน์โหลดเลย

ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

ค้นพบข้อมูลอัพเดตล่าสุดเกี่ยวกับลูกค้าและพาร์ทเนอร์ในห้องข่าวบน Workplace

เรียนรู้เพิ่มเติม

โพสต์ล่าสุด

วัฒนธรรม | ใช้เวลาอ่าน 11 นาที

วัฒนธรรมในที่ทำงาน: วิธีสร้างวัฒนธรรมเชิงบวกและเพิ่มผลิตภาพ

วัฒนธรรมในที่ทำงานมีความสำคัญยิ่งขึ้นในโลกของการทำงานแบบผสมผสานและการทำงานจากทางไกล ร่วมหาคำตอบว่าวัฒนธรรมในที่ทำงานคืออะไรและคุณจะปรับปรุงวัฒนธรรมนี้ได้อย่างไร

วัฒนธรรม | ใช้เวลาอ่าน 8 นาที

ค่านิยมขององค์กรคืออะไร และเหตุใดจึงมีความสำคัญ

ค่านิยมขององค์กรสามารถชี้นำทิศทางแก่พนักงานและให้เหตุผลที่จะเชื่อมั่นแก่ลูกค้า เรามาดูวิธีพัฒนาและสื่อสารค่านิยมขององค์กรกัน

วัฒนธรรม | ใช้เวลาอ่าน 8 นาที

วัฒนธรรมองค์กร 4 ประเภท: แบบใดดีที่สุดสำหรับธุรกิจ

ตัวตนของธุรกิจเป็นการผสมผสานที่ไม่เหมือนใครของวัฒนธรรมต่างๆ ขององค์กร ดูว่าคุณจะค้นหาตัวตนของธุรกิจและใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของตัวตนนั้นได้อย่างไร