คน Gen Z ในที่ทำงาน: วิธีทำให้คนเหล่านี้มีความสุขอยู่เสมอ
ประชากร Gen Z กำลังเติบโตขึ้น และในไม่ช้าคนเหล่านี้ก็จะกลายเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่มีสัดส่วนมากที่สุดในที่ทำงาน สิ่งนี้มีความหมายอย่างไรต่อธุรกิจ เรามาสำรวจสิ่งนี้ไปด้วยกัน
![](https://static.xx.fbcdn.net/rsrc.php/v3/y4/r/-PAXP-deijE.gif)
![Gen Z in the workplace](https://scontent-ord5-2.xx.fbcdn.net/v/t39.8562-6/327056431_1212189389706249_711139366405738203_n.jpg?_nc_cat=103&ccb=1-7&_nc_sid=f537c7&_nc_ohc=IRZwTVsQckUQ7kNvgGkHJ65&_nc_ht=scontent-ord5-2.xx&oh=00_AYA7HGz0EXQsBRaBwdVYqpyVgXwc7H4TMvjSWe7VBMRCrA&oe=66AAA097)
เหตุใดพนักงานที่เป็นคน Gen Z จึงมีความสำคัญ
เจเนอเรชั่น Z หมายถึงทุกคนที่เกิดระหว่างปี 1996 ถึง 2010 ซึ่งสมาชิกที่มีอายุมากสุดในคนกลุ่มนี้จะมีอายุ 27 ปีในปี 2023 คนกลุ่มนี้ยังเป็นเจเนอเรชั่นที่มีประชากรมากที่สุด โดยคิดเป็นเกือบ 1 ใน 3 (32%) ของประชากรโลกอีกด้วย
คน Gen Z มีประสบการณ์และมุมมองต่อโลกในแบบเฉพาะตัวเช่นเดียวกับผู้คนในแต่ละยุคสมัย โดยคุณลักษณะหลักๆ บางส่วนที่ทำให้คน Gen Z แตกต่างจากคนยุคก่อนๆ มีดังนี้
คนกลุ่มนี้โตมากับโลกยุคดิจิทัล
หนึ่งในคุณลักษณะที่โดดเด่นที่สุดของคน Gen Z คือสายสัมพันธ์ระหว่างคนยุคนี้กับเทคโนโลยี ด้วยความที่เกิดมาในโลกที่มีทั้งอินเทอร์เน็ต อุปกรณ์ขนาดพกพา หน้าจอสัมผัส และโซเชียลมีเดียให้ได้ใช้งาน คน Gen Z จึงเป็นเจเนอเรชั่นแรกที่เรียกได้ว่า 'โตมากับโลกยุคดิจิทัล'
ความเข้าใจเทคโนโลยีที่ติดตัวมานี้จึงนำมาซึ่งอุปนิสัยทั้งในแง่บวกและแง่ลบ ในแง่บวก คน Gen Z เติบโตมาพร้อมกับข้อมูลที่ไม่จำกัดและอยู่ใกล้เพียงปลายนิ้ว ทั้งยังสามารถจัดการกับข้อมูลเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย จึงทำให้คนกลุ่มนี้มีนิสัยกระตือรือร้นมากกว่าเมื่อต้องเรียนรู้และศึกษาค้นคว้าสิ่งต่างๆ ด้วยตนเอง อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ก็ส่งผลให้คนกลุ่มนี้รู้สึกเบื่อและหงุดหงิดได้ง่ายจากการทำงานซ้ำๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากงานเหล่านั้นสามารถใช้ระบบอัตโนมัติจัดการได้
เรียนรู้ว่าผู้นำด้านทรัพยากรบุคคลทั่วโลกสร้างวัฒนธรรมองค์กรได้อย่างไร
ดาวน์โหลดเคล็ดลับมืออาชีพทั้ง 6 ข้อเพื่อค้นพบความเชื่อมโยงระหว่างการมีส่วนร่วมของพนักงานและวัฒนธรรมองค์กร
![](https://scontent-ord5-2.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/241657427_830327301017600_1962560683684295026_n.jpg?_nc_cat=103&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=d_lQtbn8j4kQ7kNvgHNxslY&_nc_ht=scontent-ord5-2.xx&oh=00_AYASOMmGzs6abaeLe-R_aRcdeuRCyOqBLGpTlyD7Swveyg&oe=66AA8891)
![](https://scontent-ord5-2.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/241700087_402134681493763_6402224727821764861_n.jpg?_nc_cat=102&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=Q0z5RifsOagQ7kNvgEzi5uF&_nc_ht=scontent-ord5-2.xx&oh=00_AYD1r6Wch6ZkYGCdfG1ZlO8t0Zss7fmpBmS-gBm-qwjpYA&oe=66AA8C98)
![](https://scontent-ord5-1.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/241221457_908577796409130_6487958369880006678_n.jpg?_nc_cat=111&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=Rg6tgx_FEPcQ7kNvgG-ii4B&_nc_ht=scontent-ord5-1.xx&oh=00_AYAbv49DRkXfNfBK17sD2L-57uCwkbK1ADc1kAPSniEgGg&oe=66AA9D1C)
![](https://scontent-ord5-1.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/241625011_538813510723750_6067052383644802717_n.jpg?_nc_cat=108&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=ipO-OFAm9YwQ7kNvgFiLUxn&_nc_ht=scontent-ord5-1.xx&oh=00_AYD45fvo-wx2uXZRfnbc0l86TU8LbaFb5MCaeNBnuIZwhw&oe=66AA8580)
![](https://scontent-ord5-1.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/241639311_391950989102429_5023017423346854138_n.jpg?_nc_cat=108&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=Sz1KtrjEdmUQ7kNvgFIkYe0&_nc_ht=scontent-ord5-1.xx&oh=00_AYDRKdZdZJDnLgoOQC9OyvVo5W5Mb9BQVoGgM7n3vTf94w&oe=66AA9403)
![](https://scontent-ord5-2.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/241680920_332122231999515_373331672225401460_n.jpg?_nc_cat=104&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=bGQ_GJfIxI0Q7kNvgEwaGez&_nc_ht=scontent-ord5-2.xx&oh=00_AYAo7sM3ccFHb2YrZ5vQ6pYTjp1xtX83Zne-Cui86H8gKw&oe=66AA8D86)
![](https://scontent-ord5-2.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/241256790_921023931957750_1265904103262126731_n.jpg?_nc_cat=103&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=UG9yCIjaCJsQ7kNvgEEPYmk&_nc_ht=scontent-ord5-2.xx&oh=00_AYA7MZ5qZoAh3nAAjkFxYY_IrJpjd128fSdObQzoGzFH7w&oe=66AA8432)
![](https://scontent-ord5-1.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/241676153_587765818908517_6915274023430930059_n.jpg?_nc_cat=108&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=pmnzfo5eeGIQ7kNvgGOwR4M&_nc_ht=scontent-ord5-1.xx&oh=00_AYBYlvyMRqW78Epd1GZju7vSx0bLt00lgQAhlvzUNfjeoQ&oe=66AA6DBC)
![](https://scontent-ord5-2.xx.fbcdn.net/v/t39.2365-6/241698027_372910177816075_3542654260261704366_n.jpg?_nc_cat=105&ccb=1-7&_nc_sid=9170fc&_nc_ohc=iOwtr5d85ycQ7kNvgFR2Gj9&_nc_ht=scontent-ord5-2.xx&oh=00_AYCUOY8gRODWwi296oXPonG0Okd9-tS3XWgOaMtnQ-6EaQ&oe=66AA7075)
ความหลากหลายคือเรื่องปกติสำหรับคนกลุ่มนี้
นอกจากจะเป็นเจเนอเรชั่นที่มีประชากรมากที่สุดแล้ว คน Gen Z ยังถูกมองว่าเป็นเจเนอเรชั่นที่มีความหลากหลายมากที่สุดอีกด้วย โดย Pew Research พบว่า 48% ของคน Gen Z ระบุว่าตนมีความหลากหลายทางเชื้อชาติหรือชาติพันธุ์ (อ้างอิงจากการศึกษาเฉพาะในสหรัฐฯ)
แนวคิดเรื่องเพศและเพศสภาพก็ถือเป็นประเด็นที่มีความหลากหลายมากขึ้นในหมู่คน Gen Z ด้วยเช่นกัน คนกลุ่มนี้มีแนวโน้มจะบอกว่าตนรู้จักกับคนที่อยากใช้คำสรรพนามที่มีความเป็นกลางทางเพศมากกว่าคนในเจเนอเรชั่นก่อนๆ สิ่งนี้ได้สะท้อนให้เห็นผ่านการที่คน Gen Z คาดหวังเกี่ยวกับวิธีการที่ธุรกิจและหน่วยงานต่างๆ ระบุตัวตนของพวกเขา ดังจะเห็นได้จาก 59% ของคน Gen Z ที่กล่าวว่าแบบฟอร์มหรือโปรไฟล์ออนไลน์ควรมีตัวเลือกสำหรับเพศนอกเหนือจาก "ผู้ชาย" กับ "ผู้หญิง" เมื่อเทียบกับตัวเลขเพียง 50% จากคนยุคมิลเลนเนียล 40% จากคน Gen X และ 37% จากคนยุคเบบี้บูมเมอร์
คนกลุ่มนี้ต้องเผชิญกับความโดดเดี่ยว
คน Gen Z ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็น 'เจเนอเรชั่นที่โดดเดี่ยวที่สุด' มากขึ้นเรื่อยๆ มีแนวโน้มสูงมากที่จะกล่าวว่า ตนรู้สึกเดียวดายเมื่อโตขึ้น ซึ่งปัจจัยที่มักจะถูกกล่าวโทษอยู่บ่อยๆ ก็คือเทคโนโลยี และปัจจัยล่าสุดคือการระบาดใหญ่ทั่วโลก อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้างครอบครัวก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่อาจส่งผลกระทบด้วยเช่นกัน จากการที่คนหนุ่มสาวแต่งงานกันช้าลงและผู้ปกครองทั้งสองคนต่างก็กลับไปทำงานเต็มเวลาตั้งแต่ช่วงแรกๆ ของพัฒนาการเด็ก
คน Gen Z ไม่ได้สลัดทิ้งความรู้สึกถึงความโดดเดี่ยวที่ติดตัวมานี้ไป และหลายๆ คนก็จะพาความรู้สึกนี้ไปยังที่ทำงานด้วย การศึกษาชิ้นล่าสุดจาก Cigna เผยว่า 73% ของคน Gen Z รายงานว่ารู้สึกโดดเดี่ยวเป็นบางครั้งหรือตลอดเวลา ซึ่งถือได้ว่าเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในบรรดาคนยุคต่างๆ ขณะเดียวกัน 72% ของคน Gen Z ก็รายงานถึงความรู้สึกเขินอาย และ 71% รู้สึกว่าไม่มีใครเข้าใจตนเองด้วยเช่นกัน
คนกลุ่มนี้มีหัวก้าวหน้าทางการเมือง
ด้วยความที่ข่าวสารและความเห็นจากทั่วโลกอยู่ใกล้เพียงปลายนิ้ว คน Gen Z จึงมีความคิดทางการเมืองที่ก้าวหน้ากว่าคนในยุคอื่นๆ ที่อยู่มานานกว่า และมุมมองของคนกลุ่มนี้ก็แตกต่างจากผู้อาวุโสในหลายๆ ด้านที่สำคัญด้วยเช่นกัน
ประเด็นแรกคือมุมมองเรื่องเชื้อชาติ เมื่อเทียบกับคนยุคก่อนหน้าแล้ว คน Gen Z มีแนวโน้มมากกว่าที่จะกล่าวว่า คนผิวดำได้รับการปฏิบัติที่เป็นธรรมน้อยกว่า ทั้งยังมีแนวโน้มมากกว่าที่จะเชื่อว่ารัฐบาลควรลงมือทำอย่างแข็งขันมากยิ่งขึ้นในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเกือบครึ่งหนึ่งของคน Gen Z ยังกล่าวด้วยว่า การออกกฎหมายอนุญาตการแต่งงานของเกย์และเลสเบี้ยนเป็นสิ่งที่ดีสำหรับสังคม (ข้อมูลทั้งหมดอ้างอิงจากแบบสำรวจในสหรัฐฯ ที่จัดทำโดย Pew)
คนกลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับความมั่นคงทางการเงิน
คน Gen Z เติบโตและได้เห็นผู้ปกครองของตนต้องเผชิญความยากลำบากในช่วงเศรษฐกิจขาลงอยู่หลายครั้ง ซึ่งรวมถึงวิกฤติการณ์ทางการเงินในปี 2008 ตามมาด้วยภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ (Great Recession) จนมาถึงวิกฤติค่าครองชีพในปัจจุบัน สิ่งเหล่านี้จึงทำให้คนกลุ่มนี้มีมุมมองที่เข้าใจเรื่องการเงิน
ความมั่นคงทางเศรษฐกิจจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับพนักงาน Gen Z อีกทั้งแนวความคิดที่เน้นผลในทางปฏิบัติและความมั่นคงยังเป็นแรงขับเคลื่อนที่ทำให้คนกลุ่มนี้ต้องการรายได้ที่มั่นคงและไม่อยากให้ตัวเองเป็นหนี้ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม
ความคาดหวังเกี่ยวกับที่ทำงานของคน Gen Z
คน Gen Z ที่สำเร็จการศึกษาเป็นรุ่นแรกก้าวเข้าสู่ตลาดแรงงานในปี 2019 และได้สร้างแบบอย่างเกี่ยวกับวิธีที่คนรุ่นนี้จะปฏิบัติต่อโลกแห่งการทำงานไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
รายงานล่าสุดจาก ThoughtExchange ที่มีชื่อว่า Gen Z At Work (คน Gen Z ในที่ทำงาน) ได้สรุปความคาดหวังที่สำคัญบางส่วนที่คน Gen Z มีต่อที่ทำงานไว้ดังนี้
96% ของพนักงาน Gen Z กล่าวว่า สิ่งสำคัญคือการที่ตนรู้สึกมีคุณค่า มีส่วนร่วม และได้รับการส่งเสริมสนับสนุนในที่ทำงาน
80% ของคนกลุ่มนี้ต้องการงานที่ช่วยให้ตนได้สำรวจและพัฒนาชุดทักษะใหม่ๆ มากกว่าที่จะต้องโฟกัสที่ทักษะใดทักษะหนึ่ง
79% ของคนกลุ่มนี้ต้องการให้ผู้จัดการให้ความสำคัญกับการพัฒนาตนเองของคน Gen Z มากพอๆ กับการเติบโตในหน้าที่การงาน
53% ของคนกลุ่มนี้พิจารณาเรื่องสวัสดิการในที่ทำงานเมื่อมองหาตำแหน่งงานใหม่ โดยเฉลี่ยแล้ว พนักงาน Gen Z จะเต็มใจที่จะลดเงินที่ได้ลง 19% หากความต้องการอื่นๆ นอกเหนือจากเงินเดือนของตนได้รับการเติมเต็ม
39% ของคนกลุ่มนี้ต้องการความยืดหยุ่นจากการทำงานจากทางไกลโดยเฉพาะ และ 71% ของคนที่ทำงานจากทางไกลหรือทำงานแบบไฮบริดยังกล่าวด้วยว่า ตนจะไม่กลับไปทำงานแบบที่ต้องพบปะผู้คนตลอดเวลา
พนักงาน Gen Z มีความคาดหวังที่สูงในประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล (Environmental, Social and Governance หรือ ESG) ในที่ทำงาน โดย 73% ระบุว่า ตนจะออกจากบริษัทหากแนวทางปฏิบัติของธุรกิจนั้นไม่มีจริยธรรม ขณะที่ 68% จะออกจากบริษัทหากธุรกิจของตนไม่สร้างความยั่งยืน 62% หากมีความแตกต่างทางสังคม และ 58% หากมีความแตกต่างทางการเมือง
การรับมือกับคน Gen Z
สิ่งที่คุณควรตระหนักอยู่เสมอเมื่อต้องรับมือกับคน Gen Z ในที่ทำงานมีดังนี้
เน้นความหลากหลายและการไม่แบ่งแยก
แบบสำรวจจาก EY พบว่า 63% ของพนักงาน Gen Z เชื่อว่าสิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือการทำงานกับผู้ที่มีภูมิหลังทางการศึกษาที่ต่างกัน รวมไปถึงระดับทักษะด้วย ขณะที่ 83% มองว่าการมีผู้คนจากวัฒนธรรมที่แตกต่างกันเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุดในการสร้างทีม
หากที่ทำงานของคุณขาดความหลากหลาย อาจถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องทบทวนกระบวนการจ้างงานของตนเอง รวมถึงทำงานกับทีมฝ่ายบุคคลของคุณอย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างกระบวนการจ้างงานที่เป็นธรรมและเปิดกว้างสำหรับพนักงานทุกคนที่มีภูมิหลังแตกต่างกัน คุณสามารถใช้พลังของ Workplace เพื่อลงมือทำสิ่งต่างๆ มากมายที่จะช่วยสร้างชุมชนและสายสัมพันธ์ให้มากขึ้นภายในทีมที่คุณมีอยู่ได้
ส่งเสริมเรื่องการติดต่อสื่อสาร
แม้จะสามารถใช้งานเทคโนโลยีการสื่อสารในรูปแบบดิจิทัลได้อย่างคล่องแคล่ว แต่พนักงาน Gen Z เองก็ให้ความสำคัญกับการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นด้วยเช่นกัน ดังจะเห็นได้จากการที่คนรุ่นนี้จำนวน 51% ระบุว่าตนชื่นชอบการสื่อสารแบบตัวต่อตัวมากกว่า การส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์แบบตัวต่อตัวจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการดึงดูดให้คน Gen Z มีส่วนร่วมในที่ทำงานอยู่เสมอ ซึ่งจะเป็นการสร้างวัฒนธรรมที่ส่งเสริมให้เกิดการทำงานร่วมกันและการสื่อสารแบบทีม
ตัวอย่างวิธีง่ายๆ ในการบรรลุเป้าหมายนี้ได้แก่ การเลือกใช้วิดีโอคอลแทนการโทรด้วยเสียง การจัดประชุมทีมและกิจกรรมทางสังคมอย่างสม่ำเสมอ รวมไปถึงการส่งเสริมให้ผู้จัดการถามไถ่พนักงานเป็นประจำ โดยเสนอการให้ความเห็นและตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน
ให้อิสระและสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ
พนักงาน Gen Z ไม่ต้องการทำงานเดียวไปตลอดชีวิต แต่ต้องการเปลี่ยนบทบาทใหม่ๆ อยู่เสมอ การมอบโอกาสที่หลากหลายให้พนักงาน Gen Z ของคุณได้เรียนรู้และเติบโตกว่าแค่ในบทบาทปัจจุบันของตนเองจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ผู้จัดการควรใช้ประโยชน์จากความมีอิสระและแรงจูงใจภายในตัวเองของคน Gen Z ด้วยการมอบหมายความรับผิดชอบที่อยู่นอกเหนือบทบาทและเปิดโอกาสให้คนเหล่านี้ได้แชร์ไอเดีย ตลอดจนมอบเครื่องมือสำหรับการศึกษาค้นคว้าอิสระ และบ่มเพาะความสนใจของคนเหล่านี้เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาทั้งในด้านส่วนตัวและหน้าที่การงาน
มอบความยืดหยุ่น
คน Gen Z ก้าวเข้าสู่โลกแห่งการทำงานที่การทำงานจากทางไกลและแบบไฮบริดได้รับการยอมรับในวงกว้างแล้ว ด้วยเหตุนี้ ความยืดหยุ่นในที่ทำงานจึงได้กลายมาเป็นความคาดหวังของพนักงาน Gen Z
และจากการที่มากกว่า 1 ใน 3 ของคน Gen Z ที่สำเร็จการศึกษามองหาสัญญาการทำงานที่มีความยืดหยุ่นโดยเฉพาะ บริษัทต่างๆ จึงควรที่จะมอบความยืดหยุ่นให้กับพนักงานของตนให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
สร้างวัฒนธรรมบริษัทในเชิงบวก
เส้นแบ่งระหว่างการทำงานกับบ้านที่พร่าเลือนมากกว่าที่เคยส่งผลให้พนักงาน Gen Z คาดหวังว่าชีวิตการทำงานของตนจะให้ความรู้สึกที่ดีพอๆ กับชีวิตส่วนตัว พนักงาน Gen Z ต้องการรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าในที่ทำงานและต้องการให้สายสัมพันธ์ระหว่างตนกับเพื่อนร่วมงานและผู้จัดการนั้นมีความเป็นส่วนตัวมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
การสร้างวัฒนธรรมบริษัทในเชิงบวกเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างแรงบันดาลใจแก่คน Gen Z ในที่ทำงาน คุณสามารถบรรลุสิ่งนี้ได้ผ่านการผสมผสานระหว่างการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ความโปร่งใสของธุรกิจ และการทำความเข้าใจถึงความคาดหวังต่างๆ ในแง่ของความก้าวหน้าในอาชีพ เงินเดือน และสวัสดิการ
มอบความมั่นคงทางการเงินและสิทธิประโยชน์ด้านความเป็นอยู่ที่ดี
คน Gen Z ซึ่งมีความรู้ความเข้าใจด้านการเงินพยายามที่จะสร้างความมั่นคง ทั้งยังตระหนักได้ด้วยเมื่อเงินเดือนและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ตนได้รับนั้นน้อยว่ามาตรฐาน คนเหล่านี้มีจำนวนมากถึงขนาดที่ 70% ของพนักงาน Gen Z ระบุว่าเงินเดือนเป็นแรงกระตุ้นอันดับต้นๆ ของตน นอกจากนี้ พนักงาน Gen Z ยังมีแนวโน้มจะให้ความสำคัญกับสิทธิประโยชน์ เช่น ประกันสุขภาพและสวัสดิการด้านความเป็นอยู่ที่ดีมากเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับสิทธิประโยชน์อย่างอาหารฟรีอีกด้วย
ลองเสนอเงินเดือนที่สามารถแข่งกับบริษัทอื่นได้ รวมถึงสิทธิประโยชน์ที่คัดสรรมาเพื่อความต้องการของพนักงาน Gen Z โดยเฉพาะ บริษัทต่างๆ ควรพร้อมที่จะต่อรองและเปิดกว้างในการนำเสนอหรือแลกเปลี่ยนสวัสดิการต่างๆ ให้ตอบสนองกับความคาดหวังที่เปลี่ยนแปลงไปของพนักงาน