ระบบอัตโนมัติในที่ทำงาน
ระบบอัตโนมัติในที่ทำงานกำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการสื่อสารและทำงานร่วมกันของเรา คำถามคือ องค์กรจะปรับวัฒนธรรมการทำงานให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงนี้ได้อย่างไร
![](https://static.xx.fbcdn.net/rsrc.php/v3/y4/r/-PAXP-deijE.gif)
![automation culture - Workplace from Meta](https://scontent-ord5-2.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/43040652_331290454096995_8075856762202226688_n.jpg?_nc_cat=100&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=a7f2wRTAUNMQ7kNvgGXX-BO&_nc_ht=scontent-ord5-2.xx&oh=00_AYCzA-D8An_IwFE_jme5l-_v4nv7Zzi5k9c8ZFmADl95xg&oe=66AA4A74)
การสร้างสถานที่ทำงานให้เหมาะสมกับอนาคตนั้นเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมในที่ทำงานมากพอๆ กับเทคโนโลยี ธุรกิจจึงต้องเตรียมสภาพแวดล้อมให้พร้อมเพื่อให้มนุษย์และเครื่องจักรสามารถทำงานร่วมกันได้
ในขณะที่ระบบอัตโนมัติทำให้การทำงานเป็นเรื่องง่ายขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งช่วยให้ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย คุณเองก็สามารถโอบรับระบบอัตโนมัติได้ด้วยการสร้างวัฒนธรรมที่ยืดหยุ่นและร่วมมือกัน
แก้งานยุ่งได้ไม่ยากด้วย Workplace
ไม่ว่าคุณจะต้องการแจ้งให้ทุกคนทราบเกี่ยวกับการกลับสู่ที่ทำงาน หรือนำวิธีการทำงานแบบผสมผสานไปปรับใช้ Workplace ก็สามารถทำให้การทำงานเป็นเรื่องง่ายขึ้นได้
![](https://scontent-ord5-2.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/241657427_830327301017600_1962560683684295026_n.jpg?_nc_cat=103&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=d_lQtbn8j4kQ7kNvgGU5D3n&_nc_ht=scontent-ord5-2.xx&oh=00_AYD0L9B-Kiq67x87TMOgl83qljMNkpg9aYKPtNxX9_zPJw&oe=66AA5051)
![](https://scontent-ord5-2.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/241700087_402134681493763_6402224727821764861_n.jpg?_nc_cat=102&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=Q0z5RifsOagQ7kNvgEryqV9&_nc_ht=scontent-ord5-2.xx&oh=00_AYCvLgJO0mSKcKDLc1ihPXMqAndDoKTlO0zJeF58Pp_QTQ&oe=66AA5458)
![](https://scontent-ord5-1.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/241221457_908577796409130_6487958369880006678_n.jpg?_nc_cat=111&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=KMDLplXRTc8Q7kNvgHPOAg3&_nc_ht=scontent-ord5-1.xx&oh=00_AYAzX6-alcs2Sd2B_kkrwz-KN-H-XmLpX5sT_WP8d7LYnA&oe=66AA2C9C)
![](https://scontent-ord5-1.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/241625011_538813510723750_6067052383644802717_n.jpg?_nc_cat=108&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=ipO-OFAm9YwQ7kNvgFeGIrY&_nc_ht=scontent-ord5-1.xx&oh=00_AYBXpwG1cSt7ri8AVm5afNF1mshN7ZzP9V8eqtBaFFzX3w&oe=66AA4D40)
![](https://scontent-ord5-1.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/241639311_391950989102429_5023017423346854138_n.jpg?_nc_cat=108&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=Sz1KtrjEdmUQ7kNvgEhIcQB&_nc_ht=scontent-ord5-1.xx&oh=00_AYAjhntHzDomchHYKFZ8K753P30CBIxPbiNSpLwJR58_Iw&oe=66AA5BC3)
![](https://scontent-ord5-2.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/241680920_332122231999515_373331672225401460_n.jpg?_nc_cat=104&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=bGQ_GJfIxI0Q7kNvgHbGanD&_nc_ht=scontent-ord5-2.xx&oh=00_AYDJuspSrS8bQ_w6MXCnuEZBFfMHLMY17JXJmDsfCYBwfw&oe=66AA5546)
![](https://scontent-ord5-2.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/241256790_921023931957750_1265904103262126731_n.jpg?_nc_cat=103&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=UG9yCIjaCJsQ7kNvgGFsRT6&_nc_ht=scontent-ord5-2.xx&oh=00_AYA1PUA7TwpyeACXzYJjI_TWM90gY09SK5nN_5X2hD_OUg&oe=66AA4BF2)
![](https://scontent-ord5-1.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/241676153_587765818908517_6915274023430930059_n.jpg?_nc_cat=108&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=pmnzfo5eeGIQ7kNvgECyD1Q&_nc_ht=scontent-ord5-1.xx&oh=00_AYB2jvrG4sVhHiSJNPxftFgCs2Y-1WII0Ed02gDdFHypKA&oe=66AA357C)
![](https://scontent-ord5-2.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/241698027_372910177816075_3542654260261704366_n.jpg?_nc_cat=105&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=iOwtr5d85ycQ7kNvgGhHLvY&_nc_ht=scontent-ord5-2.xx&oh=00_AYDOXK3Fzou3yAbgxH-PKpYU89J95hLe5dRR0Wh_InGa4A&oe=66AA3835)
ผลกระทบเชิงบวกของระบบอัตโนมัติ
ระบบอัตโนมัติในที่ทำงานมีประโยชน์หลากหลายประการ ซึ่งประกอบด้วย
ลดปริมาณงานประจำวันอันน่าเบื่อ เปิดโอกาสให้พนักงานได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น
งานที่ใช้ระบบอัตโนมัติทำแทนได้ยากจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นและเป็นที่นิยมมากขึ้น
เพิ่มผลิตภาพ โดยข้อมูลจาก Salesforce พบว่าผู้ที่ใช้ระบบอัตโนมัติมากกว่า 74% กล่าวว่า การใช้เครื่องมืออัตโนมัติช่วยให้ตนทำงานเสร็จเร็วขึ้น
สร้างงานในรูปแบบอื่นๆ เพื่อตอบสนองความต้องการใหม่ๆ ที่ต่างไปจากเดิม
ผลกระทบเชิงลบของระบบอัตโนมัติ
สถานที่ทำงานอาจให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวาน้อยลง จนนำไปสู่ภาวะเครียดและการลาออกของพนักงานอย่างฉับพลันได้
พนักงานอาจกลัวว่าตนจะตกงาน ส่งผลให้ไม่มีความสุขและมีผลิตภาพน้อยลง
พนักงานที่พัฒนาทักษะไม่สำเร็จอาจถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
ถ้าอย่างนั้นแล้ว บริษัทจะทำอย่างไรได้บ้างเพื่อให้มั่นใจว่าระบบอัตโนมัติจะสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อพนักงานและองค์กร
6 วิธียกระดับผลลัพธ์ของระบบอัตโนมัติ
ระบบอัตโนมัติช่วยให้งานสำเร็จลุล่วงได้เร็วขึ้น ทำให้งานชิ้นอื่นๆ มีความแม่นยำกว่าเดิม และทำงานที่ยุ่งยากทั้งหลายแทนมนุษย์ได้ อย่างไรก็ดี องค์กรก็จำเป็นต้องลงมือทำสิ่งต่างๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ในเชิงบวกจากระบบอัตโนมัติด้วยเช่นกัน เรามาดูเคล็ดลับต่อไปนี้กัน
1. ปรับเปลี่ยนแนวคิดของพนักงาน
คนเรามักต่อต้านการเปลี่ยนแปลง และหลายคนก็กลัวว่าหุ่นยนต์จะเข้ามาแทนที่ตนในอีกไม่ช้า คำถามคือ ความกลัวเหล่านี้เป็นไปได้จริงมากน้อยเพียงใด รายงานจาก PwC ที่จัดทำขึ้นสำหรับรัฐบาลสหราชอาณาจักรประมาณการไว้ว่า งานต่างๆ ในสหราชอาณาจักรราว 7% มีโอกาสสูงที่จะเผชิญกับการเข้ามาแทนที่ของระบบอัตโนมัติภายในปี 2025 ขณะที่ McKinsey กล่าวว่าเกือบทุกอาชีพต่างก็มีโอกาสที่จะถูกระบบอัตโนมัติเข้ามาแทนที่มนุษย์ในบางส่วน
ระบบอัตโนมัติไม่ได้ส่งผลกระทบต่อกลุ่มคนที่อยู่ในส่วนฐานของพีระมิดเพียงอย่างเดียว McKinsey ประเมินว่า "เราสามารถให้ระบบอัตโนมัติดำเนินกิจกรรมที่กินเวลาทำงานของซีอีโอมากกว่า 20% แทนโดยใช้เทคโนโลยีปัจจุบันได้" การเห็นชอบและการเปลี่ยนแปลงจึงต้องมาจากผู้ที่อยู่บนส่วนยอดของพีระมิดด้วย
องค์กรสามารถมองวิธีการนำเสนอระบบอัตโนมัติอย่างถูกต้องว่าเป็นโอกาสที่บุคลากรจะได้ทำงานร่วมกับเครื่องจักร แทนที่จะทำงานแข่งกันได้ เพราะฉะนั้นแล้ว การบ่มเพาะแนวคิดในเชิงบวกเกี่ยวกับระบบอัตโนมัติจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อที่ทำงานของคุณประกอบไปด้วยพนักงานหลากหลายช่วงวัย เพราะคนแต่ละช่วงวัยต่างก็มีความคาดหวังและวิธีการทำงานที่ไม่เหมือนกัน
หากระบบอัตโนมัติในที่ทำงานสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพของงานทั่วไปให้ดีขึ้นได้ เช่น การคำนวณเงินเดือน หรือการเตรียมความพร้อมให้กับพนักงานใหม่ คุณก็ควรให้ระบบอัตโนมัติทำงานเหล่านั้นต่อไป เพื่อให้พนักงานมีเวลามากขึ้นในการทำงานที่ระบบอัตโนมัติทำไม่ได้ เช่น งานที่อาศัยการตัดสินใจ ความเชี่ยวชาญ และความฉลาดทางอารมณ์ของมนุษย์
ระบบอัตโนมัติยังช่วยให้การทำงานสนุกขึ้น เนื่องจากช่วยลดความซ้ำซากจำเจบางส่วนจากการทำงานในแต่ละวันลง ตลอดจนมอบประสบการณ์โดยรวมที่ดีขึ้นให้กับทั้งพนักงานและลูกค้าอีกด้วย
2. ผลักดันให้เกิดความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น
เครื่องจักรจัดการสิ่งที่ไม่ซับซ้อนได้ดี แต่ก็ไม่ได้ดีเสมอไปเมื่อนำมาใช้กับงานด้านไอเดียและนวัตกรรม ตัวอย่างเช่น ระบบอัตโนมัติอาจประเมินสินเชื่อแบบมาตรฐานได้ ช่วยให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสินเชื่อมีเวลาตรวจสอบกรณีที่เฉพาะเจาะจงได้อย่างละเอียดถี่ถ้วนกว่าเดิม หรือได้ใช้เวลามากขึ้นกับการรับฟังและการให้คำแนะนำแก่ผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้า
ระบบอัตโนมัติจึงช่วยให้พนักงานของคุณมีสมาธิจดจ่อกับการใช้ความคิดสร้างสรรค์หรือพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ทำให้มีเวลาคิดนอกกรอบและทำงานร่วมกันในโปรเจ็กต์ที่น่าสนใจมากกว่าแต่ก่อน และที่สำคัญคือสามารถคิดค้นวิธีใหม่ๆ ที่ทำให้ใช้ปัญญาประดิษฐ์ให้เกิดประโยชน์ยิ่งขึ้น
ระบบอัตโนมัติยังมีประสิทธิภาพไม่เทียบเท่ามนุษย์ในงานที่เกี่ยวข้องกับความฉลาดทางอารมณ์ การจัดการผู้คน การนำความเชี่ยวชาญไปปรับใช้ หรืองานที่ต้องมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ระบบอัตโนมัติอาจช่วยให้คุณค้นหาผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้าได้มากขึ้น แต่คุณก็อาจยังต้องมีพนักงานขายที่เชี่ยวชาญ อ่านแนวทางของคนที่มีโอกาสเป็นผู้ซื้อออก และสามารถรับมือกับข้อโต้แย้งที่อาจเกิดขึ้นได้เพื่อปิดการขาย
สถานที่ทำงานในอนาคตจะเน้นไปที่การทำงานเป็นทีมและการคิดหาโอกาสมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นที่สิ่งมนุษย์ทำได้ดี
3. เปิดรับกระแส 'ทีมงานที่คล่องตัว'
เมื่องานต่างๆ สามารถดำเนินการโดยระบบอัตโนมัติได้มากขึ้น องค์กรก็จะต้องการทีมพนักงานที่มีความคล่องตัวและยืดหยุ่น ซึ่งอาจต้องมีการว่าจ้างพนักงานสัญญาจ้างหรือฟรีแลนซ์มากกว่าเดิม ทีมงานที่คล่องตัวคือผู้ที่ปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้อย่างรวดเร็วและก้าวทันความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
คุณสามารถเติมเต็มความรู้ส่วนที่ขาดหายไปได้โดยใช้พนักงานชั่วคราว ซึ่งจะส่งต่อองค์ความรู้และประสบการณ์ให้กับเพื่อนร่วมงานของตน นอกจากนี้ พนักงานที่มีความคล่องตัวยังมาพร้อมมุมมองจากภายนอกและโซลูชั่นที่ตนเคยเห็นแล้วว่าใช้ได้ผลจริงจากที่อื่นๆ
องค์กรที่มีความคล่องตัวประสบความสำเร็จจากการที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างรวดเร็ว จนทิ้งธุรกิจที่เอื่อยเฉื่อยกว่าไว้ข้างหลัง
ระบบอัตโนมัติในที่ทำงานยังมอบโอกาสให้ผู้คนได้เพิ่มพูนทักษะผ่านวิดีโอและสัมมนาออนไลน์ รวมถึงในเมตาเวิร์ส
4. ส่งเสริมความหลากหลาย
การมีพนักงานที่หลากหลายนำมาซึ่งวิธีคิดหรือประสบการณ์ชีวิตซึ่งเกี่ยวข้องกับปัญหาทั้งหลายที่แตกต่างกันไป จนเกิดเป็นไอเดียและโซลูชั่นใหม่ๆ การคิดจากหลายแง่มุมจึงช่วยกระตุ้นให้เกิดไอเดียเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ ตลาดที่ไม่เคยลองมาก่อน ตลอดจนวิธีการทำงานแบบใหม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อระบบอัตโนมัติเปิดพื้นที่ให้คนเราได้สร้างสรรค์
ความหลากหลายจำเป็นต้องเป็นแกนหลักของโปรเจ็กต์ที่เกี่ยวข้องกับ AI หรือระบบอัตโนมัติต่างๆ ด้วยเช่นกัน เพราะเราทุกคนต่างก็เคยเห็นหรือรับรู้เกี่ยวกับกรณีต่างๆ ที่โมเดลที่ถูกนำมาฝึกระบบ AI มีข้อมูลที่หลากหลายน้อยเกินไป จนส่งผลให้ผลลัพธ์ที่ได้นั้นเบี่ยงเบนออกไป
5. สร้างความมุ่งมั่นในการทำงานเป็นทีม
ในยุคของระบบอัตโนมัตินี้ ทุกคนไม่จำเป็นต้องทำงานในสำนักงานเดียวกันอีกต่อไป แต่การทำให้พนักงานรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของทีมก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญอยู่
ความมุ่งมั่นในการทำงานเป็นทีมมีบทบาทอย่างยิ่งต่อองค์กรที่กำลังก้าวข้ามความเปลี่ยนแปลง ซึ่งรวมถึงการนำระบบอัตโนมัติมาใช้มากขึ้น การที่ทุกคนต่างเห็นพ้องไปในทางเดียวกันและเห็นประโยชน์ของการทำงานด้วยวิธีใหม่ๆ แทนที่จะต่อต้านการเปลี่ยนแปลงคือกุญแจสู่ความสำเร็จ
แพลตฟอร์มการทำงานร่วมกันอย่าง Workplace ช่วยให้ผู้คนที่ทำงานในสาขาวิชาและพื้นที่ที่ต่างกันสามารถสื่อสารกันได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วยเครื่องมือออนไลน์ต่างๆ เช่น วิดีโอแชทและการส่งข้อความด่วน
คุณสามารถปลุกความมุ่งมั่นในการทำงานเป็นทีมและทำให้ทีมทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพได้ง่ายๆ ในสองขั้นตอน หนึ่งคือการเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้คนโดยการมอบเครื่องมือที่เหมาะสม และสองคือการให้ระบบอัตโนมัติทำงานที่ซ้ำซากจำเจแทน เพื่อให้พนักงานได้มีเวลาทำงานที่ตนถนัดเยอะขึ้น
6. พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
พนักงานไม่ได้คาดหวังว่าตัวเองจะต้องทำงานเดิมๆ ในตำแหน่งเดียวเป็นเวลา 10 หรือ 20 ปีอีกต่อไปแล้ว คนยุคมิลเลนเนียลและโดยเฉพาะคน Gen Z ต่างได้รับการขนานนามว่าเป็นคนที่ชอบย้ายงาน โดยคนยุคมิลเลนเนียลจะทำงานที่เดิมเป็นเวลาเฉลี่ยเพียง 2.8 ปีเท่านั้น ธุรกิจและทีมจึงต้องตื่นตัวและคอยปรับเปลี่ยนแนวทางเพื่อคงความสดใหม่ท่ามกลางโลกที่ก้าวไปอย่างรวดเร็วนี้
บริษัทที่เปิดโอกาสให้พนักงานได้เพิ่มพูนทักษะผ่านการฝึกอบรม การชี้แนะ และการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์การทำงานจริงจะกลายเป็นบริษัทที่ใครๆ ต่างก็อยากทำงานด้วย ทั้งยังดึงดูดคนที่มีความสามารถมากที่สุด จนทำให้รักษาความได้เปรียบในการแข่งขันไว้ได้
ผู้บริหารเองก็จำเป็นต้องเพิ่มพูนความเชี่ยวชาญ เพราะมีโอกาสอย่างมากที่ระบบอัตโนมัติจะเข้าไปอยู่ในภาคธุรกิจต่างๆ ทักษะที่จะเป็นตัวตัดสินจึงเป็นการทำความเข้าใจว่าระบบอัตโนมัติใดจะมีศักยภาพและให้คุณค่าในระยะยาวมากที่สุด และด้วยความที่ปัจจัยหลายๆ ด้านของธุรกิจต่างก็แข่งขันกันเพื่อให้ได้เงินลงทุน การตัดสินใจจึงไม่ได้ตรงไปตรงมาหรือเป็นเรื่องง่ายเสมอไป ดังนั้น ความเข้าใจในประเด็นต่างๆ และคุณค่าของระบบอัตโนมัติจะกลายเป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจที่ถูกต้องเหมาะสม
ซึ่งหมายถึงการบ่มเพาะวัฒนธรรมการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาและการปฏิวัติบทบาทหน้าที่จากโครงสร้างส่วนล่างสุดไปยังบนสุดขององค์กร