5 กลยุทธ์ที่ได้รับการพิสูจน์สำหรับการพัฒนาทักษะให้กับพนักงานของคุณ

การพัฒนาทักษะของพนักงานอาจเป็นคำตอบสำหรับความท้าทายเรื่องความสามารถของพนักงานที่องค์กรต่างๆ ต้องเผชิญ เรามาดูประโยชน์ของการช่วยให้พนักงานพัฒนาตนเองและวิธีการพัฒนาทักษะและฝึกฝนทักษะใหม่ให้กับคนเหล่านี้กัน

อนาคตของการทำงาน | ใช้เวลาอ่าน 5 นาที
How to upskill and reskill your employees?

มีอยู่ช่วงหนึ่งที่พนักงานเลือกเส้นทางอาชีพเพียงเส้นทางเดียวและยึดติดอยู่กับเส้นทางนั้น แต่ในปัจจุบัน การทำงานหลากหลายอาชีพได้กลายเป็นเรื่องปกติ ซึ่งการพัฒนาและเพิ่มทักษะใหม่เพื่อบทบาทต่างๆ ถือเป็นรูปแบบการพัฒนาที่มีคุณค่า ต่อไปนี้คือวิธีเตรียมพนักงานของคุณให้พร้อมสำหรับอนาคตแห่งการทำงานที่ต้องอาศัยทักษะอันหลากหลาย

tbc

ทำไมต้องพัฒนาทักษะให้กับพนักงาน

เมื่อโลกต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาวะรูปแบบใหม่ องค์กรต่างๆ จึงได้ทบทวนแนวทางปฏิบัติทางธุรกิจที่กลายเป็นเรื่องล้าสมัยโดยไม่ทันได้ตั้งตัว และในขณะที่บริษัทต่างๆ กำลังประเมินสถานการณ์และพิจารณาทางเลือกใหม่ๆ พนักงานก็ทำเช่นเดียวกัน เราจำเป็นต้องเตรียมบุคลากรให้พร้อมรับอนาคตที่มีความยืดหยุ่นและเปลี่ยนแปลงรวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา

ที่ทำงานแบบไฮบริด การเพิ่มขึ้นของ AI และไลฟ์สไตล์แบบดิจิทัล การตระหนักรู้เกี่ยวกับสภาพอากาศ และความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยที่กำหนดรูปแบบของการจ้างงาน ยิ่งไปกว่านั้น เราได้เรียนรู้จากประสบการณ์ว่า การเปลี่ยนแปลงสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เราต้องเตรียมตัวให้พร้อมไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม

การพัฒนาทักษะหรือการเพิ่มทักษะใหม่ให้กับพนักงานเป็นวิธีหนึ่งในการเตรียมพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนและสร้างความสามารถในการฟื้นฟูให้กับธุรกิจของคุณ และเนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในทรัพยากรที่คุณมีอยู่แทนที่จะเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่ต้น สิ่งนี้จึงเป็นตัวเลือกที่หลายบริษัทยอมรับอย่างเต็มใจ

ในรายงานการศึกษาเกี่ยวกับการทำงานประจำปี 2022 ของ LinkedIn Learning พบว่า 46% ของผู้นำฝ่าย L&D กล่าวว่า การพัฒนาทักษะและการเพิ่มทักษะใหม่เป็นสิ่งสำคัญสูงสุด1 รายงานจาก Computer and Technology Industry Association ก็ให้ข้อมูลในทำนองเดียวกัน โดยระบุว่า 7 ใน 10 ของผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรบุคคลให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะและการเพิ่มทักษะใหม่มากขึ้นในปีข้างหน้า2

รับชมวิดีโอ

รับชมวิดีโอ

Jennifer McClure เป็นผู้ประกอบการ วิทยากรหลัก และโค้ชผู้พัฒนาประสิทธิการทำงาน อีกทั้งยังเป็นอินฟลูเอ็นเซอร์ระดับโลกที่ได้รับการยอมรับในด้านอนาคตแห่งการทำงาน ลองฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาทักษะ การเพิ่มทักษะใหม่ และด้านอื่นๆ จากเธอดูสิ รับชมการสัมภาษณ์ฉบับเต็มที่ด้านล่างหรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ความท้าทายในการรักษาพนักงานไว้กับองค์กร

ความท้าทายในการรักษาพนักงานไว้กับองค์กร

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นช่วงเวลาที่มีการโยกย้ายพนักงานในระดับที่สูง จากเหตุการณ์การลาออกครั้งใหญ่ ทำให้เราได้เห็นว่ายังมีคนจำนวนมากที่เคยตะลึงงันจากความไม่แน่นอนได้รับการสนับสนุนให้กลับมาต่อสู้เพื่ออาชีพที่ตนใฝ่ฝันหรือทำไม่สำเร็จมาก่อน และมีนายจ้างที่มีวัฒนธรรมบริษัทที่ได้พัฒนาแล้วและมีประสบการณ์ของพนักงานที่ดีกว่า

การรักษาพนักงานไว้กับองค์กรได้กลายเป็นความท้าทายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเนื่องจากมีผู้สมัครงานที่มีมูลค่าสูงจำนวนมากในตลาดงาน นายจ้างจึงต้องแข่งขันกันสร้างความแตกต่างเท่าที่ทำได้เพื่อให้ได้มาซึ่งบุคลากรที่ดีที่สุด การเพิ่มสิทธิประโยชน์และสวัสดิการอาจเป็นสิ่งที่ไม่เพียงพออีกต่อไป

นายจ้างชั้นนำกำลังศึกษาอย่างเจาะลึกเพื่อสร้างและบ่มเพาะให้เกิดสถานที่ทำงานที่มีความหมายและสามารถเติมเต็ม ซึ่งได้รับการขับเคลื่อนด้วยคุณค่าที่ไม่ใช่แค่ผลกำไร เพื่อสรรหาบุคคลที่มีความหลงใหลและให้ความสำคัญในสิ่งที่สอดคล้องกับอนาคตแห่งการทำงานของตน

พนักงานกำลังเปลี่ยนบริษัทและสำรวจเส้นทางต่างๆ ได้อย่างอิสระ แต่ไม่ใช่แค่เพียงการแย่งกันเพื่อชิงตำแหน่งเหมือนเก้าอี้ดนตรีเท่านั้น ตำแหน่งงานว่างและทักษะที่จำเป็นก็เปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน

เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่เกิดขึ้นในธรรมชาติของการทำงาน ซึ่งทำให้ประเภทของการจ้างงานเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง และทำให้การจ้างงานประเภทอื่นลดลงหรือถูกกลืนหายไปเลย แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงจะคงที่ แต่ความเร็วในการเปลี่ยนแปลงกลับเพิ่มขึ้นตลอดเวลา รูปแบบการฝึกอบรมและการพัฒนาแบบเก่าไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการในตลาดแรงงานที่พัฒนาไปข้างหน้า จึงทำให้ช่องว่างทางทักษะเป็นประเด็นปัญหาสำคัญ

เส้นทางสู่ออฟฟิศไร้พรมแดน

ค้นพบวิธีการและสาเหตุที่ทำให้เราสามารถทำงานอย่างเต็มความสามารถได้จากทุกที่ภายในโลกของเมตาเวิร์ส

ประโยชน์ของการพัฒนาทักษะให้กับพนักงาน

ประโยชน์ของการพัฒนาทักษะให้กับพนักงาน

แล้วคุณจะอุดช่องว่างทางทักษะดังกล่าวอย่างไร และทำไมคุณต้องกังวลในเรื่องนี้ ต่อไปนี้เป็นประโยชน์ 5 ประการในการพัฒนาทักษะให้กับพนักงานของคุณ

  1. แบ่งขอบเขตระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว

    ช่องว่างทางทักษะเป็นข้อควรกังวลที่สำคัญ แม้แต่ก่อนช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปี 2019 รายงานของ Korn Ferry ได้คาดการณ์ไว้ว่า ช่องว่างทางทักษะจะทำให้ธุรกิจต้องเสียค่าใช้จ่าย 8.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2030

    การพัฒนาทักษะของพนักงานทำให้คุณสามารถเพิ่มความสามารถใหม่ให้กับการผสมผสานทักษะที่คุณมีผ่านพนักงานที่มีอยู่ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์จากการเตรียมความพร้อมในการทำงานและบูรณาการเข้ากับวัฒนธรรมบริษัทของคุณอย่างเต็มที่อยู่แล้ว

  2. การรักษาพนักงานไว้กับองค์กร

    การลาออกที่ไม่พึงประสงค์ไม่เพียงแต่มีราคาแพงเท่านั้น ปัญหานี้ยังเป็นการรบกวนพลวัตของทีมและอาจปล่อยให้ตำแหน่งงานว่างเป็นเวลานาน ทำให้เกิดความเครียดในเรื่องที่ไม่ควรเครียดมากที่สุด พนักงานมูลค่าสูงที่ลาออกไปอาจนำข้อได้เปรียบที่ไม่สามารถทดแทนกันได้ติดตัวไปด้วย เช่น การเชื่อมโยงกันในอุตสาหกรรมและความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับลูกค้า

    ด้วยโปรแกรมการเรียนรู้และการพัฒนาที่มีคุณภาพสูงที่ช่วยพัฒนาทักษะให้กับพนักงานของคุณ ทำให้คุณมีความพร้อมที่ดีขึ้นในการรักษาพนักงานดาวเด่นไว้ด้วยการสร้างความท้าทายและแรงบันดาลใจให้พวกเขาก้าวหน้าในบริษัท

  3. การมีส่วนร่วมของพนักงาน

    เอกสารมากมายระบุว่า การมีส่วนร่วมของพนักงานให้ประโยชน์ทางธุรกิจในทุกด้าน แต่ในปี 2021 ระดับการมีส่วนร่วมกลับลดลงเป็นครั้งแรกในช่วง 10 ปี ทำให้การมีส่วนร่วมในการทำงานลดลงเหลือ 36% โชคดีที่การพัฒนาและการฝึกฝนสามารถปรับปรุงการมีส่วนร่วมของพนักงานของคุณได้อย่างชัดเจน รวมทั้งทำให้พนักงานมีทักษะและความสามารถมากขึ้นสำหรับการทำงานในอนาคต

  4. ประหยัดค่าใช้จ่ายในการสรรหาบุคลากร

    การจ้างพนักงานใหม่มีค่าใช้จ่ายมากกว่าการรักษาพนักงานเก่า SHRM ระบุว่าต้นทุนต่อการจ้างงานโดยเฉลี่ยมีมูลค่า 4,700 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ซึ่งอาจจะเพิ่มขึ้นไปถึง 4 เท่าของเงินเดือนในตำแหน่งนั้นๆ

    หากความจำเป็นในการรับพนักงานใหม่เกิดขึ้นจากช่องว่างทางทักษะแทนที่จะเกิดจากการเติบโตของธุรกิจ การพัฒนาทักษะและการเพิ่มทักษะใหม่อาจเป็นการลงทุนที่ดีกว่าการเพิ่มพนักงานใหม่ก็ได้

  5. ปรับปรุงภาพลักษณ์ของนายจ้าง

    เมื่อมองหาสถานที่ทำงานใหม่ พนักงานจะพิจารณาจากปัจจัยหลายอย่าง ตั้งแต่รายละเอียดที่จับต้องได้จริง เช่น ความสะดวกในการเดินทางหรือคุณภาพของเทคโนโลยี ไปจนถึงคำถามในระดับลึก เช่น ค่านิยมของบริษัทสอดคล้องกับค่านิยมของตนหรือไม่

    Gallup พบว่าคนยุคมิลเลนเนียล 59% กล่าวว่า โอกาสในการเรียนรู้และเติบโตเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับตนเมื่อต้องสมัครงาน3 การให้การสนับสนุนสำหรับพัฒนาทักษะและเพิ่มทักษะใหม่เป็นคุณสมบัติที่น่าสนใจสำหรับว่าที่พนักงาน เนื่องจากพวกเขาจะได้รับประโยชน์จากการพัฒนาตัวเองและคุณวุฒิทางวิชาชีพมากเท่าที่คุณต้องการ

สำรวจข้อมูลที่เจาะลึกมากขึ้น รับชม Jennifer McClure พูดคุยเกี่ยวกับความจำเป็นที่ผู้นำต้องมีความสร้างสรรค์เมื่อคิดถึงความท้าทายทางทักษะสำหรับอนาคต

การเพิ่มทักษะใหม่และการพัฒนาทักษะแตกต่างกันอย่างไร

การเพิ่มทักษะใหม่และการพัฒนาทักษะแตกต่างกันอย่างไร

  • การพัฒนาทักษะ

    การพัฒนาทักษะ คือการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องที่ต่อยอดจากทักษะที่มีอยู่แล้ว โดยมุ่งหวังให้พนักงานมีความก้าวหน้าในสายงานปัจจุบัน ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับคุณวุฒิทางวิชาชีพหรือการฝึกอบรมด้านการจัดการ

  • การเพิ่มทักษะใหม่

    การเพิ่มทักษะใหม่ หมายถึงการเตรียมพนักงานให้พร้อมรับงานประเภทอื่นที่ไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะเฉพาะทางที่มีอยู่ แม้ว่าจะเป็นทักษะด้านอารมณ์ก็ตาม

การพัฒนาทักษะอาจถูกมองว่าเป็นรูปแบบการฝึกอบรมและการพัฒนาที่ดูเก่ากว่า เนื่องจากมีความสอดคล้องกับรูปแบบการเติบโตในสายอาชีพที่พนักงานก้าวหน้าไปตามเส้นทางอาชีพที่กำหนดไว้

ส่วนการเพิ่มทักษะใหม่เป็นสิ่งที่พนักงานจะได้เริ่มต้นจากศูนย์ในทีมหรือแผนกใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นรูปแบบการพัฒนาที่ใหม่กว่า แต่ก็ไม่ได้มีความสำคัญน้อยกว่าแต่อย่างใด The World Economic Forum รายงานว่า ภายในปี 2025 พนักงานจำนวน 50% จะต้องได้รับการพัฒนาทักษะ ผลการวิจัยประจำปี 2021 ของ PwC แสดงให้เห็นว่า พนักงานจำนวนมากถึง 39% คิดว่างานของตนจะตกยุคภายในอีก 5 ปี

ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนการคาดการณ์เหล่านี้ คือความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่เป็นตัวกำหนดทิศทางเทรนด์ของอนาคตแห่งการทำงานมากมาย WE Forum พบว่า งานที่สามารถดำเนินการโดยอัตโนมัติ เช่น การป้อนข้อมูล การทำบัญชี และการผลิตแบบสายการประกอบในโรงงาน กำลังจะกลายเป็นหน้าที่ของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์

ในขณะเดียวกัน ความเติบโตทางเทคโนโลยีทำให้เกิดความต้องการทักษะที่แข็งแกร่งมากขึ้นในสายงานต่างๆ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การวางกลยุทธ์ และการสื่อสารทางดิจิทัล

เส้นทางอาชีพไม่ได้ถูกกำหนดโดยตำแหน่งงานและลำดับชั้นในบริษัทอีกต่อไป แต่เป็นการทำงานร่วมกันกับพนักงานเพื่อค้นหาจุดที่ลงตัวที่สุดมากกว่า


5 วิธีเริ่มต้นพัฒนาทักษะให้กับพนักงานของคุณ

5 วิธีเริ่มต้นพัฒนาทักษะให้กับพนักงานของคุณ

ท่ามกลางสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปนี้ คุณจะสามารถมอบทักษะที่ผู้คนต้องการในอนาคตแห่งการทำงานได้อย่างไร นี่คือ 5 วิธีพัฒนาทักษะให้กับพนักงานเพื่อช่วยคุณในการเริ่มต้น

  1. ประเมินกำลังแรงงานที่มีการผสมผสานทักษะและค้นหาศักยภาพ

    ภารกิจแรกของคุณคือการค้นหาว่าตอนนี้คุณมีทักษะอะไรบ้างในกำลังแรงงาน และทักษะเหล่านั้นสามารถพัฒนาเพิ่มเติมได้ทางไหนบ้าง เส้นทางอาชีพไม่ได้ถูกกำหนดโดยตำแหน่งงานและลำดับชั้นในบริษัทอีกต่อไป แต่กลับมีความเกี่ยวข้องมากขึ้นกับการทำงานร่วมกันกับพนักงานเพื่อค้นหาจุดสมดุลระหว่างความทะเยอทะยานกับความถนัด และความต้องการทางธุรกิจของคุณกับการคาดการณ์ในอนาคต

    วิธีนี้จำเป็นต้องมีการสนทนากับพนักงานและความสามารถในการประเมินทักษะจากมุมมองของทั้งบริษัท ไม่ใช่มุมมองภายในแผนกเพียงแผนกเดียว เช่น คุณอาจมีพนักงานในแผนกไอทีที่อาจประสบความสำเร็จในตำแหน่งพนักงานขายก็ได้

  2. ดูอย่างอื่นนอกจากวุฒิการศึกษา

    เมื่อการทำงานและการสรรหาบุคลากรเปลี่ยนแปลงไป ความหมายของวุฒิการศึกษาในมุมมองของนายจ้างก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน และอาจไม่ปรากฏอยู่ในคำอธิบายงานอีกเลย

    ปริญญาอาจไม่ได้สื่อถึงการมีความรู้ที่จำเป็นสำหรับโลกแห่งการทำงานในยุคปัจจุบัน และการกำหนดให้มีวุฒิปริญญาตรี รวมไปถึงประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องและคุณลักษณะส่วนบุคคลก็เป็นเชือกที่คอยผูกรั้งความสามารถของบริษัทในการดึงดูดผู้มีความสามารถที่แท้จริง

  3. ใช้ประโยชน์จากเครื่องมือ AI

    เครื่องมือ AI สามารถช่วยองค์กรขนาดใหญ่คัดกรองกลุ่มผู้มีความสามารถและประเมินต้นทุนทางทักษะได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยการสแกนโปรไฟล์ของพนักงานเพื่อค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง เครื่องมือเหล่านี้ยังสามารถช่วยให้พนักงานนำเสนอทักษะและความทะเยอทะยานของตนด้วยการอัพเดตโปรไฟล์และทำให้ข้อมูลของผู้คนเป็นปัจจุบันเสมอ

    AI ยังสามารถมีบทบาทในการปรับการพัฒนาให้เหมาะสมกับพนักงานแต่ละคน และช่วยให้พนักงานควบคุมแนวทางการเรียนรู้ของตนได้มากขึ้น รายงานประจำปี 2021 ของ CompTIA พบว่า 75% ของผู้นำแผนกทรัพยากรบุคคลคาดว่าจะเพิ่มเครื่องมือที่ตนใช้งานเพื่อปรับกิจกรรมการพัฒนาความสามารถให้เหมาะกับแต่ละบุคคล เทคโนโลยีที่เหมาะสมจะช่วยบูรณาการการเรียนรู้เข้ากับการทำงานในแต่ละวันของพนักงานได้มากขึ้น และพนักงานจะสามารถเข้าถึงข้อมูลความรู้ได้อย่างต่อเนื่องในเวลาที่ตนต้องการ

  4. ค้นหาพนักงานดาวเด่นและร่วมมือกันวางแผนพัฒนา

    ในปีที่ผ่านมา ลำดับชั้นในบริษัทเป็นสิ่งที่ควบคุมการผสมผสานทักษะในบริษัท เนื่องจากพนักงานที่ได้รับการว่าจ้างในตำแหน่งมือใหม่จะก้าวหน้าขึ้นไปตามแผนภูมิบันไดอาชีพในลักษณะที่คาดเดาได้ พร้อมกับเก็บเอาทักษะและประสบการณ์ที่จำเป็นติดตัวไปด้วย

    ภูมิทัศน์ที่ลื่นไหลและเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วส่งผลให้การพัฒนาพนักงานเป็นเรื่องส่วนบุคคล และสามารถแสดงออกมาในรูปแบบการทำงานร่วมกันแบบต่อเนื่องระหว่างพนักงานที่มีความสามารถและผู้จัดการกับโค้ชของตน แนวทางนี้ยังส่งผลต่อการมีส่วนร่วมด้วย เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสนทนาที่มีความหมายและไม่แบ่งแยกระหว่างพนักงานและผู้นำซึ่งว่าด้วยอนาคตของธุรกิจและลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์

  5. พัฒนาทักษะทางอารมณ์

    การแพร่ระบาดได้สอนให้เรารู้ว่า การฟื้นตัวของมนุษย์เป็นสิ่งที่มีค่าและทุกคนควรได้รับการสนับสนุนสุขภาพจิตในเชิงรุก และเมื่อระบบอัตโนมัติเริ่มเข้ามาดูแลงานที่เป็นกิจวัตรซ้ำๆ มากขึ้น นายจ้างจึงมุ่งเน้นที่จะเสริมสร้างทักษะทางอารมณ์ที่เกี่ยวข้องกับความเป็นมนุษย์ เช่น การรับฟังอย่างตั้งใจและการจัดการตนเอง

    แม้แต่ในด้านที่งานของมนุษย์มีความสำคัญมากกว่าที่เคย ทักษะด้านมนุษย์เหล่านี้ก็ยังคงเป็นที่ต้องการอยู่ ในการสำรวจของ CompTIA พบว่า ผู้นำฝ่ายทรัพยากรมนุษย์จำนวน 41% กล่าวว่า องค์กรของตนจะให้ความสำคัญกับทักษะทางอารมณ์ใหม่สำหรับพนักงานด้านไอทีหลังจากเกิดการแพร่ระบาด

ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

เรียนรู้เกี่ยวกับสำนักงานไร้พรมแดนไปพร้อมกัน

1 "The Transformation of L&D" LinkedIn, 2022.
2 "Workforce and learning trends 2021" compTIA, 2021.
3 "Millennials Want Jobs to Be Development Opportunities" Gallup, 2016.
บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่
ขอบคุณสำหรับความเห็นของคุณ

ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

เรียนรู้เกี่ยวกับสำนักงานไร้พรมแดนไปพร้อมกัน


โพสต์ล่าสุด

อนาคตแห่งการทำงาน | ใช้เวลาอ่าน 11 นาที

อนาคตของการทำงาน

การทำงานในเมตาเวิร์สมีลักษณะเป็นอย่างไร การทำงานแบบไฮบริดจะอยู่กับเราต่อไปอีกนานใช่ไหม แม้คุณจะไม่สามารถคาดเดาอนาคตที่รออยู่ข้างหน้าได้ 100% แต่อย่างน้อยคุณก็สามารถเตรียมองค์กรของคุณให้พร้อมสำหรับอนาคตได้

อนาคตแห่งการทำงาน | ใช้เวลาอ่าน 12 นาที

การทำงานแบบไฮบริด: ยินดีต้อนรับสู่วิธีการทำงานรูปแบบใหม่

คุณต้องการให้พนักงานกลับมาทำงานที่ออฟฟิศหรือทำงานจากที่บ้านต่อไป แล้วถ้าเอาทั้งสองรูปแบบมารวมกันล่ะ การทำงานแบบไฮบริดอาจเป็นวิธีที่เหมาะกับองค์กรของคุณที่สุดก็เป็นได้

อนาคตแห่งการทำงาน | ใช้เวลาอ่าน 6 นาที

เราจะทำงานอย่างไรในเมตาเวิร์ส

ตั้งแต่การทำงานร่วมกันในทีมไปจนถึงวัฒนธรรมของบริษัท นี่คือ 5 วิธีที่เมตาเวิร์สและ Virtual Reality จะเปลี่ยนอนาคตในการทำงานและการทำธุรกิจ